สรุปเนื้อหา บทที่ 480 ตระกูลอวี๋เหวิน – The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง
บท บทที่ 480 ตระกูลอวี๋เหวิน ของ The king of War ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
หวงเทียนเฉินคือใคร ในฐานะคนของตระกูลมั่งคั่งในเมืองเยี่ยนตู พวกเขาต่างรู้ดี
แม้แต่คนประเภทนี้ก็ถูกฆ่าโดยไม่มีใครสังเกตเห็น แค่คิดก็รู้แล้วว่า ถ้าคนของตระกูลมั่งคั่งอื่นๆ ตกเป็นเป้าหมาย พวกเขาก็จะถูกฆ่าอย่างง่ายดายเช่นกัน
“อะไรนะ? หวงเทียนเฉินกับหวงจง ตายแล้วทั้งคู่?”
“พวกเขาอยู่ในโรงพยาบาลประชาชนไม่ใช่เหรอ? ยังมียอดฝีมือชั้นหนึ่งของตระกูลอยู่ข้างกายไม่ใช่เหรอ?”
“ทำไมถึงถูกฆ่าตายได้ล่ะ?”
ภายในคฤหาสน์ตระกูลหวง ทันทีที่หยางเฉินจากไป ข่าวการถูกสังหารของหวงเทียนเฉินและหวงจงก็ได้แพร่กระจายไปถึงตระกูลหวงแล้ว
เมื่อหวงเทียนเชิงได้รู้ข่าวนี้ เขาก็ตกใจอย่างสุดขีด
จู่ๆ คำพูดที่หยางเฉินทิ้งไว้ก่อนจะออกจากตระกูลหวงก็ดังขึ้นมาในความคิดของเขา
หยางเฉินกล่าวว่า “อีกสิบนาที ตระกูลหวงจะมีเสียงของคุณเพียงคนเดียว”
หรือจะบอกว่า การตายของหวงเทียนเฉินและหวงจง หยางเฉินเป็นคนบงการ?
ในฐานะที่หวงเทียนเฉินเป็นบุคคลอันดับสองของตระกูลหวง บอดี้การ์ดข้างกายย่อมมีศักยภาพอยู่ในระดับสูงสุดของตระกูลหวง
การถูกสังหารภายใต้การคุ้มครองของยอดฝีมือระดับสูงสุดของตระกูลหวง แค่คิดก็รู้ว่าคนคนนั้นแข็งแกร่งขนาดไหน?
หวงเทียนเชิงรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน ถ้าคนที่หยางเฉินเลือกคือหวงเทียนเฉิน ไม่ใช่เขา
นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้คนที่ถูกฆ่าต้องเป็นเขา?
พอคิดถึงตรงนี้ หวงเทียนเชิงก็รู้สึกโชคดีมากที่ตนเองได้รับเลือกจากหยางเฉิน
เมืองเยี่ยนตู ภายในคฤหาสน์แบบดั้งเดิมที่หรูหราแห่งหนึ่ง
ในวิลล่าใจกลางที่หรูหราที่สุดหลังหนึ่ง มีเงาร่างชายวัยกลางคนยืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าหน้าต่างฝรั่งเศสบานใหญ่ กำลังเหม่อมองดูภาพปรากฏการณ์ที่มีมนตร์ขลังภายนอก
ชายวัยกลางคนยืนอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง ดูท่าทางหงอยเหงา
ในขณะนี้ ชายชราสวมเสื้อผ้าสมัยราชวงศ์ถังเดินเข้ามา แล้วเอ่ยปากว่า “ผู้นำ นายน้อยมาถึงเมืองเยี่ยนตูแล้ว!”
เมื่อได้ยินคำพูดของชายชราในชุดราชวงศ์ถัง ในที่สุดสีหน้าของชายวัยกลางคนก็เกิดความแปรปรวน ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้ หลังจากสงบอารมณ์ตนเองลงได้ระดับหนึ่ง เขาถึงหันกลับไป
“สิบแปดปีแล้ว! ในที่สุดเขาก็ได้มาเหยียบเมืองเยี่ยนตูนี้อีกครั้ง!”
ชายวัยกลางคนเอ่ยปากพูดช้าๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกปลงอนิจจัง ในสายตายังมีความโศกเศร้าอยู่เล็กน้อย
“สิบแปดปีก่อน ผมขับไล่พวกเขาสองแม่ลูกออกจากวงศ์ตระกูลด้วยตัวเอง แล้วยังขับไล่พวกเขาออกจากเมืองเยี่ยนตูด้วย ผมข่มขู่พวกเขาว่า จะไม่สามารถมาเหยียบเมืองเยี่ยนตูได้อีกตลอดชีวิต!”
“สิบแปดปีต่อมา เขากลับมาถึงเมืองเยี่ยนตู นั่นเป็นเพราะเขามีความมั่นใจที่จะต่อสู้กับตระกูลอวี๋เหวินแล้วจึงได้มาที่เมืองนี้ใช่หรือไม่?”
