ในเวลานี้เอง ผู้ชายอายุน้อยที่สวมชุดสูทคนหนึ่ง ในมือถือแก้วทรงสูงใบหนึ่งไว้ ยิ้มกริ่มเดินเข้ามาแล้ว
หลังจากยื่นมือตบไหล่ผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างกายหยางเฉิน ผู้ชายคนนั้นก็พูดอย่างโมโห “ใครแม่ง......”
เพียงแต่คำพูดของเขายังไม่ทันจบ ก็หยุดชะงักลง
เพราะเขามองเห็นใบหน้าของผู้มาเยือนแล้ว ตกใจจนฉี่เกือบราด รีบพูดทันที “คุณ......คุณชายไห่!”
ผู้เข้ามาคือหวังไห่ หลานคนโตของผู้นำตระกูลหวัง ได้รับความชื่นชอบจากผู้นำตระกูลหวัง และกิจการมากมายของตระกูลหวังล้วนมอบหมายให้เขาจัดการ
วันนี้คนที่อยากแต่งงานกับอ้ายหลิน ก็คือน้องชายแท้ๆ ของหวังไห่
“นายเปลี่ยนที่นั่งหน่อย!” หวังไห่พูดจานิ่งๆ
“ครับ......ครับ คุณชายไห่!”
คนคนนั้นกล้าปฏิเสธที่ไหนกัน รีบหลบยอมให้ที่นั่งไปทันที
หลังจากหวังไห่นั่งลงเรียบร้อย หัวเราะฮึๆ จ้องหยางเฉิน “คุณผู้ชายครับ เหมือนว่าหน้าไม่คุ้นเท่าไร ไม่ทราบว่าเป็นคุณชายจากตระกูลไหนกัน?”
ตอนที่เขาเดินมาทางนี้ หยางเฉินก็สังเกตเห็นเขาแล้ว
เห็นได้ชัดว่าคนคนนี้เป็นคนที่ตระกูลหวงจัดส่งเข้ามา เพื่อลองเชิงเขาดู
หยางเฉินไม่ได้สนใจ ยกน้ำชาที่อยู่บนโต๊ะขึ้น ดื่มหมดแก้วในทีเดียว
หม่าชาวรีบลุกขึ้น เทให้หยางเฉินเต็มแก้ว
ตั้งแต่ต้นจนจบ หยางเฉินไม่ได้ตอบรับแต่อย่างใด แกว่งน้ำชาในถ้วยชาพอร์ซเลนเบาๆ
หวังไห่ขมวดคิ้วแล้ว ในฐานะหลานชายคนโตของตระกูลหวัง และผู้นำของตระกูลหวังในอนาคต ถูกเมินเฉยเช่นนี้ ทำให้เขาขายขี้หน้ามาก
โดยเฉพาะเป็นชายหนุ่มที่ถัดกันไปไม่มากด้วย ความสนใจอยู่บนตัวเขาทั้งหมด
โดนหยางเฉินเพิกเฉย ก็คือการตบหน้าเขาเลยทีเดียว
“ไอ้หนุ่ม นายไม่มีมารยาทเลยสักนิดจริงๆ เจ้าบ่าวในวันนี้เป็นน้องชายของฉัน ฉันก็เป็นเจ้าภาพเหมือนกัน ทางเจ้าภาพถามนายอยู่ นายกลับทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น หมายความว่าไม่ได้เห็นฉันอยู่ในสายตาสักนิดเลยเหรอ?”
การอบรมของหวังไห่ดีมาก ถึงแม้จะโดนเพิกเฉยไป ถึงจะรู้สึกโกรธแค้นมาก แต่เขายังคงฝืนกลั้นความรู้สึกโกรธเอาไว้
เพียงแค่ในแววตาลึกของเขา มีแรงอาฆาตแค้นเปล่งประกาย
งานแต่งในวันนี้ฉุกละหุกอย่างมาก เมื่อวานเพิ่งกำหนดลงตัว วันนี้ก็จัดงานแล้ว
บางทีคนอื่นอาจจะไม่เข้าใจสาเหตุในนั้นดี แต่เขาในฐานะหนึ่งในผู้คุมอำนาจของตระกูลหวัง ย่อมเข้าใจเป็นธรรมดา
รวมทั้งการที่เขาเข้ามาพูดคุยกับหยางเฉินเอง ก็เป็นการบงการของตระกูลหวง
ตระกูลหวังเป็นตระกูลที่ถูกตระกูลหวงสนับสนุนขึ้นมา และสามารถพูดได้ว่าคำสั่งของตระกูลหวง สำหรับตระกูลหวังนั้นก็คือราชโองการ
หยางเฉินกล้าล่วงเกินตระกูลหวง นั่นคือกำลังวอนหาที่ตาย
“คุณผู้ชายของฉันไม่ชอบพูดไร้สาระกับคนแปลกหน้า ถ้ามีธุระก็พูดธุระมา ไม่มีธุระก็รีบไสหัวไป!”
หม่าชาวบอกทันที
เขาไม่ได้กดเสียงของตนเองให้ต่ำลง หลังจากที่พูดประโยคนี้ออกไป ชั่วขณะนั้นดึงดูดความสนใจของคนทั้งงานแล้ว
ทันใดนั้นผู้คนต่างตื่นตกใจอย่างยิ่ง
วันนี้เป็นวันมงคลสมรสของตระกูลหวัง หวังไห่ในฐานะหลานชายคนโต สถานะสูงศักดิ์มากแค่ไหน? เวลานี้คาดไม่ถึงว่าจะถูกชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนใส่ว่า“ไสหัวไป”ต่อหน้าสาธารณชน
นี่เดิมทีคือการดูถูกอย่างใหญ่หลวงต่อตระกูลหวัง
ที่เมืองเยี่ยนตู มีแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู และภายใต้แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็มีตระกูลมากมายที่แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูสนับสนุนขึ้นมา ตระกูลหวังก็เป็นตระกูลหวงที่สนับสนุนขึ้นมา
และสามารถพูดได้ว่าการไม่เคารพต่อตระกูลหวัง ก็เป็นการไม่เคารพต่อตระกูลหวงด้วย
หลังจากที่เงียบงันไปครู่หนึ่ง ในงานเกิดเสียงฮือฮาขึ้น!
“ชายหนุ่มคนนี้เป็นใครกัน? นึกไม่ถึงแม้แต่หวังไห่ยังกล้ามาตะโกนประณามต่อหน้าคนอื่น!”
“หวังไห่เป็นถึงหลานชายคนโตของผู้นำตระกูลหวัง ถึงแม้อายุยังน้อย กลับดูแลกิจการมากมายในตระกูล ได้รับความชื่นชอบของผู้นำตระกูลหวัง ชายหนุ่มคนนี้ยังกล้าเหยียดหยามเขาอีก?”
“ดูแล้วชายหนุ่มสองคนนี้คงเป็นแขกที่ไม่หวังดี!”
......
ทุกคนต่างถกเถียงกัน ล้วนทำหน้าตกใจกันหมด ในสายตาของผู้คนมากมายที่มองทางหยางเฉินและหม่าชาว เต็มไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...