“ผมก็เห็น เมื่อกี้ผมนึกว่าตัวเองตาลาย คิดไม่ถึงว่าเป็นนิ้วของคนไข้ที่ขยับจริงๆ นี่มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว”
“ผู้ชำนาญอ้าย ท่านนี่เป็นสมบัติล้ำค่าของประเทศจิ่วโจวจริงๆ พรสวรรค์ด้านการแพทย์ของท่านทำเอาพวกเราอับอายจริงๆ”
“ผู้ชำนาญอ้าย ผมขอคารวะท่านเป็นอาจารย์ได้มั้ย”
ชั่วขณะนั้น ทั้งห้องผู้ป่วยอึกทึกครึกโครมกันสุดๆ ผู้ชำนาญผมขาวโพลนแต่ละคนถึงกับอยากจะคารวะอ้ายหลินเป็นอาจารย์
ภาพนี้ทำเอาหัวใจของโจวยู่ชุ่ยตะลึงงึงงันสุดๆ จนถึงนาทีนี้เธอถึงตระหนักได้ว่าผู้หญิงอายุน้อยคนนี้ เป็นผู้ชำนาญทางการแพทย์ที่เก่งกาจขนาดไหน
โรงพยาบาลประชาชนเจียงโจว เป็นโรงพยาบาลเกรดดีที่ดีที่สุดของเมืองเจียงโจว ผู้ชำนาญที่อยู่กัน ณ ที่นี้ เรียกได้ว่าเป็นผู้ชำนาญที่เก่งที่สุดของทั้งเมืองเจียงโจว
แต่ต่อให้เป็นผู้ชำนาญระดับนี้ เมื่ออยู่ต่อหน้าอ้ายหลินยังต้องนอบน้อมถึงเพียงนี้
ฉินซีรู้ว่าอ้ายหลินเก่งกาจมาก แต่คิดไม่ถึงว่าเธอจะเก่งกาจขนาดนี้
“ที่รัก ดีจังเลย ในที่สุดพ่อก็ใกล้จะฟื้นแล้ว” ฉินซีพูดอย่างตื้นตัน
หยางเฉินก็ดีใจมากเหมือนกัน เขารู้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วว่าเรื่องที่ฉินต้าหย่งฟื้นขึ้นมานั้นเป็นเพียงเรื่องของเวลา
“พี่อ้าย ต้องลำบากพี่ด้วย”
หยางเฉินเดินเข้าไป พูดอย่างขอบคุณ
อ้ายหลินพยักหน้าเล็กน้อย ตอบด้วยสีหน้าเหน็ดเหนื่อย “พี่เฉิน พรุ่งนี้หนูค่อยมาอีกทีตอนเก้าโมงเช้า”
“ได้”
หยางเฉินพยักหน้า หันไปสั่งหม่าชาวที่ยืนอยู่ข้างๆ “ห้าหกวันนี้ ฉันมอบหมายให้แกรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของพี่อ้าย”
“ครับ รับรองว่าจะทำภารกิจให้ลุล่วง”
หม่าชาวดีใจสุดๆ รีบยืนตัวตรงรับคำ
ฉินซีมองแผ่นหลังของอ้ายหลินและหม่าชาวที่เดินออกไปด้วยกัน ถามขึ้นด้วยความอยากรู้ “หม่าชาวกับพี่อ้าย มีแววรึ?”
