“ทำไมนายถึงหน้าไม่อายอย่างนี้ ฉันเหลือที่นั่งตรงนี้ให้พี่ ใครใช้ให้นายมานั่ง รีบลุกออกไปเลย!”
เจิ้งเหม่ยหลิงตวาดใส่หยางเฉิน
“พอแล้ว!”
ฉินซีตวาดออกมา เธอลุกขึ้นยืนและมองด้วยสายตาโกรธเคือง “เจิ้งเหม่ยหลิง ไม่ว่ายังไง เขาก็เป็นพี่เขยของเธอ ถ้าเธอยังดูถูกเขาอีก ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้!”
เจิ้งเหม่ยหลิงพุ่งเป้าไปที่หยางเฉินหลายต่อหลายครั้ง จนในที่สุดฉินซีก็ทนไม่ไหว
เจิ้งเหม่ยหลิงช็อกไป นี่เป็นครั้งแรกที่ฉินซีเรียกชื่อเธอเต็มๆ
จนถึงตอนนี้ เธอจึงได้รู้ว่าหยางเฉินสำคัญกับฉินซีแค่ไหน
เธอไม่พอใจมาก จึงแอบก่นด่าในใจ: นังผู้หญิงต่ำ รอก่อนเถอะ คืนนี้แกเจอดีแน่!
“ฉันก็แค่อยากให้พี่คุยกับพี่เหาได้สะดวก อีกอย่างพี่เหาเป็นคนช่วยเชิญทุกท่านมาในวันนี้” เจิ้งเหม่ยหลิงแสร้งทำเป็นคนดี
เจิ้งเหม่ยหลิงทำเป็นว่านอนสอนง่าย และหันไปถลึงตาใส่หยางเฉิน จากนั้นจึงไม่ทำอะไรอีก
“ว้าว เมื่อกี้เกิดเรื่องใหญ่ที่วานด้าพลาซ่า แถวๆ สวนสนุกเมืองโจวเฉิงน่ะ!”
จู่ๆ ก็มีวัยรุ่นคนหนึ่งถือมือถือ และพูดด้วยสีหน้าตกตะลึง
“เรื่องอะไร ทำไมนายถึงตกใจขนาดนั้น” อีกคนพูดกระแหนะกระแหน
เฟิ๋งผิงเปิดวิดีโอ และหันหน้าจอให้ทุกคนดู “มีคนใช้เงินกว่าล้าน ขอแต่งงานที่วานด้าพลาซ่า ลูกโป่งกว่าสามสิบล้านลูกลอยลงมาจากท้องฟ้า”
วิดีโอนั่น คือวิดีโอที่หยางเฉินขอฉินซีแต่งงาน คิดไม่ถึงว่าจะมีคนเอาลงอินเทอร์เน็ตแล้ว
“คุณชายตระกูลไหนกัน ขอแต่งงานซะอลังการเชียว เห็นคุณชายตระกูลใหญ่อย่างพวกเราอยู่ในสายตาหรือเปล่า” มีคนพูดขึ้นด้วยสีหน้าอวดดี
หยางเฉินกับฉินซีเห็นวิดีโอในมือถือเฟิ๋งผิง น่าจะเป็นวิดีโอที่อัดจากชั้นสาม เห็นเพียงลูกโป่งมากมาย แต่ไม่เห็นตัวของหยางเฉินกับฉินซี
“ฉันเตือนว่าอย่าหาเรื่อง หมอนี่ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน”
หลังจากดูจบ เฟิ๋งผิงเก็บมือถือ และพูดกับคนที่สีหน้าอวดดี
“ก็แค่ใช้เงินไม่กี่สิบล้านขอแต่งงาน ถ้าเป็นเราก็จ่ายได้เหมือนกัน”
คนนั้นยิ้มอย่างเย็นชา แววตาของเขาหยุดลงที่หยางเฉิน เขาแสยะยิ้มแล้วพูดว่า “แต่ไม่รวมไอ้จนนี่นะ”
“ฉันเห็นข่าวด้วย ข่าวบอกว่าวัยรุ่นที่ขอแต่งงาน เป็นคุณชายใหญ่แปดตระกูลแห่งเย็นตู แหวนที่เขาขอแต่งงานคือแหวนดวงดาวชมพู”
เฟิ๋งผิงพูดอีกว่า “ประมาณสองเดือนก่อน ในงานประมูลแห่งหนึ่งในเจียงโจว มีคนประมูลแหวนดวงดาวชมพูในราคาห้าร้อยล้าน”
เมื่อคนที่อวดดีได้ยินคำพูดของ เฟิ๋งผิง สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “ใช้เงินห้าร้อยล้าน เพื่อซื้อแหวนวงเดียวเนี่ยนะ”
เฟิ๋งผิงยิ้มบางๆ “เราเจ๋งสุดในเมืองโจวเฉิง แต่เมื่อมองไปทั้งจิ่วโจว คนที่เจ๋งกว่าเรามีอีกเยอะ วัยรุ่นที่สามารถใช้เงินห้าร้อยล้านเพื่อซื้อแหวนเพชร นายคิดว่าจะเป็นคนธรรมดาเหรอ”
ตอนนี้แม้แต่เฉินอิงเหา ก็ยังพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่แห่งแปดตระกูลแห่งเย็นตู จะอยู่ที่เมืองโจวเฉิงด้วย พวกเราไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายคือใคร”
“พี่เหา ถ้าเราใช้อำนาจของตระกูลสืบดูว่าคนที่มาจากแปดตระกูลแห่งเย็นตูคือใครล่ะ” มีคนพูดเสนอขึ้นมา
เฉินอิงเหาส่งเสียงหึ จากนั้นจึงพูดอย่างเย็นชา “นายนี่มันโง่จริงๆ อย่าพูดถึงแปดตระกูลแห่งเย็นตูเลย ขนาดคุณชายในเมืองเอก เรามีสิทธิ์ไปสืบด้วยเหรอ ถ้าขืนโดนจับได้ขึ้นมา ตระกูลของนายจะถูกทำลายยังไงก็ยังไม่รู้เลย อย่าลืมสิว่าตระกูลหยางทำลายอย่างไร”
เมื่อได้ยินดังนั้น คนที่เพิ่งพูดอวดดี เหงื่อแตกเต็มหน้า และรีบพยักหน้า “พี่เหา ผมเข้าใจแล้ว คุณวางใจได้เลย ผมจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายแน่นอน!”
“เอาเถอะๆ อย่าไปสนใจคุณชายใหญ่แปดตระกูลแห่งเย็นตูอะไรนั่นเลย เราไม่มีสิทธิ์ไปพูดเรื่องของเขาหรอก”
เฉินอิงเหาพูดอย่างเหลืออด
วันนี้ให้พวกสุนัขรับใช้มา เพื่อจัดการกับหยางเฉิน ดูพวกมันทำสิ เอาแต่พูดเรื่องของคนอื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...