นี่คือธาตุแท้ของพวกคนมีอำนาจ ในโลกของพวกเขา มีเพียงแค่การหลอกลวงปลิ้นปล้อน มีเพียงผลประโยชน์เท่านั้น
ถึงจะเป็นพิธีศพของนายท่านตระกูลเย่ พวกเขาก็ฉวยโอกาสเพื่อหาผลประโยชน์
หยางเฉินมองภาพตรงหน้า ด้วยสีหน้าราบเรียบ เขายังไม่เข้าไปก้าวก่าย แต่รู้สึกหดหู่ในใจ
ถึงเขาจะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ในนั้น แต่เขาออกมาตั้งแต่ยังเล็ก พูดไปพูดมา ก็ถือว่าเกิดมาอย่างยากลำบาก
แต่ทว่าเขาค่อนข้างโชคดี ด้วยสองมือของเขา ทำให้มีอำนาจเหนือแปดตระกูลแห่งเยี่ยนตู
ตอนนี้ตระกูลเย่ตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน อันที่จริงเขาพูดเพียงประโยคเดียว ก็จัดการได้แล้ว และสามารถทำลายสองตระกูลใหญ่ อย่างตระกูลหลินกับตระกูลซุนได้ด้วย
แต่เขายังไม่ทำตอนนี้ เขาอยากรู้ว่าคนตระกูลสูงส่ง จะหน้าไม่อายได้ถึงขนาดไหน
นอกจากตระกูลหลินกับตระกูลซุน ยังมีตระกูลไหนเข้ามาก้าวก่ายอีกไหม
เขารู้ว่าควรลงมือหรือควรเงียบตอนไหน
ตอนนี้ในใจของเย่ม่าน เต็มไปด้วยความเศร้า จู่ๆ เธอเริ่มเข้าใจการกระทำของเย่จี้จงในตอนนั้น
ขอแค่ให้ตระกูลของตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ถึงจะสามารถยืนหยัดได้ ไม่งั้น ตระกูลของตัวเองคงค่อยๆ หายไปตามกาลเวลา
สำหรับตระกูลสูงส่งอย่างตระกูลเย่ การแต่งงานเพื่อสร้างเครือข่าย เป็นวิธีที่ได้ผลประโยชน์มาอย่างง่ายดาย
“ฉันไม่มีทางแต่งเข้าตระกูลหลิน!”
หลังเงียบอยู่นาน เย่ม่านกัดฟันเอ่ยขึ้น “สำหรับเรื่องที่ลูกชายคุณโดนทำร้าย เขาหาเรื่องใส่ตัวเอง ไม่เอาชีวิตเขา ถือว่าเมตตาแค่ไหนแล้ว ฉันไม่มีทางส่งคนให้หรอก!”
“ถ้าพวกคุณคิดว่า การที่พ่อฉันตายไป จะกลั่นแกล้งตระกูลเย่ได้ง่ายๆ งั้นก็ลองดู”
“แค่พวกคุณสู้สุดใจ ตระกูลเย่ก็สู้เช่นกัน! กลัวว่าพวกคุณจะไม่กล้าน่ะสิ!”
น้ำเสียงของเย่ม่านมีอำนาจมาก เธอพูดด้วยสีหน้าเย็นชา
เมื่อคำพูดออกจากปากเย่ม่าน ความอัดอั้นตันใจของคนตระกูลเย่ หายวับไปในพริบตา ทุกคนรู้สึกถึงความฮึกเหิม เลือดร้อนๆ ในตัวพลุ่งพล่านขึ้นมา
หลินเทียนเจ๋อกับซุนซวี่ แอบตกใจเล็กน้อย
การที่พวกเขาพาคนยี่สิบกว่าคนมาที่นี่ ไม่ได้ต้องการสู้ แค่ร่วมมือกันข่มขู่ให้ตระกูลเย่ยอมจำนนเท่านั้น
เพราะตระกูลเย่เป็นตระกูลระดับเดียวกับพวกเขา ถ้าสู้กันจริง ถึงตระกูลหลินร่วมมือกับตระกูลซุน สุดท้ายก็ต้องเสียหายทั้งสองฝ่าย
แค่ตระกูลเย่เสียหายมากกว่าเท่านั้น
แต่ตอนนี้แปดตระกูลแห่งเยี่ยนตูเท่าเทียมกันมาก อย่าว่าแต่บาดเจ็บสาหัสเลย ถึงจะบาดเจ็บเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนอันตรายถึงชีวิต
เพราะตระกูลอื่น พากันจดจ้องอย่างน่ากลัว และสามารถฆ่าได้ทุกเมื่อ
ถ้าขาดตระกูลใดไปสักตระกูล ตระกูลที่เหลือจะได้ผลประโยชน์มากขึ้น
“เธอแน่ใจเหรอว่าจะสู้”
หลินเทียนเจ๋อพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ในเมื่อตระกูลหลินต้องการสู้ งั้นตระกูลเย่จะสู้ด้วย!” เย่ม่านตอบอย่างแน่วแน่
เมื่อได้ยินดังนั้น หลินเทียนเจ๋อรู้สึกตื่นตระหนก
ตระกูลหลินกับตระกูลซุนร่วมมือเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้าตระกูลเย่ต้องการสู้กับตระกูลหลินจริง ตระกูลซุนอาจถือโอกาสล่าถอย
ถ้าให้เทียบระหว่างการร่วมมือกับตระกูลหลิน เพื่อสู้กับตระกูลเย่ สู้มองตระกูลหลินต่อสู้กับตระกูลเย่ตรงๆ ตระกูลซุนยังได้ผลประโยชน์มากกว่า
“พี่หลินวางใจเถอะ ในเมื่อตระกูลซุนตัดสินใจร่วมมือกับตระกูลหลินแล้ว จะสู้หรือถอยก็ต้องทำด้วยกัน ถ้าสู้ ตระกูลซุนก็สู้ด้วย”
เหมือนซุนซวี่รับรู้ความคิดในใจของหลินเทียนเจ๋อ เขายิ้มและเอ่ยขึ้น นับว่าสร้างความมั่นใจให้หลินเทียนเจ๋อ
“ผู้ชายสองคนร่วมมือกัน รังแกผู้หญิงเพียงคนเดียว หน้าไม่อายสิ้นดี”
จู่ๆ ก็มีน้ำเสียงเย้ยหยันดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...