The king of War นิยาย บท 571

สรุปบท บทที่ 571 การเปลี่ยนแปลงของตระกูลอ้าย: The king of War

ตอน บทที่ 571 การเปลี่ยนแปลงของตระกูลอ้าย จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 571 การเปลี่ยนแปลงของตระกูลอ้าย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

อ้ายหลินที่ตามหม่าชาวออกไปไกลกว่าสิบเมตร เมื่อได้ยินเสียงนี้ทั้งสองก็หยุดลง

“พ่อครับ!”

“ท่านผู้นำเก่า!”

เมื่อเห็นเขาคนนี้ ผู้คนของตระกูลอ้ายก็รีบกล่าวทักทายเขาด้วยความเคารพ

อ้ายหลินก็หันกลับมามองร่างสูงวัยคนนี้และอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “คุณปู่!”

ซึ่งเขาคนนั้นก็คืออ้ายชวน อดีตหัวหน้าครอบครัวของตระกูลอ้าย

เป็นเพราะศักยภาพของหม่าชาวกับหยางเฉิน อ้ายชวนถึงได้ประกาศสละตำแหน่งผู้นำของเขาและแต่งตั้งให้อ้ายหลินเป็นผู้สืบสกุลคนใหม่

แต่อ้ายหลินกลับปฏิเสธ จึงทำให้อ้ายชวนต้องมอบตำแหน่งผู้นำตระกูลนี้ให้กับอ้ายหมิงซวี่

ทุกอย่างก็เป็นเพราะอ้ายหลิน

“ข้ายังไม่ตายนะ แกจะรีบไล่หลานสาวข้าออกจากบ้านทำไม?”

ดวงตาอันเฉียบคมของอ้ายชวนมองไปที่อ้ายหมิงซวี่และถามเขาอย่างเย็นชา

ด้วยคำถามนี้ ทำให้อ้ายหมิงซวี่ชาไปทั้งตัว และเขาก็รีบตอบว่า “พ่อครับ ไอ้ลูกดื้อรั้นคนนี้มันดันไปมีเรื่องกับตระกูลเถียน ตอนนี้ลูกชายของว่าทีผู้สืบสกุลของตระกูลเถียนตายแล้วนะครับ”

“ตอนนี้ เราทำได้แค่ไล่เธอออกไปถึงจะปกป้องตระกูลอ้ายของเราได้ ผมเองก็ไม่มีทางเลือกถึงได้ตัดสินใจแบบนี้นะครับ!”

อ้ายหมิงซวี่รีบอธิบายอย่างรวดเร็ว

คนอื่นๆ ก็รีบพูดขึ้นว่า “ท่านผู้นำเก่าครับ สิ่งที่ท่านผู้นำพูดเป็นความจริงนะครับ โปรดท่านผู้นำเก่าช่วยมอบอำนาจให้พวกเรานะครับ”

“โปรดมอบอำนาจให้พวกเราเถอะครับ!”

“โปรดมอบอำนาจให้พวกเราเถอะค่ะ!”

......

ในเวลานี้ ทายาทสายตรงของตระกูลอ้ายหลายสิบคนก็พูดขึ้นมาเพื่อจะให้อ้ายชวนมอบสิทธิอำนาจให้พวกเขา

เมื่อเห็นภาพนี้ อ้ายชวนรู้สึกละอายใจแทนพวกเขามาก เพราะเขาอายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว แต่เพิ่งสละตำแหน่งให้กับอ้ายหมิงซวี่เมื่อไม่นานไม่นี่เอง ซึ่งไม่ใช่เพราะเขาบ้าอำนาจ แต่เพราะเขารู้ดีว่าอ้ายหมิงซวี่นั้นเป็นคนประเภทไหน

ถ้าอ้ายหลินไม่ปฏิเสธ ต่อให้ตายเขาก็จะไม่ยอมสละตำแหน่งผู้นำตระกูลให้กับอ้ายหมิงซวี่อย่างแน่นอน

แต่ไม่คิดเลยว่าลูกชายของเขาจะแย่กว่าที่คิด เขาไม่มีความสามารถในการจัดการเลย แต่เรื่องเล่ห์เหลี่ยมและกลอุบายในการชนะใจคนนั้นกลับเป็นเรื่องถนัดของเขา

“แกก็คิดอย่างนั้นใช่ไหม?”

อ้ายชวนตอบใคร แต่มองไปที่อ้ายหมิงซวี่แล้วถามเขา

อ้ายหมิงซวี่ได้แต่ก้มหน้าและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองอ้ายชวน

“เงยหน้าขึ้น!”

อ้ายชวนเริ่มขึ้นเสียงกับเขา

และในครั้งนี้ อ้ายหมิงซวี่จึงจะเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปที่อ้ายชวน

"บอกข้ามาสิ ว่าแกก็อยากให้ข้ามอบอำนาจให้แกด้วย?"

อ้ายชวนถามอีกครั้ง

อ้ายหมิงซวี่ก็ไม่ทนเงียบอีกต่อไป เขาจึงกัดฟันพูดว่า "ในเมื่อพ่อก็มอบตำแหน่งผู้นำตระกูลให้ผมแล้ว ได้โปรดพ่อมอบอำนาจให้ผมด้วยเถอะครับ! ผมจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อทำให้ตระกูลอ้ายของเราแข็งแกร่งขึ้นครับ!"

