นี่เป็นครั้งแรกที่เจิ้งหยังตบเจิ้งเหม่ยหลิง แต่ตอนนี้เจิ้งเหม่ยหลิงไม่กล้าโกรธเรื่องนี้ เธอคุกเข่าอยู่แทบเท้าเจิ้งหยัน ร้องไห้พลางพูด “พ่อ ที่หนูทำไปก็เพื่อตระกูลเจิ้งนะ ถ้าไม่ใช่เขา ตระกูลเจิ้งของเราจะเจอกับปัญหามากมายขนาดนี้ได้ยังไง”
“ถ้าพ่อไม่ช่วยหนู รอถึงตอนที่โจวยู่ชุ่ยถูกเปิดโปง ด้วยความร้ายกาจของเธอ ต้องลากหนูออกมาด้วยแน่ๆเลยค่ะ หยางเฉินก็คงไม่ปล่อยหนูไปแน่นอน พ่อช่วยหาทางออกให้หนูด้วยนะคะ”
เจิ้งเหม่ยหลิงกลัวจริงๆ ร้องห่มร้องไห้ใหญ่โต
ถึงเจิ้งหยันจะโกรธมาก แต่ก็รู้ว่าเรื่องนี้ร้ายแรงขนาดไหน พูดในภาพรวม นี่เป็นการจ้างวานฆ่า หากเรื่องนี้ถูกเปิดเผย ต่อให้โจวยู่ชุ่ยเป็นตัวการ แต่เจิ้งเหม่ยหลิงก็ไม่รอด
ความสามารถของหยางเฉิน เขาเคยลิ้มรสมาแล้วคราวก่อนที่งานแต่งงานตระกูลโจว
ต่อให้เจิ้งหยันขายทั้งตระกูลเจิ้งยังไม่อาจช่วยเจิ้งเหม่ยหลิงไว้ได้
“พ่อ พ่อมีหนูเป็นลูกสาวแค่คนเดียวนะคะ ถ้าหนูตายไป พ่อจะทำยังไง”
“พ่อ ขอร้องนะคะช่วยหนูด้วย หนูรู้ตัวแล้วจริงๆว่าผิด หนูไม่กล้าแล้วค่ะ”
เจิ้งเหม่ยหลิงยังร้องขออย่างเวทนา เจิ้งหยันหงุดหงิดใจ พลันตวาดขึ้นมา “หุบปาก”
เจิ้งเหม่ยหลิงถึงตระหนักได้ว่าเจิ้งหยันไม่ได้ปฏิเสธ แต่เหมือนกำลังใช้ความคิด ว่าจะจัดการเรื่องนี้ยังไง
เนิ่นนาน เจิ้งหยันพลันพูดขึ้น “ตอนนี้ เรื่องนี้ มีทางแก้เพียงทางเดียว ก็คือฉินต้าหย่งต้องตาย”
“ใช่ ขอแค่ฉินต้าหย่งตายก็จะไม่มีใครรู้ความจริง ต่อให้หยางเฉินสงสัย หากไร้หลักฐานเขาก็ทำอะไรหนูไม่ได้”
เจิ้งเหม่ยหลิงรีบบอก
“แต่จะฆ่าฉินต้าหย่ง ง่ายซะที่ไหน” เจิ้งหยันหนักใจ
เมื่อกี้ เขารู้จากปากเจิ้งเหม่ยหลิงแล้วว่า ตอนนี้หยางเฉินเฝ้าอยู่ข้างกายฉินต้าหย่งตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง โจวยู่ชุ่ยไม่อาจเข้าใกล้ฉินต้าหย่งได้ แผนของเธอจึงยังไม่บรรลุ
“ถ้าหาทางล่อหยางเฉินออกมา โจวยู่ชุ่ยก็จะมีโอกาสลงมือ” เจิ้งเหม่ยหลิงกล่าว
เจิ้งหยันไม่พูดอะไร เขาทำหน้าครุ่นคิด ผ่านมาไปเนิ่นนานเขาถึงส่ายหัว “ตอนนี้อย่าไปคาดหวังอะไรกับนังผู้หญิงโง่นั่นเลย มีแต่ต้องหวังพึ่งตัวเราเองนั้นที่เป็นคนลงมือ”
“พ่อ พ่อคงไม่ได้ให้หนูไปฆ่าฉินต้าหย่งใช่มั้ยคะ? หยางเฉิงรู้แล้วนะว่าวันที่เกิดเรื่องกับฉินต้าหย่งหนูเคยไปหาโจวยู่ชุ่ย ถ้าหนูไปเมืองเจียงโจวตอนนี้ หยางเฉินต้องเอาหนูตายแน่”
เจิ้งเหม่ยหลิงตกใจจนหน้าถอดสี พูดด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์
เจิ้งหยันส่ายหัว พลางเอ่ยปาก “ตั้งแต่วันนี้ไปแกอยู่ที่นี่แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
“พ่อ แล้วเรื่องฉินต้าหย่งล่ะคะ จะทำยังไง” นี่ต่างหากสิ่งที่เจิ้งเหม่ยหลิงกังวลที่สุด
“ฉันจะไปหาคนมาฆ่าฉินต้าหย่ง” ประกายเย็นเยียบแวบผ่านไปในนัยน์ตาของเจิ้งหยัน
เจิ้งเหม่ยหลิงตัวสั่นเมื่อได้ฟัง แต่พอคิดได้ว่าฉินต้าหย่งกำลังจะตายแล้ว เธอยังรู้สึกดีใจมาก
“พ่อคะ ขอบคุณนะคะ” เธอพูดอย่างตื้นตัน
“นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันจะช่วยแก แต่ถ้าครั้งหน้าแกยังไปข้องแวะกับนังผู้หญิงโง่นั่นอีก ก็อย่าหาว่าฉันไม่สนสัมพันธ์พ่อลูกแล้วกัน” เจิ้งหยันตักเตือนด้วยสีหน้าจริงจัง
“พ่อวางใจเถอะค่ะ หนูไม่มีทางไปข้องแวะกับนังผู้หญิงโง่นั่นอีก”
เจิ้งเหม่ยหลิงรีบบอก
เจิ้งหยันพยักหน้า เดินไปโทรศัพท์อยู่ริมหน้าต่าง “ท่านหง ผมอยากขอให้ท่านช่วยฆ่าคนคนหนึ่งให้ผมหน่อย”
สุดท้าย เจิ้งหยันเจรจาเรื่องนี้สำเร็จด้วยราคาห้าล้านหยวน
“นี่เป็นครั้งสุดท้าย”
เจิ้งหยันวางสายแล้ว พูดอย่างเย็นชา
“หนูรู้แล้วค่ะพ่อ พ่อวางใจได้ หนูจะไม่นำปัญหามาให้พ่ออีกแล้วค่ะ” เจิ้งเหม่ยหลิงกล่าว
หยางเฉินที่ยังอยู่ในห้องผู้ป่วยของฉินต้าหย่งไม่รู้เลยว่า เจิ้งหยันบังอาจจ้างวานคนอื่นมาฆ่าฉินต้าหย่ง
แต่ต่อให้รู้ ก็ไม่เป็นไร
ตราบใดที่ฉินต้าหย่งยังไม่ฟื้น เขาก็ไม่มีวันไปจากโรงพยาบาล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...