ได้ยินคำพูดของหวงจง หยางเฉินส่งเสียงหัวเราะทันใด เพียงแต่เสียงหัวเราะช่างน่าสะพรึงกลัวไร้ที่เปรียบ
หรือพูดอีกอย่างคือวันนี้เป็นงานแต่งของอ้ายหลิน กลับไม่สู้พูดว่าตระกูลหวงวางแผนหนึ่งขึ้นมาเพื่อล่อหยางเฉินมาที่เมืองเยี่ยนตู
โดยเฉพาะหวังหู่ก็ยอมรับเรียบร้อย
วินาทีนั้นที่หวงจงปรากฏขึ้น หยางเฉินยิ่งแน่ใจเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหวงจงโดนปลดออกจากตำแหน่งของผู้สืบทอดผู้นำตระกูลแล้ว ปัจจุบันกลับมีคนเข้ามา แสดงว่าต้องมีภารกิจของตระกูลมาด้วยเป็นแน่
ตระกูลหวงตระกูลที่รักหน้าตาแบบนี้ ผู้สืบทอดสองคนติดกัน คนหนึ่งโดนกดคุกเข่าลงพื้นต่อหน้าสาธารณชน อีกคนหนึ่งโดนขู่จนบ้าไปแล้ว
ตระกูลหวงจะปล่อยหยางเฉินไปอย่างง่ายดายได้อย่างไรกัน?
“คุณหยางเป็นคนฉลาด หวังว่าจะไม่เลือกผิดพลาดนะ”
เห็นหยางเฉินไม่ตอบ หวงจงยิ้มกริ่มพูดขึ้น
ได้ยินว่าน้ำเสียงนิ่งเรียบมาก แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่คุกคาม
หยางเฉินหัวเราะแบบน่ากลัว ภายใต้การจับจ้องของทุกคน ส่ายหน้าฉับพลัน “จะบอกแกไว้อย่างหนึ่งนะ!”
“เรื่องอะไร?”
หวงจงเอ่ยปากสอบถามจากจิตใต้สำนึก
“พูดให้ฟังดูดีหน่อย แกไม่มีทางเปลี่ยนตัวตนของแกได้”
หยางเฉินเผยความหมายส่วนลึกในใจออกมา ตามมาด้วยหัวเราะเย้ยหยันอีกครั้ง “พูดแบบไม่น่าฟังหน่อย แกมันเป็นพวกสันดานเลวที่ยากจะเปลี่ยนได้!”
ตึง!
พอหยางเฉินพูดประโยคนี้ออกมา ไฟโกรธส่วนหนึ่งก็ระเบิดขึ้นมาจากในหัวสมองหวงจง
คนของตระกูลหวังและตระกูลอ้ายต่างทำหน้าตกใจเหมือนกัน ที่ทำให้พวกเขานึกไม่ถึงคือแม้แต่หวงจง หยางเฉินยังกล้าเหยียดหยามต่อหน้าสาธารณชน
เรื่องที่ตอนแรกหวงจงถูกหยางเฉินกดจนคุกเข่าบนพื้น เดิมทีถูกตระกูลหวงสยบข่าวลงแล้ว มีคนที่รู้น้อยมากๆ
ถ้าให้ตระกูลหวังและตระกูลอ้ายรู้เรื่องนี้ บางทีตอนนี้ยังสามารถยอมรับได้นิดหน่อย
“หยางเฉิน นี่คือแกวอนหาที่ตาย!”
หวงจงกลับคืนสู่ด้านที่แท้จริงแล้ว บนหน้าอึมครึมมากจนเหมือนน้ำฝนจะหยดลงมาได้ ไม่ปกปิดความรู้สึกอาฆาตรุนแรงที่ตนเองมีต่อหยางเฉินแม้แต่น้อย
“ที่นี่คือเมืองเยี่ยนตู และไม่ใช่เมืองเจียงโจว แกกล้ามาพูดแบบนี้กับฉัน หรือไม่กลัวว่าฉันจะทำให้แกไม่มีทางออกไปจากเมืองเยี่ยนตู?”
