เมื่อพูดเช่นนี้ ทำให้ตำแหน่งของฉินยีสูงส่งขึ้นไปอีก
“ไม่น่าเชื่อ! เสี่ยวยีเป็นคนที่ประธานลั่วปั้นมาหรอนี่! ถ้าเป็นอย่างนี้ วันใดที่ประธานลั่วออกจากต้าเหอกรุ๊ป เขาจะให้เสี่ยวยีมาเป็นผู้จัดการใหญ่หรือเปล่า”
โจวอวี้เจี๋ยพูดด้วยสีหน้าตกใจ เขากลอกตาไปมาและพูดว่า “ถ้าเป็นแบบนี้ ฐานะขอเสี่ยวยีในเมืองโจวเฉิง ก็เทียบได้กับผู้นำตระกูลเฉินและตระกูลหยวนเลยน่ะสิ!”
“ถ้าเป็นแบบนี้ ก็ให้เสี่ยวยีรีบช่วยตระกูลโจวสิ ให้เธอพูดประจบประธานลั่ว! จากฐานะของประธานลั่ว พูดแค่ประโยคเดียว ก็สามารถทำให้ตระกูลเรากลายเป็นตระกูลระดับกลางได้เลยนะไม่แน่อาจจะเป็นตระกูลระดับสูงเลยก็ได้!”
โจวอวี้หรงตาเป็นประกาย เธอใช้สองมือจับแขนโจวยู่ชุ่ยแน่น จากนั้นจึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “พี่ อนาคตของตระกูลโจวขึ้นอยู่กับพี่แล้วนะ พี่รีบบอกให้เสี่ยวยี พูดกับประธานลั่วสิ”
“ใช่ ยู่ชุ่ย รีบไปหาเสี่ยวยีสิ บอกว่าฉันบอกให้พูดกับประธานลั่วเรื่องนี้”
นายท่านตระกูลโจวสีหน้าดีอกดีใจ และพูดอย่างตื่นเต้น
ถ้าตระกูลโจวกลายเป็นตระกูลใหญ่ได้ ในช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ ถึงตายก็ไม่เสียดายเลย
คนในตระกูลโจวคนอื่นๆ ต่างพูดเร่งให้โจวยู่ชุ่ยไปหาเสี่ยวยี
“โครม!”
จู่ๆ ก็มีเสียงดังครึกโครม รถ Jeep สีดำคันหนึ่ง พุ่งชนประตูห้องบอลรูมเข้ามา
ชายชุดดำร่างกายกำยำ เดินลงจากรถ พวกเขายืนแยกฝั่งละสองคน เหมือนกำลังต้อนรับใครอย่างไรอย่างนั้น
จากนั้นก็มีชายชราคนหนึ่ง เดินค้ำไม้เท้าเข้ามาในห้องบอลรูม
มีชายชุดดำร่างกายกำยำสองสามคน เดินตามอยู่ข้างหลัง รับรู้ได้ถึงความตึงเครียด ที่แผ่ออกมาจากตัวของคนพวกนั้น
“เฉินซิงไห่ ผู้นำตระกูลเฉิน!”
มีคนรู้จักชายชราคนนั้น จู่ๆ สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
เฉินซิงไห่ปรากฏตัวได้โหดเหี้ยมมาก เขาใช้รถชนประตูเข้ามา สร้างความตกตะลึงให้ทุกคน
สีหน้าคนตระกูลโจวเต็มไปด้วยความหวาดกลัว พวกเขาเพิ่งเคยเจอเฉินซิงไห่เป็นครั้งแรก และได้ยินคนในงานพูดว่าผู้นำตระกูลเฉินมาที่นี่ด้วยตัวเอง
หยางเฉินเจอเฉินซิงไห่เมื่อคืน แน่นอนว่าเขาจำได้ อีกทั้งลั่วปิงเพิ่งบอกเขาเมื่อครู่ ว่าตระกูลเฉินจะมาแก้แค้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกตกใจ
“ผู้ ผู้นำตระกูลเฉิน คุณ คุณมาได้ยังไงครับ”
เจิ้งหยันรีบเดินเข้าไปถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“ไสหัวไป!”
บอดี้การ์ดคนหนึ่ง ที่ยืนอยู่ข้างเฉินซิงไห่ ตบหน้าของเจิ้งหยันอย่างแรง
เจิ้งหยันเลือดกบปาก เขาล้มลงไปด้านข้าง
สีหน้าของผู้คนรอบๆ เต็มไปด้วยความหวาดกลัว โดยเฉพาะคนตระกูลโจว
วันนี้เป็นวันมงคลของตระกูล แต่เฉินซิงไห่มาที่นี่ด้วยตัวเอง ดูท่าจะมาก่อเรื่องด้วย
ในเมืองโจวเฉิง ขนาดตระกูลที่ได้รับความนิยม ตระกูลโจวยังไม่สามารถอยู่ในนั้นได้ พวกเขาเป็นแค่คนบ้านนอกที่ร่ำรวยเท่านั้น
ตระกูลเฉินเป็นหนึ่งในสองตระกูลไฮโซแห่งเมืองโจวเฉิง
เรียกได้ว่าตระกูลหนึ่งคือฟ้าที่สูงส่ง อีกตระกูลคือก้อนดินที่ต่ำต้อย ไม่สามารถเทียบกันได้ แต่การที่เฉินซิงไห่มาที่นี่ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าต้องทำให้คนคิดไม่ถึง
เจิ้งหยันน่าเวทนา ก่อนหน้านี้ตอนที่ลั่วปิงมาถึง เขาก็โดนไล่ต่อหน้าทุกคน นี่เฉินซิงไห่มาถึง เขาก็โดนเหมือนเดิม แถมยังโดนบอดี้การ์ดของเฉินซิงไห่ตบหน้าด้วย
ทุกคนพากันมองไปที่เจิ้งหยันด้วยแววตาเห็นใจ
“หยางเฉินอยู่ไหน รีบให้มันไสหัวออกมา!”
เฉินซิงไห่เดินมากลางห้องบอลรูม บอดี้การ์ดคนหนึ่ง ลากเก้าอี้เข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...