ในตอนที่หานเซี่ยวเทียนกำลังเล่าความหลังให้หยางเฉินฟังอยู่นั้น ก็มีผู้นำตระกูลเศรษฐีของเมืองโจวเฉิงสิบกว่าคนแห่กันมาที่ห้องโถงชั้นหนึ่งของร้านอาหารจุนถิง
แม้แต่ผู้นำตระกูลเฉิน เฉินซิงไห่ ก็ยืนตัวสั่นอยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้นเหมือนกัน
“โอ้วพระเจ้า! นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย? ผู้นำตระกูลเศรษฐีของเมืองโจวเฉิงต่างก็มากันจนครบเลย!”
“หรือมีคนที่ใหญ่โตมากๆ มา? ไม่อย่างนั้นเฉินซิงไห่จะมาด้วยเองได้ยังไง?”
“แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าสีหน้าของคนพวกนี้มันดูซีดๆ นะ?”
……
ภายในร้านอาหารจุนถิง ลูกค้าที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างพากันทำหน้าตกใจ
คนใหญ่คนโตที่ปกติไม่ค่อยเห็นหน้า ตอนนี้กลับอยู่กันครบเลย
ในเวลาเดียวกัน เมืองโจวเฉิง ตระกูลหยวน
ภายในวิลล่าโดดเดี่ยวหลังหนึ่ง
หยวนมู่นั่งอยู่บนโซฟาแสนหรูที่อยู่ข้างๆ ยกมือขึ้นมาดูเวลา “นี่ก็สิบเอ็ดโมงแล้ว เรื่องสนุกๆ น่าจะจบไปแล้วมั้ง?”
ตรงข้ามของเขา หยวนเซ่านั่งอยู่ตรงนั้น พูดด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มว่า “พี่ครับ เรื่องสนุกๆ น่าจะจบไปแล้วนะ ไม่แน่ไอ้หนูนั่น อาจจะถูกหักแขนหักขาต่อหน้าทุกคนไปแล้ว ฮ่าฮ่า!”
หยวนมู่ไม่พูดอะไร ไม่รู้ทำไม เขาถึงรู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ราวกับมีเรื่องใหญ่บางอย่างกำลังจะเกิดขึ้น
“พี่ครับ พี่เป็นอะไรครับ? ทำไมผมถึงรู้สึกว่าพี่อารมณ์ไม่ดีเลยครับ?”
หยวนเซ่าจ้องมองหยวนมู่ด้วยความสงสัย แล้วพูดต่อว่า “พี่รังสรรค์บทละครที่มันยอดเยี่ยมขนาดนี้ออกมา ยืมมือตระกูลเฉินไปฆ่าไอ้หนูนั่น ถ้ามันไม่ธรรมดาจริง งั้นอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเขา จะต้องไม่ยอมปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปง่ายๆ แน่ พอถึงตอนนั้น อำนาจของตระกูลเฉินต้องถูกลดทอนไปมาก เมืองโจวเฉิงในวันข้างหน้า ตระกูลหยวนของเราก็จะเป็นผู้ยิ่งใหญ่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”
หยวนมู่ส่ายหน้า “ตราบใดที่ผลยังไม่ออกมา เราเองก็ไม่ควรดีใจไปก่อน”
และในตอนนั้นเอง มือถือของหยวนมู่ก็ได้ดังขึ้น เขารีบรับสายทันที “คุณชายมู่ เกิดเรื่องแล้วครับ!”
“ว่าไงนะ?”
หยวนมู่ลุกพรวดขึ้นมาทันที แล้วถามด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมว่า “ตกลงมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? พูดมาให้ชัดๆ ซิ!”
“ตอนแรกทุกอย่างก็ราบรื่นดี มันเป็นไปตามที่คุณคิดไว้ทุกอย่าง แต่ไม่นึกเลย จู่ๆ ก็มีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น”
“ผู้นำตระกูลหานแห่งเมืองเอก หานเซี่ยวเทียน บอกว่าหยางเฉินเป็นผู่มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้ และพามันไปต่อหน้าทุกคน แถมยังทิ้งท้ายไว้ว่า ทุกคนที่ไปหาเรื่องหยางเฉิน ต้องได้รับการให้อภัยจากหยางเฉินภายในวันนี้ ไม่อย่างนั้นเขาก็จะทำให้ตระกูลของพวกเขาต้องล่มสลายครับ!”
อีกฝ่ายเล่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นให้หยวนมู่ฟัง
“โอเค ผมเข้าใจแล้ว!”
หลังจากที่หยวนมู่วางสาย สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาทันที
เรื่องมันไม่ได้เป็นไปตามที่เขาวางแผนไว้ทุกอย่าง ทั้งการปรากฏตัวของลั่วปิงกับซูเฉิงอู่ และการมาของหานเซี่ยวเทียนยิงเป็นเรื่องที่ผิดคาดมากๆ
“พี่ครับ เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ?”
หยวนเซ่าถามไปด้วยความสงสัย
หยวนมู่หันมามองเขา แล้วเล่าข้อมูลที่เพิ่งได้รับมาให้เขาฟัง
“พี่ครับ นี่มันไม่ใช่เรื่องดีเหรอครับ? แล้วที่ยังจะทำหน้าเคร่งเคลียดอยู่อีกทำไมครับ?”
หยวนเซ่าพูดด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้น “ถึงแม้ไอ้หนูนั่นจะยังไม่ตาย แต่ตระกูลเฉินกับพวกตระกูลเศรษฐีที่มีสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ก็ไปล่วงเกินหานเซี่ยวเทียนเข้าแล้ว นี่มันเป็นโอกาสอันดีที่ตระกูลหยวนของเราจะได้ครอบครองเมืองโจวเฉิงเลยนะครับ!”
“พี่ครับ ผมจะไปหาคุณปู่ตอนนี้เลย แล้วเล่าเรื่องนี้ให้ท่านฟัง คุณปู่ต้องดีใจมากแน่ๆ ครับ”
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
หยวนมู่ตะโกนออกมาเสียงดัง ขมวดคิ้วแล้วพูดไปว่า “เรื่องนี้มันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แกเห็นแค่ภายนอก สิ่งที่มันซ่อนอยู่ภายในนั้นแกไม่ได้เข้าใจอะไรเลย!”
“พี่ครับ มีอะไรที่มันซ่อนไว้อีกครับ?” หยวนเซ่านั้นไม่เข้าใจจริงๆ
หยวนมู่พูดด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม “แกอย่าลืมนะ ว่าเราเป็นที่ส่งนักฆ่าไปจัดการเฉินอิงจวิ้น ตอนนี้ตระกูลหานเข้ามายุ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่ตระกูลหานเข้ามาสืบหาความจริง มันก็มีความเป็นไปได้มากที่จะสาวมาถึงเรา”
“แกคิดว่า ถ้าหานเซี่ยวเทียนรู้ว่าการตายของเฉินอิงจวิ้นนั้นเกี่ยวข้องกับเรา คิดว่าตระกูลหานจะยอมอยู่เฉยรึไง?”
พอได้ฟังการอธิบายของหยวนมู่ หยวนเซ่าที่ยังทำหน้าดีใจเมื่อกี้ สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...