The king of War นิยาย บท 462

สรุปบท บทที่ 462 ยอมจำนนต่อฉัน: The king of War

บทที่ 462 ยอมจำนนต่อฉัน – ตอนที่ต้องอ่านของ The king of War

ตอนนี้ของ The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 462 ยอมจำนนต่อฉัน จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

“ออกมาเดี๋ยวนี้!”

หวังหู่อับอายจนโกรธเคือง ร้องคำรามขึ้น

หลังจากที่เขาพูดจบลง มือปืนซึ่งในมือกุมปืนกลมือเอาไว้สิบคนก็พุ่งออกมาจากทั่วสารทิศของห้องงานเลี้ยง

ปืนกลมือสิบกระบอก ปากกระบอกปืนที่ดำมืดเล็งเป้ามาที่หยางเฉินกันหมดแล้ว

วินาทีนี้ แม้แต่อ้ายชวนยังตื่นตกใจอยู่บ้าง

เพื่อชายหนุ่มสองคนแค่นี้เอง ตระกูลหวังยังยอมเสียค่าตอบแทนสูงถึงที่สุดจริงๆ ด้วย

“คุณพ่อครับ ฆ่าพวกมันเลย เพื่อแก้แค้นให้หวังไห่!” หวังหงเชียนพูดแบบกัดฟันแน่น ใบหน้าดุร้ายเต็มที่

คนของเขาทำงานล้มเหลวแล้ว แต่หวังหู่ยังมีแผนสำรองอยู่

เขาไม่เชื่อว่าภายใต้การเล็งเป้าของปืนกลมือสิบกระบอก ชายหนุ่มสองคนนี้จะยังสามารถอยู่รอดได้

เขาไม่เชื่อว่าคนของตระกูลหวังและตระกูลอ้ายก็ไม่เชื่อเช่นกัน

“หวังหู่ ฉันให้โอกาสตระกูลหวังอีกครั้ง วางอาวุธลง ยอมจำนนต่อฉัน ไม่อย่างนั้นตระกูลหวังพังพินาศ!”

หยางเฉินเอ่ยปากทันใด ทว่ายังคงนั่งอยู่ตรงนั้น ในมือถือถ้วยชาพอร์ซเลนไว้ เพียงแต่ในแววตาลึกแอบมีแรงอาฆาตแค้นเปล่งประกาย

“ไอ้หนุ่ม แกนี่โอหังจริงๆ เลย แกโดนตระกูลหวังของฉันใช้ปืนกลมือสิบกระบอกจ่อหัวไว้ กลับจะทำให้ฉันยอมจำนนต่อแก?”

“ฮ่าๆๆๆ~”

“ไอ้หนุ่ม นี่แกตกใจจนงงไปเลยเหรอ?”

ชั่วขณะนั้นหวังหู่หัวเราะเสียงดังขึ้นมา เหมือนเพิ่งเคยได้ยินเรื่องตลกที่น่าขำมากขนาดนี้

เมื่อสักครู่หม่าชาวฆ่าหวังไห่ต่อหน้าสาธารณชน และสังหารนักฆ่าสี่คนของหวังหงเชียนแล้ว ทำให้คนของตระกูลหวังล้วนเกลียดเขาแทบแย่ไปตั้งนานแล้ว

แต่เมื่อสักครู่นึกถึงความยิ่งใหญ่ของหม่าชาว พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่โมโห แต่ไม่กล้าพูดจา

เวลานี้มองเห็นหยางเฉินและหม่าชาวโดนมือปืนล้อมรอบขึ้นมา ใบหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความกำเริบเสิบสานและกระหยิ่มยิ้มย่อง

“กล้ามาก่อกวนในงานแต่งของตระกูลหวัง พวกไม่รู้จักที่ตาย!”

“เมื่อกี้พวกแกไม่ใช่ก้าวร้าวกันมากนักเหรอ? เอาต่อเลยสิ! ตอนนี้ทำไมไม่พูดเลยล่ะ?”

“พวกวายร้ายสองตัว เห็นตระกูลหวังเป็นตระกูลต่ำต้อยอย่างเมืองเล็กๆ ระดับสามพวกนั้นจริงเหรอ?”

“กล้าล่วงเกินตระกูลหวัง พวกแกต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”

คนของตระกูลหวัง แต่ละคนกำเริบเสิบสานไร้ที่เปรียบ

อ้ายชวนมองทุกอย่างนี้ด้วยความสงบ เขากลับมีความรู้สึกไม่ดีขึ้นมาฉับพลัน

เพราะจากบนหน้าของหยางเฉิน เขามองเห็นเพียงแรงอาฆาต ไม่มีความหวาดกลัว

ส่วนหม่าชาวที่อยู่ด้านหลังหยางเฉินยิ่งท่าทางไม่กลัว ในสายตากลับมีการเย้ยหยันระดับหนึ่ง เหมือนกำลังเยาะเย้ยอยู่ว่าคนของตระกูลหวังโง่เง่ากันมากแค่ไหน

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ อย่างนั้นตระกูลหวังก็หายตัวไปได้แล้ว!”

หยางเฉินพูดจาอย่างสบายอารมณ์มาประโยคหนึ่ง

“ยิงปืนเดี๋ยวนี้ ยิงปืน!”

ทันใดนั้นหวังหู่รู้สึกถึงความผิดปกติแล้ว คำพูดของหยางเฉิน ทำให้เขารู้สึกหนาวเย็นเสียดกระดูกไปทั้งตัว

เขาโดนขู่จนตกใจจริงๆ อย่างคาดไม่ถึง ชั่วขณะนั้นอับอายจนโมโห มีเพียงอยากรีบมองเห็นหยางเฉินโดนฆ่าทิ้ง

“ปัง! ปัง! ปัง!”