“อย่าเห็นว่าฉันกำลังล้อเล่นกับแกอยู่เด็ดขาด แต่ไหนแต่ไรฉันไม่เคยล้อเล่นกับศัตรู!”
หวงจงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา ไม่กลัวหยางเฉินสักนิด
หยางเฉินส่ายหน้าแล้ว พูดอย่างจำใจ “ที่แท้เป็นพวกสันดานเลวยากจะเปลี่ยนได้จริงๆ!”
“แกหุบปากไปให้ฉันเลย!”
หวงจงตะโกนขึ้นมาแล้ว
“ดูแล้วแกคงลืมความต่ำต้อยที่คุกเข่าอ้อนวอนแทบเท้าฉันในตอนแรกไปแล้ว”
หยางเฉินหัวเราะเยาะ จากนั้นวางถ้วยชาพอร์ซเลนลง พูดกำชับกับหม่าชาวที่อยู่ข้างกาย “ในเมื่อคุณหวงลืมแล้ว นายไปทำให้เขาฟื้นความจำถึงความต่ำต้อยในตอนนั้นของคุณหวงสักหน่อยสิ”
พอได้ยิน มุมปากหม่าชาววาดเส้นรัศมีวงกลมที่ชั่วร้ายขึ้นมา ก้าวเท้าเดินไปยังหวงจง เดินพลางพูดว่า “พี่เฉินพูดไม่ผิด ในเมื่อพวกสันดานเลวยากจะเปลี่ยนได้ งั้นก็ให้มันโดนเรื่องเลวร้ายอีกก็แล้วกัน!”
“สารเลว! หุบปาก! แกหุบปากไปเลยนะ!”
หวงจงโมโหจนใกล้จะบ้าแล้ว แต่ละคำแต่ละประโยคของหยางเฉินก็พูดว่าพวกสันดานเลวยากจะเปลี่ยนได้ แม้แต่ลูกน้องของหยางเฉิน คาดไม่ถึงยังกล้าเหยียดหยามตนเอง
แต่ว่าครั้งนี้ เขาไม่ได้มาแค่คนเดียว และจะไม่ถูกหยางเฉินขู่จนตกใจ
คนของตระกูลหวังและตระกูลอ้ายล้วนตกใจค้างแล้ว
ฟังความหมายของหยางเฉิน หวงจงเคยคุกเข่าขอความเมตตาต่อเขาด้วยเหรอ?
ทันใดนั้นพวกเขานึกได้ว่าสองสามเดือนก่อน ตระกูลหวงเปลี่ยนผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำกะทันหัน เรื่องนี้ยังสร้างความฮือฮาใหญ่โตขึ้นในตอนนั้น?
ตอนนั้น พวกเขาคาดเดากันว่าการเปลี่ยนผู้สืบทอดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ทำไมตระกูลหวงถึงได้ทำตามอำเภอใจเช่นนี้?
จนกระทั่งเมื่อสักครู่นี้ หยางเฉินพูดออกมาว่าหวงจงเคยคุกเข่าขอร้องกับเขา พวกเขาถึงได้รู้สาเหตุ
ที่เมืองเยี่ยนตู ตระกูลหวงขึ้นชื่อเรื่องรักศักดิ์ศรีมาก ไม่ว่าใคร ถ้าเกิดทำให้ตระกูลได้รับความอับอาย จะกลายเป็นเป้าที่ประชาชนของทั้งตระกูลหวงโจมตีเอาได้
ต่อให้ผู้นำออกหน้าเองก็ไม่มีประโยชน์
ตระกูลที่รักศักดิ์ศรีมากขนาดนี้ จะยินยอมให้เรื่องที่ผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำคุกเข่าขอความเมตตาเกิดขึ้นได้เหรอ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...