“ไม่ใช่ ด้วยตำแหน่งและศักยภาพของเขาในปัจจุบัน การจะโค่นล้มตระกูลอวี๋เหวิน มันไม่ใช่เรื่องยาก!”
“ครั้งนี้ เขามาที่เมืองเยี่ยนตูเพื่อคิดบัญชีกับผมหรือเปล่า?”
ใบหน้าของชายวัยกลางคนเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ท่าทางหงอยเหงา สูญเสียการควบคุมทางอารมณ์ไปเล็กน้อย
ในขณะนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะแก่ลงไปหลายปีในทันใด
เขาไม่ใช่ใครอื่น เป็นผู้นำของตระกูลอวี๋เหวิน หนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู อวี๋เหวินเกาหยาง บิดาผู้ให้กำเนิดหยางเฉิน
ในเวลานี้ ใบหน้าของเขามีเพียงความโศกเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เขาที่มีอายุเพียง 50 ปี แต่จอนผมนั้นหงอกขาวไปนานแล้ว หางตาก็ปกคลุมไปด้วยริ้วรอยยิบๆ
“ผู้นำ ผมคิดว่านายน้อยยังคงมีความผูกพันกับท่าน ถ้าไม่อย่างนั้น ด้วยศักยภาพและตำแหน่งในปัจจุบันของเขา คงจะมาตามหาท่านที่เมืองเยี่ยนตูตั้งนานแล้ว”
“แต่เขาก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น เท่าที่ผมรู้ ครั้งนี้เขาไม่ได้มาที่เมืองเยี่ยนตูเพื่อมุ่งหน้าหาตระกูลอวี๋เหวิน”
“แต่ตรงไปที่ตระกูลหวงเลย บังเอิญว่า หวงเทียนเฉินกับลูกชายของเขาเพิ่งถูกสังหารในโรงพยาบาลชุมชนเยี่ยนตู”
ตอนนี้หยางเฉินได้ช่วยหวงเทียนเชิงยึดครองตระกูลหวงอย่างสมบูรณ์แล้ว นี่จะเป็นขั้นตอนแรกที่เขาตระเตรียมไว้เพื่อจัดการกับตระกูลอวี๋เหวินหรือไม่?
ความกังวลของอวี๋เหวินเกาหยางก็ไม่ใช่เรื่องไร้เหตุผล
เมื่ออยู่ในตำแหน่งนี้ของเขา ก็สามารถมองเห็นได้กว้างขึ้น
เขาไม่ต้องการให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเขากับหยางเฉิน ตราบใดที่หยางเฉินเต็มใจ ตอนนี้เขาสามารถสละตำแหน่งเจ้าบ้านให้หยางเฉินได้โดยไม่ลังเลเลย
“เฉิน พ่อไม่ขอให้ลูกให้อภัย แค่หวังว่าลูกจะไม่ทรมานพ่อ หากความตายของพ่อสามารถเอามาแลกเปลี่ยนกับช่วงเวลาอันรักใคร่กลมเกลียวระหว่างเราสองพ่อลูกได้ พ่อจะไม่ยอมกะพริบตาเลย”
ดวงตาทั้งสองของอวี๋เหวินเกาหยางแดงก่ำ เสียงของเขาสะอื้นเล็กน้อย
ชายชราในชุดราชวงศ์ถังมองตามด้านหลังของอวี๋เหวินเกาหยาง แอบถอนหายใจแล้วจากไปอย่างเงียบๆ
ในสายตาของคนอื่น ชายซึมเศร้าผู้นี้เป็นผู้นำของตระกูลอวี๋เหวิน ซึ่งเป็นหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู มีความยิ่งใหญ่อันไร้ขอบเขต
แต่เขารู้ว่า ทุกอย่างไม่ใช่สิ่งที่ชายผู้นี้ต้องการ
ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากหยางเฉินออกมาจากตระกูลหวง ก็ตรงไปหาตระกูลอ้ายทันที
ในเมืองเยี่ยนตู นอกจากแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูแล้ว ยังมีตระกูลมั่งคั่งระดับสองอีกมากมาย อย่างเช่นตระกูลอ้ายก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย มีประวัติความเป็นมายาวนานนับร้อยปี
เมื่อหยางเฉินมาถึงตระกูลอ้าย ก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
ในเวลานี้ ตระกูลอ้ายเปิดไฟสว่างไสว ภายในคฤหาสน์หรูหลังใหญ่เต็มไปด้วยทายาทสายตรงของตระกูลอ้าย
อ้ายหลินแต่งกายด้วยชุดลำลองสบายๆ ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ในรอยยิ้มมีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม
“พี่เฉิน คุณมาแล้ว!”
พอเห็นหยางเฉิน อ้ายหลินก็ยืนขึ้นทักทายด้วยรอยยิ้ม
หม่าชาวที่อยู่ข้างกายอ้ายหลิน งุ่นง่านไม่เป็นสุขอยู่ตั้งนานแล้ว พอหยางเฉินมาก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก เขารีบลุกขึ้น “พี่เฉิน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...