“มัวพูดไร้สาระอยู่ได้ รีบไปต้อนรับสิ!”
เจิ้งหยันรีบเดินเข้าไปต้อนรับลั่วปิง
“สวัสดีครับประธานลั่ว!”
เจิ้งหยันเดินมาตรงหน้าลั่วปิง เขาโค้งตัวจนเกือบจะเก้าสิบองศา จากนั้นจึงกล่าวทักทาย
“นายคือ?”
ลั่วปิงขมวดคิ้วแล้วถามขึ้น
“ผมเจิ้งหยัน ผู้จัดการใหญ่ของเจิ้งเหอกรุ๊ปครับ!”
“ผมโจวอวี้เจี๋ยจากตระกูลโจวครับ วันนี้เป็นงานแต่งของ โจวข่ายลูกชายของผมครับ คิดไม่ถึงว่าประธานลั่วจะมาด้วยตัวเอง เป็นเกียรติของตระกูลโจวจริงๆ ครับ เชิญประธานลั่วข้างในเลยครับ!”
เจิ้งหยันกับโจวอวี้เจี๋ย สลับกันพูด สีหน้าของทั้งสอง เต็มไปด้วยความปลื้มใจ
ต้าเหอกรุ๊ปเปรียบเหมือนกำลังหลักของตระกูลเฉินและตระกูลหยวน ว่ากันว่ามีคนใหญ่คนโตคอยหนุนหลัง อีกทั้งคนที่เคยเป็นเจ้าของต้าเหอกรุ๊ปอย่างตระกูลหยาง คนใหญ่คนโตคนนั้นโดนลั่วปิงหักหลังจนย่อยยับ
ไม่ต้องถามก็พอเดาได้ว่าทำไม เจิ้งหยันกับโจวอวี้เจี๋ยถึงนอบน้อมต่อลั่วปิง
“ไสหัวไป!”
เมื่อลั่วปิงได้ยินชื่อทั้งสองคน สีหน้าเขาเย็นยะเยือก และแผดเสียงออกมาว่า “ตระกูลไร้ค่า มีสิทธิ์อะไรให้ฉันมาร่วมงานแต่งของลูกชายนาย”
เจิ้งหยันกับโจวอวี้เจี๋ยโดนตวาดต่อหน้าทุกคน สีหน้าของคนในงานตกใจเป็นอย่างมาก
โจวอวี้เจี๋ยไม่เท่าไร แต่เจิ้งหยันเป็นผู้สืบทอดเจิ้งเหอกรุ๊ป เจิ้งเต๋อหัวมอบบริษัทให้เขาดูแลแล้ว อีกไม่นาน เขาก็จะเป็นประธานของเจิ้งเหอกรุ๊ป
แต่โดนลั่วปิงตวาดใส่ต่อหน้าทุกคน โดยไม่ไว้หน้าเขาสักนิด
เจิ้งหยันอึ้งไป ขณะเดียวกันก็รู้สึกสงสัยขึ้นในใจ
บรรดาคนในงาน เขามีฐานะสูงสุด แต่ลั่วปิงไม่ได้มาหาเขา งั้นลั่วปิงมาหาใครกันล่ะ
อย่าบอกนะว่าลั่วปิงไม่ใช่คนใหญ่คนโตที่เจิ้งเต๋อหัวบอก
ลั่วปิงก็มาหาคนใหญ่คนโตเหมือนกันเหรอ
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจิ้งหยันรู้สึกตกใจมาก
แม้แต่ลั่วปิงยังต้องมาต้อนรับคนใหญ่คนโต คนๆ นั้นจะมีอำนาจแค่ไหนกันนะ
“นั่นประธานลั่วไม่ใช่เหรอ”
ฉินยีเห็นลั่วปิง จึงหันไปถามหยางเฉินด้วยสีหน้าตกใจ
หยางเฉินขมวดคิ้ว เขาไม่ได้บอกให้ลั่วปิงมาที่นี่
ขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ลั่วปิงมาที่โต๊ะของหยางเฉิน เขาทำเหมือนไม่เห็นหยางเฉิน และหันไปยิ้มให้ฉินยี “สวัสดีครับประธานฉิน!”
ฉินยีมีสีหน้าตกใจ เธอรีบพูดว่า “สวัสดีค่ะประธานลั่ว!”
จนกระทั่งตอนนี้ เธอก็ยังงุนงง เธอรู้ว่าลั่วปิงกับหยางเฉินเป็นอะไรกัน ตอนแรกเธอนึกว่าลั่วปิงมาหาหยางเฉิน แต่เขากลับทักทายเธอเท่านั้น และไม่พูดอะไรอีก
ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่มองหยางเฉินสักนิด เหมือนคนไม่รู้จักกันอย่างไรอย่างนั้น
คนในงานเป็นญาติของตระกูลโจว พวกเขาอาจจะรู้จักต้าเหอกรุ๊ป แต่มีคนไม่มากที่จะรู้ว่าลั่วปิงคือใคร
แต่ก็มีแขกที่ไม่ใช่ญาติของคนตระกูลโจว รวมไปถึงเจ้าสัวนักธุรกิจที่เจิ้งหยันเชิญมาด้วย
พวกเขาล้วนรู้จักลั่วปิง
“สวัสดีครับประธานลั่ว ผมเป็น......”
“ไสหัวไป!”
นักธุรกิจที่เจิ้งหยันเชิญมาคนหนึ่ง เดินเข้ามาหาลั่วปิง ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยทักทาย ก็โดนลั่วปิงตวาดใส่ต่อหน้าทุกคนอย่างไร้เยื่อใย
รอยยิ้มบนใบหน้าของคนนั้นชะงักไป แต่ฐานะและตำแหน่งของลั่วปิงสูงส่งมาก อย่าว่าแต่ตวาดพวกเขาต่อหน้าทุกคนเลย ถึงจะทำร้ายพวกเขา พวกเขาก็ไม่กล้าปริปากพูดแม้แต่คำเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...