“รูกระสุนเหมือนจะเล็กนิดเดียวจริงๆ! ดูขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของกระสุน เหมือนว่าเป็น......ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของตะเกียบ!”
มีคนร้องตกใจขึ้นมา จากนั้นสายตามองไปยังหยางเฉิน
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนต่างตกอยู่บนตัวของหยางเฉินทันที
เห็นเพียงในมือของหยางเฉินยังถือตะเกียบสแตนเลสอันหนึ่งไว้
“ปัง!”
ภายใต้ความตื่นตกใจของทุกคน หยางเฉินถือโอกาสเขวี้ยงตะเกียบสแตนเลสอันนั้นออกไปแล้ว
ตามมาด้วยเสียงปะทะทีหนึ่ง บนกระจกปรากฏรูเล็กขึ้นมาอีกรอยหนึ่ง
ส่วนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูเล็กอันนี้ กับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของรูเล็กสามอันเมื่อสักครู่นั้น เหมือนกันโดยสิ้นเชิง!
“ปังๆๆ!”
ตอนที่สายตาของทุกคนจดจ่ออยู่บนรูเล็กเมื่อสักครู่นั้น หยางเฉินหยิบตะเกียบสแตนเลสสองสามอันขึ้นมาอีก ก่อนจะเขวี้ยงออกไปอย่างสบายๆ
เสียงปะทะชัดแจ๋วดังขึ้นติดต่อกัน จากนั้นคนของตระกูลหวังและตระกูลอ้ายจึงรู้เข้าอย่างตกใจกลัว แต่ละครั้งที่หยางเฉินเขวี้ยงตะเกียบสแตนเลสในมือออกไป บนกระจกล้วนจะปรากฏรูเล็กขึ้นมารอยหนึ่ง
ตะเกียบสแตนเลสสิบกว่าอันลอยออกไปติดๆ กัน กระจกบานนั้นก็กลายเป็นตะแกรงแล้ว
รูเล็กทั้งหมด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางเหมือนกันทั้งสิ้น
ผู้แข็งแกร่งด้านต่อสู้บางส่วนของตระกูลหวังและตระกูลอ้าย กลับพบเรื่องราวที่น่าตกใจอย่างยิ่งเรื่องหนึ่งจากในรูกระสุนที่หนาแน่นพวกนี้
พวกเขามีคนที่สามารถทำแบบนี้ได้ ใช้ตะเกียบสแตนเลสขว้างทะลุกระจก แต่ว่ากลับไม่มีคนสามารถทำให้ช่วงเวลาที่ตะเกียบทะลุกระจกไป ยังทำให้กระจกอยู่ในสภาพปกติได้
มีเพียงพลังโจมตีของตะเกียบสแตนเลสที่แข็งแรงอย่างมาก ถึงจะสามารถทะลุผ่านกระจกในชั่วพริบตาเดียว เหลือเพียงรูเล็กที่เรียบร้อยรอยหนึ่งไว้ได้ และจะไม่ทำให้กระจกแตกละเอียด
นึกถึงคำพูดเมื่อสักครู่ของหยางเฉิน พวกเขาอดรู้สึกหวาดกลัวกันไม่ได้เลย
ถ้าหากหยางเฉินอยากลงมือจริง คงไม่ใช่ว่าเขานั่งตรงนั้น โยนตะเกียบไม่กี่อันออกมาแบบสบายๆ ก็สามารถฆ่าพวกเขาได้แล้วเหรอ?
“เป็นไปไม่ได้! นี่เป็นไปได้ยังไง?”
เห็นได้ชัดว่าหวังหู่สำนึกไม่ถึงจุดนี้เช่นกัน เวลานี้ในลูกตาเต็มไปด้วยความรู้สึกไม่อยากเชื่อ ส่ายหน้าไม่หยุด
“กล้องส่องทางไกล! เอากล้องส่องทางไกลมาให้ฉัน!” เขาตะโกนบอก
ไม่นานรุ่นหลานของตระกูลหวังคนหนึ่งก็หยิบกล้องส่องทางไกลวิ่งเข้ามาแล้ว
หวังหู่ใช้กล้องส่องทางไกลมองเข้าไปยังตำแหน่งของมือซุ่มยิง
ตอนเขามองเห็นระหว่างคิ้วของมือซุ่มยิงคนแรก และด้านนอกยังมีตะเกียบสแตนเลสครึ่งหนึ่งโผล่ออกมาด้วย อดสั่นไปทั้งตัวไม่ได้
มองทางมือซุ่มยิงคนที่สองอีกที ก็เป็นเช่นเดียวกัน! ร่างกายของเขาซวนเซเสียสมดุล
สุดท้ายมองทางมือซุ่มยิงคนที่สาม คาดไม่ถึงก็เป็นแบบเดียวกันอีก! เขาไม่มีทางแบกรับความหวาดกลัวภายในใจได้อีกต่อไป ชั่วพริบตาเดียวแขนขาอ่อนแรง ก้นกระแทกนั่งลงบนพื้นแล้ว
“แก......แกไม่ใช่คน แกไม่ใช่คน!”
ร่างกายและเสียงของหวังหู่ล้วนสั่นเทาอย่างรุนแรง
ตึง!
คนในเหตุการณ์ทั้งหมดต่างตกใจค้างกันถึงที่สุด!
คำพูดประโยคนี้ของหวังหู่ ชัดแจ้งแล้วว่ากำลังบอกความจริงทุกคนอยู่ มือซุ่มยิงสามคนนั้น ตายแล้วจริงๆ!
“ฉันดูหน่อย!”
อ้ายชวนเดินเข้ามาอย่างว่องไว หยิบกล้องส่องทางไกลขึ้นมา มองเข้าไปยังที่ห่างไกล
ไม่นานเขาก็วางกล้องส่องทางไกลลง กลับไปถึงทางฝั่งตระกูลอ้ายอีกครั้ง บนใบหน้าแก่หง่อมที่สงบนิ่งนั้นเต็มไปด้วยความอึ้งทึ่ง
“ตระกูลหวังยังมีแผนสำรองจัดการฉันอีกไหม?” หยางเฉินตะโกนเสียงดุขึ้นฉับพลัน
คำพูดของเขาราวกับสายฟ้าฟาด ระเบิดดังข้างหูของทุกคนแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนของตระกูลอ้าย ภายใต้เสียงตะโกนที่โมโหประโยคนี้ของหยางเฉิน สั่นงั้นงกไปทั่วตัว เสียวสันหลังวาบ
คนของตระกูลอ้ายก็ตื่นตระหนกอยู่ไม่สุข มองหยางเฉินด้วยความระมัดระวัง
“ตึก!”
หวังหู่คุกเข่าลงพื้นกะทันหัน หน้าหวาดวิตกทำตัวไม่ถูกอย่างเต็มที่ “คุณหยางครับ ตระกูลหวังสำนึกผิดแล้ว ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นตระกูลหวงที่บีบบังคับ ไม่อย่างนั้นพวกเราจะกล้าลงมือกับคุณหยางได้อย่างไรครับ?”
“ขอให้คุณหยางเมตตาคนตัวเล็กๆ ด้วยนะครับ ปล่อยพวกเราตระกูลหวังไปสักครั้งเถอะครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...