บทที่ 2227 เจ้าต้องการสงคราม – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War
ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 2227 เจ้าต้องการสงคราม จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
หลังจากได้ยินเสียงของหลิวชิ่ง ผู้แข็งแกร่งแห่งโลกบู๊โบราณกลางรู้สึกตัวขึ้นมาทันใด หยางเฉินกลายเป็นนักดาบอันดับหนึ่ง ในโลกบู๊โบราณกลาง เขาเป็นที่น่าอิจฉาของเหล่าผู้บำเพ็ญอัจฉริยะทั่วโลก
หยางเฉินไม่ได้อธิบายอะไร เขาได้ทำการบำเพ็ญลมปราณวิชาเซียนลึกลับที่ประมุขโลกเจียงมอบให้ ทั้งหมดก็เพื่อไม่ให้ผู้อื่นรู้ว่าการบำเพ็ญของเขานั้นมาจากพรรคบำเพ็ญเซียน
และเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าเหล่านักบูโดแห่งโลกบู๊โบราณกลางในฐานะนักดาบ ทั้งหมดเป็นความจงใจและเพื่อทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเขาเป็นนักดาบ
เนื่องจากในโลกบู๊โบราณกลาง มีเพียงผู้บำเพ็ญวิชาดาบเท่านั้นถึงสามารถปรากฏตัวออกมาราวกับปีศาจที่มากไปด้วยพรสวรรค์ได้
ใบหน้าของหลิวชิ่งเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก การคุกคามผู้บำเพ็ญวิชาดาบ มันไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน
“พี่ชาย พวกฉันมายังโลกมนุษย์โดยปราศจากความอาฆาต เพียงแค่การต้องหาผู้บำเพ็ญหนุ่มสาวมากพรสวรรค์เข้าสำนักเท่านั้น”
หลิวชิ่งรีบเอ่ยปากออกไปทันใด เห็นว่าหยางเฉินไร้ซึ่งความโกรธ เขาจึงกล่าวออกมาอีกว่า “สำนักเทียนไฮ่ของพวกฉันในโลกบู๊โบราณกลางเองก็ถือเป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่สำนักหนึ่ง หากสามารถเข้ามาในสำนักเทียนไฮ่ได้ สำหรับหนุ่มสาวแล้ว ถือเป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย”
“พี่ชาย ในเมื่อนายเองก็เป็นนักบูโดแห่งโลกมนุษย์เช่นกัน ฉันคิดว่านายก็คงไม่คิดจะขวางหรือทำลายนักบูโดรุ่นใหม่แห่งโลกมนุษย์ใช่หรือไม่?”
“แน่นอน หากพี่ชายไม่เชื่อฉัน นายก็สามารถจัดคนเข้ามาในสำนักเทียนไฮ่ได้เช่นกัน ฉันรับประกันว่าจะดูแลพี่น้องของนายที่เข้าสำนักเทียนไฮ่เป็นอย่างดี”
เขาไม่ได้มีเจตนาที่ชัดเจนในคำพูด เขาเพียงแค่ต้องการมอบความสะดวกให้หยางเฉินเท่านั้น สำนักเทียนไฮ่เป็นสำนักสูงสุดในโลกบู๊โบราณกลาง หากหยางเฉินส่งคนเข้าไปในสำนัก ทางสำนักจะต้องเลี้ยงดูเป็นอย่างดี
และสำหรับหยางเฉินมันก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
เนื่องจากในโลกมนุษย์นั้นไม่มีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับการบำเพ็ญเหมือนสำนักเทียนไฮ่
ความดีใจเผยออกมาให้เห็นจากใบหน้าของเย่จางกั๋ว เขาเข้าใจในคำมั่นสัญญาของหลิวชิ่ง สำหรับความน่าเชื่อถือของสมาคมผู้อาวุโสมันมีน้ำหนักเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องพูดถึงคนของสมาคมผู้อาวุโสที่เข้าไปในสำนักเทียนไฮ่ แม้ว่าจะมีสมาชิกของสมาคมผู้อาวุโสเข้าไปฝึกฝนในสำนักเทียนไฮ่เพียงแต่สิบคน หลังจากได้รับการฝึกฝนจากสำนักเทียนไฮ่ คนพวกนั้นจะต้องเป็นกำลังสำคัญของสมาคมผู้อาวุโสเป็นแน่
ต้องรู้ก่อนว่าสำนักเทียนไฮ่เป็นขั้วอำนาจในจุดสูงสุดแห่งโลกบู๊โบราณกลาง ชี่ทิพย์ในโลกบู๊โบราณกลางนั้นเหนือกว่าโลกมนุษย์อย่างไม่สามารถอธิบายได้ หากสามารถเข้าไปฝึกฝนในสำนักเทียนไฮ่ได้ สำหรับนักบูโดทุกคน มันเป็นเรื่องดีอย่างไม่ต้องสงสัย
แม้แต่ตัวของเย่จางกั๋วเองก็อยากจะเข้าไปฝึกฝนในโลกบู๊โบราณกลางเป็นอย่างมาก
แต่ที่ต่างจากเย่จางกั๋วก็คือ ตู้อวี้ซาน หลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของหลิวชิ่ง สีหน้าของเขาน่าเกลียดขึ้นมาทันใด
ยิ่งสมาคมผู้อาวุโสแข็งแกร่งเท่าไหร่ ขั้วอำนาจที่อยู่เบื้องหลังของตู้อวี้ซานก็ยิ่งวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น
นักบูโดในโลกมนุษย์ ท่าทางของทุกคนล้วนแตกต่างกันออกไป แต่จากใบหน้าและท่าทางของคนส่วนใหญ่ มันเปี่ยมล้นไปด้วยความคาดหวัง
ใครบ้างที่ไม่อยากเข้าไปบำเพ็ญกับขั้วอำนาจที่แข็งแกร่ง?