ในชั่วขณะที่เขาสั่งการลงไป ปืนกลมือสิบกระบอกก็ลั่นไกปืนทันที

ปากกระบอกปืนที่ดำมืด พ่นยิงเปลวไฟที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เล็งตรงศีรษะของหยางเฉินไปตรงๆ

ในขณะเดียวกัน บางทีอาจพูดว่าชั่วขณะก่อนหน้าที่มือปืนพวกนั้นจะลั่นไก ภาพของหยางเฉินก็หายไปจากที่เดิมโดยฉับพลัน

ส่วนหม่าชาวเลือกหมอบลงไปบนพื้นในวินาทีแรก

“ปังๆๆ......”

แวบหนึ่ง เสียงปืนหยุดลงกะทันหัน ทุกคนต่างอ้าปากค้างแล้ว มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยหน้าตาที่เหลือเชื่อเต็มที่

เห็นเพียงมือปืนสิบคนนั้น ยังไม่ทันตอบสนองเข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น ปืนกลมือในมือก็หายไปทั้งหมด

ว่ากันว่าจอมพลของชายแดนเหนือในปัจจุบันนี้ เป็นคนอายุน้อยมากคนหนึ่ง ชายหนุ่มที่อายุไม่ถึงสามสิบปี ความสามารถน่าหวั่นเกรงที่สุด

แม้แต่กระสุนปืนยังไม่มีทางทำเขาบาดเจ็บได้เลย

คนประเภทนี้ อยู่เหนือขอบเขตของมนุษย์แล้ว

คนคนเดียว สามารถต้านทานได้ครึ่งประเทศ!

แค่คิดก็รู้ถึงความน่ากลัวของคนประเภทนี้

“คุณพ่อครับ เขาแค่กำลังแสร้งทำเป็นเก่งเท่านั้นเอง ฆ่าเขาแล้ว ถึงจะช่วยชีวิตตัวเองรอดได้ ไม่อย่างนั้นอาศัยความสามารถที่เขาแสดงออกมาเมื่อกี้ อยากฆ่าพวกเราคงง่ายดายมาก!”

หลังผ่านความตื่นตกใจช่วงสั้นๆ หวังหงเชียนกัดฟันแน่นแล้วพูดขึ้น

เขารู้ว่าหยางเฉินต้องไม่ปล่อยตระกูลหวังไปแน่นอน จึงทำได้เพียงฝากความหวังไว้บนตัวหวังหู่ หวังว่าหวังหู่จะยังมีแผนสำรองที่เตรียมไว้อีก

“ไอ้หนุ่ม แกคงไม่ได้คิดว่าพวกฉันจะเตรียมแค่พวกนี้ไว้ให้พวกแก แล้วไม่มีแผนการที่สุดยอดอย่างอื่นเตรียมไว้จริงๆ หรอกมั้ง?”

ฟังคำพูดของหวังหงเชียนแล้ว หวังหู่ไม่ลังเลอีกต่อไป พูดแบบหน้าตาบ้าคลั่งเต็มที่ “ฉันจะบอกแกตามจริง นอกจากมือปืนพวกนี้แล้ว ฉันยังเตรียมมือซุ่มยิงชื่อดังระดับโลกไว้สามคน”

“ปืนซุ่มยิงบาร์เร็ตต์สามกระบอก ตอนนี้เล็งเป้าที่หัวของแกแล้ว”

“ขอแค่ฉันสั่งไปคำเดียว สมองของแกจะโดนยิงจนระเบิดในทันที”

“ตอนนี้ แกยังคิดว่าอาศัยแค่กำลังของแกคนเดียว จะสามารถต่อต้านตระกูลหวังของฉันได้เหรอ?”

หวังหู่ไม่คำนึงถึงอะไรอย่างสุดๆ เขาไม่มีที่เหลือให้เลือกสิ่งใดแล้ว

เหมือนที่หวังหงเชียนพูดเอาไว้ ด้วยความยิ่งใหญ่แข็งแกร่งของหยางเฉิน ถ้าไม่ทำให้หยางเฉินตาย ตระกูลหวังจะต้องพังพินาศลง

เดิมทีหวังหงเชียนที่แอบมีความหวังเพียงแค่นิดหน่อย หลังได้ยินคำพูดของบิดาตนเอง ความหวาดกลัวในใจมลายหายไปในที่สุด ทันใดนั้นเขาเงยหน้าหัวเราะขึ้นมา “ไอ้หนุ่ม แกหลบปืนกลมือไปได้ แต่แกจะหลบการยิงของปืนซุ่มยิงไปได้เหรอ?”

“แกกล้าฆ่าลูกชายฉัน ฉันจะให้ศพแกแหลกละเอียด!”

“รอฉันฆ่าแกแล้ว ฉันยังจะตามหาแต่ละคนที่เกี่ยวข้องกับแก จากนั้นส่งพวกเขาแต่ละคนไปนรกเป็นเพื่อนแก ฮ่าๆๆๆ~”

หวังหงเชียนหัวเราะเสียงดังขึ้นมาแล้ว ในสายตาคลุ้มคลั่งเต็มที่

คนอื่นของตระกูลหวังต่างทำหน้าตื่นเต้นเช่นกัน อยากลงมือฆ่าหยางเฉินด้วยตนเองใจแทบขาดแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War