The king of War นิยาย บท 512

สี่คนเมื่อครู่นี้ พลังฝีมือขนาดไหน เขาผู้เป็นผู้สืบทอด ย่อมรู้ดีมากกว่าคนอื่น ๆ

แต่ละคนนั้นล้วนเป็นยอดฝีมือแดนอ้านจิ้นชั้นต้นทั้ง ในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเวลานี้ ยอดฝีมือแดนอ้านจิ้นชั้นต้นระดับนี้ยังหายากปานขนหงษ์เกล็ดมังกร

สภานุภาพแข็งแกร่งขนาดนี้ กลับถูกหนุ่มในวัยเพียงยี่สิบต้น ๆ กวาดทำลายได้ ในเวลาแทบจะแค่พริบตา

ให้แม้กระทั่งเย่หวูซวง นัยน์ตาที่ลุ่มลึกทั้งคู่ ก็เต็มไปด้วยความหวาดผวา

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ ล้วนอยู่ในแผนที่เขาวาง

เขาก็รู้ถึงความแข็งแกร่งของหม่าชาว และก็รู้ถึงว่าเย่ชังมียอดฝีมือแดนอ้านจิ้นขั้นต้นอยู่สี่คน

แต่เขาไม่เคยจะคิดถึงเลยว่า เพียงแค่ประจันหน้า ยอดฝีมือแดนอ้านจิ้นขั้นต้นที่เป็นคนข้างตัวสี่คนของเย่ชัง กลับกลายเป็นลูกหนังให้หม่าชาวเตะกระเด็นลอยไป เป็นตายร้ายดียังไงไม่รู้ได้

ถ้างั้นแล้ว พลังแท้จริงของหม่าชาว จะลึกล้ำถึงขนาดไหน?

จิตใจของเขาหงุดหงิดขึ้นมาบอกไม่ถูก อีกยังแฝงความรู้สึกเสียใจนิด ๆ ว่าถ้ารู้อย่างนี้ตั้งแต่แรก ก็ไม่น่าจะไปคิดเล่นงานหยางเฉินเลย

แต่เรื่องมากันถึงขนาดนี้แล้ว จะพูดอะไร มันก็สายไปแล้ว

ในเมื่อทำลงไปแล้ว ก็ได้แต่ดันทำกันให้ถึงที่สุด

“คุณใช่เป็นทายาทสืบทอดของตระกูลเย่จริงหรือ?”

ทันใดหม่าชาวถามออกไปอย่างสงสัย ตามด้วยสีหน้าเย้ยเยาะ “ทายาททั้งแท่งของหนึ่งในแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ขนาดบอดี้การ์ดข้างกายยังอ่อนหัดขนาดนี้ ยังคิดจะเป็นหัวหน้าตระกูลได้หรือ?”

“หรือจะว่า ตระกูลเย่ย่างสู่สนธยากาล กำลังจะลาโรงลงจากเวทีเยี่ยนตูแล้ว” หม่าชาวยังคงพูดอย่างไม่เกรงใจ

บรรดาแขกเหรื่อที่มางานแซยิดหัวหน้าตระกูลเย่ ต่างเหมือนตกอยู่ในภวังค์ฝัน

ที่นี่มันบ้านตระกูลเย่ กลับกล้ามีคนพูดว่าตระกูลเย่กำลังเข้าสู่ยามค่ำอาทิตย์กำลังตก นี่มันไม่เป็นการสาปแช่งตระกูลเย่กันชัด ๆ เลยหรือ?

แต่ทว่า คนที่พูดถึงคนนี้ พลังฝีมือแข็งแกร่งมาก ขนาดผู้แกร่งกล้าข้างกายของเย่ชังยังทำอะไรไม่ได้

เย่ชังเปลี่ยนสีหน้าไปอย่างน่ากลัว เขาเป็นถึงทายาทสืบตระกูลเย่ แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา ไหนเลยจะเคยถูกหยามหมิ่นถึงขนาดนี้?

ซ้ำยังอยู่ในบ้านตระกูลเย่ ไม่ต้องคิดก็รู้ ในใจของเขาขณะนี้เจ็บแค้นโกรธเคืองขนาดไหน

คืนนี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการจัดฉลองแซยิดหัวหน้าตระกูลเย่ แท้จริงยังมีอีกเรื่องที่สำคัญยิ่งใหญ่ นั่นก็คือจะมีการแถลงการณ์ของตระกูลเย่ ประกาศการแต่งตั้งให้เย่ชังเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเย่

แต่แล้วขณะนี้ กระทั่งสี่องครักษ์ข้างกายที่ว่าเก่งกล้าที่สุดของเย่ชัง ยังถูกหม่าชาวถล่มจนแพ้ อาการเป็นตายเท่ากัน แล้วยังจะประกาศแถลงการณ์นี้ได้อีกหรือ?

ภายในห้องโถงงานจัดเลี้ยงที่ใหญ่โต อัดเต็มไปด้วยความหดหู่ที่เข้มข้น

เย่ชังพยายามเก็บกดความโกรธไว้ ตาทั้งคู่จ้องเครียดที่หยางเฉิน เขารู้ดีว่า เจ้าหนุ่มที่ยืนขรึมเงียบอยู่คนนี้ จึงใช่คนที่เขาต้องจับตาให้เป็นสำคัญ

“แกเป็นใครแน่?สามารถเอาคนหนุ่มน้อยระดับยอดฝีมือแดนอ้านจิ้นมาเป็นบอดี้การ์ดข้างตัว คงต้องไม่ใช่คนมีระดับอย่างธรรมดาเป็นแน่!”

เย่ชังมองตรงไปที่หยางเฉินแล้วถาม

หยางเฉินยิ้มเรียบ ๆ “ผมเป็นใคร สำหรับคุณ จะสำคัญด้วยหรือ?”

เย่ชังแทบสำลัก ใช่ไหมหละ เรื่องละเลงกันเละมาถึงขนาดนี้แล้ว ระหว่างพวกเขายังต้องไปเกี่ยวพันหาทางปรองดองอะไรกันได้อีก?

ให้ว่าหยางเฉินจะยอมด้วย เขาเป็นถึงทายาทสืบตำแหน่งหัวหน้าตระกูลเย่ เหมือนโดนตบหน้าต่อหน้าธารกำนัล ยังจะอดกลั้นได้อีกหรือ?

มาถึงขณะนี้ คิดจะเอาหน้าที่เสียกลับมา ก็คงเพียงต้องให้ไอ้เด็กหนุ่มสองคนนี้ชดใช้มาด้วยชีวิต จึงจะดึงเอาเกียรติภูมิตระกูลเย่ ดึงเอาหน้ากลับมาได้

“ดูทีแล้ว แกมาแบบไม่ได้มาดีแน่ ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ถ้างั้นวันนี้ พวกแกก็ไม่ต้องคิดว่าจะมีชีวิตกลับออกไปจากบ้านตระกูลเย่แล้ว!”

เย่ชังก็ได้พูดขึ้นมาทันที ท่าทีราบเรียบอย่างปกติมาก เหมือนกำลังคุยกันเรื่องทั่ว ๆ ไปไม่มีสาระ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War