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขั้วอำนาจนี้เป็นจุดสูงสุดของสำนักแห่งโลกบู๊โบราณกลาง
“หู้ว~”
ในตอนนั้นเอง กระบี่โอรสสวรรค์ที่อยู่ด้านหลังของหยางเฉินก็ระเบิดขึ้นมาบนอากาศ เสียงกระบี่ดังขึ้นด้วยความคมชัด เต้นรำอยู่บนอากาศ และสุดท้ายก็กลับเข้ามาอยู่ในมือของหยางเฉิน
และในตอนนั้นเจตนาของดาบในสวรรค์และโลกนี้แข็งก็แกร่งขึ้น จิตสังหารอันเยือกเย็นห่อหุ้มผู้คนในโลกบู๊โบราณกลางไว้อย่างสมบูรณ์
ใบหน้าและท่าทางของหลิวชิ่งแข็งทื่อขึ้นมาทันใด เป็นไปได้หรือว่าเขาจะสัมผัสไม่ได้ถึงเจตจำนงแห่งดาบอันแข็งแกร่ง?
แม้ว่าหยางเฉินจะใช้เพียงแค่สายตา แต่จากเจตจำนงแห่งดาบของเขา หลิวชิ่งก็ได้คำตอบแล้ว
“นี่เขาคิดจะปฏิเสธงั้นเหรอ?”
นักบูโดแห่งโลกบู๊โบราณกลางต่างรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก
แม้ว่าจะอยู่ในโลกบู๊โบราณกลาง เมื่อได้ยินคำพูดเมื่อครู่ของหลิวชิ่ง ทุกคนต่างตกอยู่ในความคลั่งไคล้ สามารถเข้าร่วมสำนักเทียนไฮ่ได้ นั่นถือเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แล้ว
แต่ในเวลานี้หยางเฉินกลับปฏิเสธมัน ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพวกเขาจะตกใจถึงเพียงใด
“ดูเหมือนว่าพี่ชายจะปฏิเสธ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของหลิวชิ่งจางหายไป หรี่ตาลงและพูดกับหยางเฉินว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ฉันก็อยากขอคำชี้แนะจากพี่ชายสักเล็กน้อย”
เมื่อคำพูดของเขาจบลง จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้อันทรงพลังก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา
ทันใดนั้นชี่ทิพย์อันหนาแน่นก็หลั่งไหลเข้ามาสู่โลกมนุษย์ผ่านรอยแยกนั้น
หลิวชิ่งที่เตรียมรับมือการโจมตีของหยางเฉิน เวลานั้นดาบที่อยู่ในมือทั้งสองข้างของเขาแข็งทื่ออยู่กลางอากาศ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ร่างกายของเขาสั่นเทาอย่างต่อเนื่องเพราะความหวาดกลัว
“สามารถทำลายค่ายกลได้ภายในดาบเดียว?”
เขาพึมพำประโยคนี้ออกมาพร้อมกับร่างกายที่สั่นเทา
เหล่าผู้คนที่อยู่ด้านล่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
โดยเฉพาะนักบูโดจากโลกบู๊โบราณกลาง พวกเขาเข้าใจเป็นอย่างดี หากต้องการทำลายค่ายกล ระดับความยากนั้นมันมากมายเพียงใด ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งแดนนภาขั้นหกชั้นยอดก็ไม่อาจทำให้เกิดรอยแยกบนค่ายกลได้ แต่หยางเฉินกลับทำได้
“บูม บูม บูม!”
ทางด้านของกองยุทธการจงโจว เมื่อมีการบุกทะลวงแดนบูโดอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีผู้คนดึงดูดภัยพิบัติสวรรค์
ความหนาแน่นของชี่ทิพย์ระเบิดออกมาอย่างกะทันหัน ทำให้นักบูโดในโลกมนุษย์รู้สึกเหมือนได้เข้าไปบำเพ็ญในแดนศักดิ์สิทธิ์
หลังจากหนึ่งดาบที่ทำค่ายกล หยางเฉินถึงมองมาที่หลิวชิ่ง หลิวชิ่งในตอนนี้ เขาจะไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
เวลานี้เขายืนอยู่บนความว่างเปล่า โดยแทบจะลืมหายใจ
ในตอนที่เขาสูญเสียการควบคุม หยางเฉินก็เอ่ยปากออกมาว่า “นายยังอยากจะสู้กับฉันอยู่หรือเปล่า?”
ในเวลานั้นสายตาของทุกคนต่างจับจ้องมาที่ร่างกายของหลิวชิ่ง
ใบหน้าของหลิวชิ่งขาวซีดไปชั่วขณะ ตอนแรกเขาอยากจะใช้การต่อสู้นี้ในการดึงศักดิ์ศรีของตนเองกลับคืนมา แต่คิดไม่ถึงเลยว่าหยางเฉินจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ถึงขั้นที่ทำให้เขาหมดความมั่นใจในการต่อสู้
แค่ดาบเดียวก็สามารถทำลายค่ายกลได้ หากดาบเมื่อสักครู่ฟันลงมาสู่ร่างกายของเขา เช่นนั้นเขาจะไม่กลายเป็นผุยผงเลยงั้นเหรอ?
เพียงแต่ หากไม่สู้ เขาจะกลายเป็นตัวตลกแห่งโลกบู๊โบราณกลาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...