เงาของอู๋สงป้ากับเซี่ยโหวซาง เหมือนกับดาวตกสองดวง พริบตาเดียวก็หายไปจากที่เดิม
“ป้าง !”
วินาทีต่อมา ออร่าที่ทรงพลังก็ปะทุขึ้น
ในสายตาของผู้คนทั้งหลายที่ตื่นตระหนก ข้างบนคฤหัสถ์เจ้าเมือง คนสองคนยืนอยู่บนอากาศ
และเมื่อเซี่ยโหวซางกับอู๋สงป้าออกหมัด ก็ระเบิดเสียงดังกัมปนาทขึ้น
เห็นเพียงแค่ตัวของเซี่ยโหวซาง คล้ายกับว่าวที่สายขาด ถูกโจมตีลอยไปไกลหลายสิบเมตรถึงจะตั้งตัวได้ เมื่อกลับมาดูอู๋สงป้า ยืนอยู่บนความว่างเปล่า ไม่ถอยหลังแม้แต่น้อย
ภาพนี้ ทำให้ทุกคนต่างก็ตกตะลึง !
เซี่ยโหวซางเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของกองกำลังอันดับหนึ่งเมืองไป๋หู่สำนักเทียนไห่ และเป็นผู้แข็งแกร่งเบอร์สองของสำนักเทียนไห่ แต่ในตอนนี้ แค่รับหมัดเดียวของอู๋สงป้าก็ยังรับไม่ได้ ลอยไกลออกไปหลายสิบเมตร
ก่อนหน้านี้ มีข่าวลือว่า พลังที่แท้จริงของเซี่ยโหวซาง ทัดเทียมกับผู้มีอิทธิพลชั้นยอดของโลกบู๊โบราณกลาง แต่ตอนนี้ เซี่ยโหวซางถูกอู๋สงป้าโจมตีครั้งเดียวจนกระเด็น จะบอกว่าพลังที่แท้จริงของอู๋สงป้านั้นแข็งแกร่งกว่าอีกเหรอ ?
“หรือว่า อู๋สงป้าจะบรรลุถึงขั้นนั้นแล้ว ?”
“เป็นไปไม่ได้ ! ถ้าแดนของเขาถึงแดนนภาขั้นเจ็ดแล้วจริง ๆ แล้วจะทนกับสำนักเทียนไห่มาหลายปีขนาดนี้ได้ยังไง ?”
“ถึงแดนบูโดของอู๋สงป้าจะยังไม่ถึงแดนนภาขั้นเจ็ด แต่ก็ใกล้แล้ว สามารถทะลวงได้ทุกเมื่อ”
“มองไปทั้งโลกบู๊โบราณกลาง เกรงว่าจะมีแค่ประมุขโลกเท่านั้นที่ปราบอู๋สงป้าได้”
......
หยางเฉินเองก็เห็นฉากที่อู๋สงป้ากับเซี่ยโหวซางเปิดฉากต่อสู้กัน ใบหน้ามีความซาบซึ้งในบุญคุณหลายส่วน
ไม่ว่ายังไง การกระทำตอนนี้ของอู๋สงป้า ก็ถือว่าเปิดศึกกับสำนักเทียนไห่แล้ว และทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเขา
แน่นอน เขาเองก็เข้าใจดี อู๋สงป้าเปิดฉากต่อสู้กับเซี่ยโหวซาง ไม่ใช่เขาทั้งหมด
สีหน้าอู๋จื่อจิ้งเคร่งขรึมมากขึ้น จ้องมองสองคนที่อยู่บนอากาศไม่วางตา พูดเสียงเคร่งขรึม : “เซี่ยโหวซางตายแน่ ๆ !”
หยางเฉินมองอู๋จื่อจิ้งอย่างตกใจเล็กน้อย
อู๋จื่อจิ้งพูด : “บุญคุณความแค้นของคฤหัสถ์เจ้าเมืองกับสำนักเทียนไห่มีมานานมากแล้ว ถึงจุดที่จะเปิดศึกกันมานานแล้ว พูดได้แค่ว่า คุณหยางคุณเป็นคนจุดชนวนสงครามของกองกำลังใหญ่ทั้งสอง”
“ผมรู้นิสัยของพ่อผมดี ถ้าเขาลงมือ ก็หมายความว่าเขาเตรียมพร้อมที่จะเปิดศึกแล้ว ยิ่งกว่านั้นเซี่ยโหวซางเป็นผู้อาวุโสใหญ่ของสำนักเทียนไห่ ในเมื่อเปิดศึกแล้ว พ่อผมจะปล่อยเสือเข้าป่าได้ยังไงกัน ?”
หยางเฉินตระหนักได้ในทันที
ในเมื่อต้องการจะเปิดศึก เซี่ยโหวซางมาหาถึงที่เอง อู๋สงป้าไม่มีทางที่จะออมมือให้แน่นอน
หยางเฉินกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง : “ไม่ว่ายังไง บุญคุณของเจ้าเมืองอู๋ ฉันจะไม่มีวันลืม !”
ในตอนนี้ เหนือคฤหัสถ์เจ้าเมือง
มุมปากของเซี่ยโหวซางมีเลือดไหลออกมา เขาจดจ้องอู๋สงป้าพูด : “อู๋สงป้า นายอยากจะเปิดศึกเหรอ ?”
อู๋สงป้ายิ้มเยาะ : “เซี่ยโหวซาง ความสัมพันธ์ของคฤหัสถ์เจ้าเมืองกับสำนักเทียนไห่เป็นยังไง นายก็รู้ดี”
“นายคิดจะขุ่นฉันด้วยการเปิดศึก คิดว่าฉันจะอดทนเมื่อก่อนหน้านี้เหรอ ?”
ทันใดนั้นสีหน้าของเซี่ยโหวซางก็แข็งทื่อ จนถึงตอนนี้ เขาเพิ่งจะตระหนักได้ อู๋สงป้าต้องการที่จะเปิดศึกกับสำนักเทียนไห่จริง ๆ
และในเวลานั้นเอง จู่ ๆ อู๋สงป้าก็พูดเสียงดัง : “ฉันขอประกาศ นับแต่นี้ คฤหัสถ์เจ้าเมืองจะเปิดศึกกับสำนักเทียนไห่ !”
เมื่อพูดออกไป ก็ทำให้ทั้งเมืองไป๋หู่ตกตะลึง
เสียงของเขาราวกับสายฟ้าฟาด แผดไปทุกทิศทาง ในพริบตาสั้น ๆ คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้ยิน
“อู๋สงป้า แกบ้าไปแล้ว !”
ทันใดนั้นเซี่ยโหวซางก็พูดด้วยใบหน้าตกตะลึง : “ไม่ว่าจะคฤหัสถ์เจ้าเมือง หรือสำนักเทียนไห่ก็ดี ต่างก็เป็นกองกำลังชั้นยอดของเมืองไป๋หู่ ในเมื่อเปิดศึก ก็จะต้องเจ็บกันทั้งสองฝ่าย”
“ตอนนี้ม่านพลังระหว่างโลกบู๊โบราณกลางกับโลกมนุษย์กำลังแตกสลาย ไม่นานก็จะร่วมเป็นโลกเดียวกัน สำหรับกองกำลังในระดับของพวกเรา มันเป็นโอกาสสำคัญ”
“ในสถานการณ์แบบนี้ แกกล้าเปิดศึกได้ยังไง ? หรือว่าไม่ต้องการแย่งชิงโลกมนุษย์แล้วเหรอ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...