"พ่อ! พ่อพูดอะไรกับคุณปู่กันแน่?"

อ้ายหลินทนไม่ได้อีกแล้ว และใบหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

ในความทรงจำของเธอ อ้ายหมิงซวี่ไม่เคยทำตัวแบบนี้มาก่อน

"อย่ามาเรียกฉันว่าพ่ออีก! แกถูกไล่ออกจากบ้านตระกูลอ้ายแล้ว แกกับฉันไม่มีความสัมพันธ์อะไรกันอีก!"

อ้ายหมิงซวี่พูดด้วยความโกรธ

อ้ายหลินกัดริมฝีปากสีแดงของเธอแน่นๆ และไม่พูดอะไรอีก ได้แต่มองไปที่อ้ายชวนด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

อ้ายหมิงซวี่โกรธจนหยุดไม่อยู่

แต่อ้ายชวนกลับใจเย็นและพูดเบาๆ ว่า “แกคิดจริงเหรอ ว่าแกดูแลกิจการเหล่านั้นได้ แกคิดจริงเหรอ ว่าการที่สร้างกำไรได้ก็เพราะความสามารถของแก?”

“หรือว่ามันไม่จริงล่ะ?” อ้ายหมิงซวี่ยังคงพูดด้วยความโกรธ

“ไม่จริงแน่นอนอยู่แล้ว!”

อ้ายชวนรู้สึกผิดหวังมากและพูดด้วยดวงตาที่แดงก่ำ “ถ้าไม่ใช่เพราะข้าช่วยแกอยู่เบื้องหลัง แกคิดว่ากิจการเหล่านั้นที่ขาดทุนอยู่มันจะกลับมาสร้างกำไรได้งั้นเหรอ?”

“เพราะข้ารู้ดีว่าแกเป็นคนหวังแต่ผลกำไร ทะเยอทะยานเกินตัว มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ฉะนั้น แม้ว่ากิจการที่แกดูแลอยู่มันจะขาดทุนมาตลอด แต่ข้าก็ยังให้แกดูแลมาตลอด เพียงเพราะข้าคอยช่วยเหลือแกอยู่เบื้องหลังต่างหาก”

อ้ายหมิงซวี่ดูเหลือเชื่อมาก จากนั้นเขาเดินโซเซแล้วถอยหลังไปหลายๆ ก้าว “ไม่จริง ไม่จริง ทั้งหมดนี้ผมเป็นคนสร้างขึ้นมาเอง เป็นไปได้ไงว่าพ่อคอยช่วยผมอยู่เบื้องหลัง?”

“เป็นไปได้ยังไงงั้นเหรอ?”

“งานที่แกดูแลอยู่ มันมีหลายๆ กิจการที่ขาดทุนต่อเนื่องเป็นหลายพันล้าน แล้วมันจะกลายเป็นกำไรอย่างกะทันหันได้ยังไง?”

“แกคิดจริงเหรอว่ากิจการที่กำลังจะล้มละลาย แต่จู่ ๆ มันจะฟื้นตัวได้เพราะความโชคดี?”

อ้ายชวนพูดจาถากถาง แต่ลึกๆ แล้วก็รู้สึกเศร้าใจไม่น้อย

จนกระทั่งเวลานี้ อ้ายหมิงซวี่ถึงจะตระหนักได้ว่า เบื้องหลังความสำเร็จในก่อนหน้านี้ของเขานั้นมาจากอ้ายชวนทั้งนั้น

เป็นอย่างที่อ้ายชวนพูดจริงๆ ที่ผ่านมากิจการหลักหลายๆ แห่งของตระกูลอ้ายที่อ้ายหมิงซวี่ดูแลนั้น เดิมทีใกล้จะล้มละลายกันหมดแล้ว แต่จู่ ๆ มันก็ฟื้นกลับมาได้อีกครั้ง

ในเวลานั้น อ้ายหมิงซวี่ยังคงสงสัยว่าอะไรเป็นเหตุที่ทำให้กิจการที่กำลังขาดทุนอยู่แต่กลับมาเป็นกำไรได้ ซึ่งเขาไม่เคยคิดถึงอ้ายชวนเลยด้วยซ้ำ ได้แต่คิดว่าเป็นความโชคดีของเขา

แต่หลังจากอ้ายชวนพูดในวันนี้ เขาก็รู้ความจริงสักที

“ที่แท้ อ้ายหมิงซวี่เป็นผู้ดูแลกิจการของตระกูลอ้ายในช่วงที่ขาดทุนย่อยยับงั้นหรือ!”

“ใช่น่ะสิ แต่ผู้นำเก่าก็คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลังเพื่อให้กิจการเปลี่ยนจากขาดทุนมาเป็นกำไรได้”

“ถ้าเป็นแบบนี้ พวกเราก็เข้าใจผู้นำเก่าผิดไปแล้วสิ ท่านทำเพื่อตระกูลอ้ายจริงๆ ถึงได้คอยช่วยเหลืออยู่เบื้องหลัง ไม่อย่างนั้น ท่านก็อายุเจ็ดสิบกว่าแล้ว ท่านจะเอาอำนาจและเงินทองมากมายไปทำอะไรกันล่ะ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War