พวกเขารู้สึกถึงพละกำลังอันมหาศาล ที่แผ่ออกจากตัวหยางเฉิน
ราวกับว่า หยางเฉินคือภูเขาอันสูงตระหง่าน ที่พวกเขาไม่สามารถปีนขึ้นไปได้
“นายกล้าขู่ฉันเหรอ”
เย่จี้จงพูดอย่างโมโห เขาพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ตัวเอง
“ขู่เหรอ”
หยางเฉินแสยะยิ้ม จากนั้นความน่ากลัวพลุ่งพล่านออกจากตัวเขา เหมือนคลื่นลูกใหญ่ ที่โถมไปทั่วทุกทิศทาง
หยางเฉินยกขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ร่วงลงจากพื้น
“พลั่ก!”
ทุกคนตกใจ เพราะเห็นว่าจู่ๆ พื้นหินอ่อน ใต้เท้าของหยางเฉิน แตกกระจายออกมา
นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด แต่เป็นการเริ่มต้นต่างหาก
“พลั่กๆๆ!”
เห็นเพียงที่ที่หยางเฉินก้าวเท้าลงไป แตกร้าวเป็นใยแมงมุม และรอยร้าวยังกระจายไปรอบๆ อีกด้วย
ภายในเวลาไม่กี่วินาที พื้นห้องโถงในงาน เต็มไปด้วยรอยแตก
ตอนนี้ทุกคนเบิกตาโพลง พวกเขาคิดว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่มีทางเป็นไปได้
แค่กระทืบเท้า ก็มีพลังทำลายล้างสูงขนาดนี้ นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้เหรอ
คู่หูขาวดำข้างหลังเย่จี้จง ถึงกับเบิกตาโพลง ถึงพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสั่น และจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
เดิมที คิดว่าหยางเฉินเป็นแค่คุณชายตระกูลไฮโซ ที่พอจะเทียบกับแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูได้ ส่วนหม่าชาว ก็แค่ผู้คุ้มครองฝีมือดีของหยางเฉินเท่านั้น
จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาเพิ่งรู้ หยางเฉินคือความน่ากลัวที่แท้จริง ส่วนหม่าชาว ก็แค่คนที่ติดตามเขาเท่านั้น
พละกำลังเช่นนี้ ถึงจะกวาดล้างทั้งแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู ก็ไม่เกินจริงสินะ
ในแววตาของเย่จี้จงหลงเหลือเพียงความตกใจและหวาดกลัว เขาเข้าใจขึ้นมาทันที ว่าเพราะอะไรหยางเฉินถึงปฏิเสธการเปลี่ยนนามสกุล เพื่อที่จะมาเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเย่
สำหรับผู้แข็งแกร่งเช่นนี้ ตำแหน่งเจ้าบ้านตระกูลเย่ ไม่มีอะไรน่าดึงดูดสักนิด
“เห็นแก่เสี่ยวซี ผมไม่อยากผิดใจกับตระกูลเย่ แต่ถ้าตระกูลเย่รนหาที่ตาย ผมคงต้องทำลายตระกูลเย่ เสี่ยวซีคงจะไม่ว่าอะไรผม”
สีหน้าของหยางเฉินไม่ใส่ใจอะไร พูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไป
ตอนนี้ มีหรือที่เย่จี้จงจะกล้าขวางเขา
เขาปล่อยให้หยางเฉินกับหม่าชาวออกไป
คนในตระกูลเย่ ต่างพากันเงียบกริบ ความหวาดกลัว ยังคงไม่จางหายไป
“ฉันทำอะไรผิดหรือเปล่า”
ผ่านไปนาน เย่จี้จงพึมพำกับตัวเอง ในแววตาของเขามีเพียงความเสียใจ
เย่ชังหน้าซีดเผือด คิดถึงก่อนหน้านี้ที่เขาจะฆ่าหยางเฉิน เขารู้สึกว่าตัวเองโชคดีขึ้นมาทันที
ถ้าคนที่โดนถีบเมื่อครู่เป็นเขา คงจะตายทั้งที่ยังไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดด้วยซ้ำ
ในแววตาลึกๆ ของเย่หวูซวง ก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเช่นกัน
แต่เมื่อคิดถึงตำแหน่งเจ้าบ้าน แววตาของเขาแปรเปลี่ยนเป็นแน่วแน่ขึ้นมาทันที
เย่จี้จงอายุ 80 ปีแล้ว จะตายวันไหนยังไม่รู้ ยังไงต้องได้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ก่อนที่เขาจะตาย ถึงจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นคง
สำหรับเขาแล้ว เย่จี้จงไร้อำนาจโดยสมบูรณ์ คนที่มีอำนาจเพียงคนเดียว ก็คือเย่ม่าน
หยางเฉินปล่อยตระกูลเย่ไป เพราะฉินซี งั้นก็หมายความว่า ถ้าวันใดวันหนึ่ง เย่ม่านต้องการควบคุมตระกูลเย่ หยางเฉินก็จะสู้เพื่อเธอหรือเปล่า
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นหยางเฉินต้องตายเท่านั้น!
คิดได้เช่นนี้ แววตาของเย่หวูซวงเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ถ้าใครกล้าหาเรื่องหยางเฉิน ก็ไสหัวออกจากตระกูลไปซะ ห้ามเข้ามาในเมืองเยี่ยนตูแม้แต่ก้าวเดียว!”
จู่ๆ เย่จี้จงพูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...