หยางเฉินพยักหน้า พูดอย่างทอดถอนใจ “ตระกูลของพี่อ้ายอยู่ที่เมืองเยนตู เป็นตระกูลใหญ่ ส่วนหม่าชาวเป็นเด็กกำพร้า ไม่มั่นใจในตัวเองมาตลอด ได้แต่แอบหลงรักลับหลังข้างเดียว ส่วนพี่อ้ายรู้สึกว่าตัวเองอายุมากกว่าหม่าชาว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จึงไม่มีการพัฒนาขึ้นเลย”
“หนุ่มมีใจ นารีมีเยื่อใย?” ฉินซีถาม
หยางเฉินส่ายหัว “อย่างหม่าชาวกับพี่อ้าย เต็มที่แค่รู้สึกดีต่อกันแหละ ส่วนเรื่องมีใจ ยังไม่ขนาดนั้น”
สองสามีภรรยากอสซิปอยู่พักหนึ่ง อารมณ์ที่ไม่ดีของฉินซีที่มาจากทะเลาะกับโจวยู่ชุ่ยเมื่อกี้ ก็ดีขึ้นเยอะเพราะฉินต้าย่งกำลังจะฟื้น
หลายวันต่อมา อ้ายหลินจะมารักษาฉินต้าหย่งด้วยตัวเองทุกเช้าและกลางคืน ทุกครั้งที่รักษาใช้เวลานานถึงสองชั่วโมง
ผ่านไปสามวัน อาการของฉินต้าหย่งดีขึ้นเรื่อยๆ ดัชนีบ่งชี้อัตราชีวิตแต่ละอย่างเริ่มกลับสู่ระดับปกติเรื่อยๆ
เนื่องจากเหตุการณ์ไลฟ์สดของโจวยู่ชุ่ย มูลค่าของเยี่ยนเฉินกรุ๊ปพุ่งกระฉูด ช่วงนี้ฉินยียุ่งมาก ส่วนซานเหอกรุ๊ปทุกอย่างกำลังมั่นคง ฉินซีจึงหยุดปีใหม่ล่วงหน้า มาเฝ้าที่โรงพยาบาลทุกวัน
ส่วนโจวยู่ชุ่ยตกอยู่ในความหวาดระแวงทุกวัน มีหยางเฉินอยู่ เธอหาโอกาสลงมือไม่ได้เลย
“เหม่ยหลิง ฉันจะทำยังไงดี”
โจวยู่ชุ่ยโทรหาเจิ้งเหม่ยหลิง เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ให้เธอฟัง
อย่างไรซะตอนแรกเจิ้งเหม่ยหลิงเป็นฝ่ายมาหา บอกให้เธอลงมือกับหยางเฉิน
“ป้า ป้าพูดเรื่องอะไรกันคะ? หนูไม่เข้าใจสักประโยค” เจิ้งเหม่ยหลิงแกล้งเฉไฉ
ถ้าฉินต้าหย่งตายยังคุยง่ายหน่อย แต่นี่เขายังมีชีวิตอยู่ เวลาแบบนี้เจิ้งเหม่ยหลิงจะลงไปคลุกตัวในน้ำโคลนได้ยังไงกัน
“เจิ้งเหม่ยหลิง แกหมายความว่ายังไง ตอนนั้นแกเป็นคนมาหาฉัน บอกให้ฉันลงมือกับหยางเฉิน พอตอนนี้เห็นว่าทุกอย่างจะถูกเปิดโปงก็ไม่ยอมรับขึ้นมาเลยรึไง” โจวยู่ชุ่ยพูดอย่างมีน้ำโห
“ป้า คิดให้ถี่ถ้วนก่อนแล้วค่อยพูดจะดีกว่านะคะ หนูบอกตอนไหนว่าจะลงมือกับหยางเฉิน? ถ้าป้ายังมาตามตื๊อหนูอยู่แบบนี้ หนูจะเปิดเผยเรื่องที่ป้าจ้างคนไปลอบฆ่าฉินต้าหย่ง”
เจิ้งเหม่ยหลิงพูดพร้อมหัวเราะเย็นๆ
โจวยู่ชุ่ยหน้าเสียสุดๆพอได้ฟัง ไม่กล้าแข็งกร้าวแบบเมื่อกี้อีก น้ำเสียงเธอนุ่มนวลขึ้นเยอะ “เหม่ยหลิง ถือว่าป้าขอร้องล่ะ ได้มั้ย? แกช่วยคิดหาทางหน่อยเถอะ ตอนนี้ฉันจะทำยังไงดี?”
“ถ้าไม่หาทางแก้ไขเรื่องนี้ พอทุกอย่างถูกเปิดเผย ฉันตายแน่”
“ป้ารับประกันเลย ขอแค่แกช่วยฉันฆ่าฉินต้าหย่ง ฉันช่วยแกฆ่าหยางเฉินแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...