“สวัสดีครับคุณฉิน เจ้านายของพวกเราขอเชิญครับ!”
ผู้ชายวัยกลางคนที่แต่งกายชุดสูทเดินลงจากที่นั่งข้างคนขับ เดินลงจากรถ ตรงมาที่ข้างกายฉินซี ทำท่าทางเชิญขึ้นรถไป
ฉินซีขมวดคิ้วนิดหนึ่ง มองไปยังด้านในรถ เพียงแต่มองไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น
ดึกขนาดนี้ เธอย่อมจะไม่ขึ้นรถของคนอื่นไปง่ายๆ โดยเฉพาะยังเป็นรถหรูซึ่งราคาเป็นสิบล้านคันหนึ่งด้วย
“ขอโทษค่ะ ฉันต้องกลับบ้านแล้ว!”
ฉินซีตอบไปอย่างเรียบนิ่ง จากนั้นหลบผู้ชายวัยกลางคน แล้วอยากออกไป
“คุณฉิน คุณไม่ต้องกลัว เจ้านายของพวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายครับ”
ชั่วขณะนั้นชายวัยกลางคนร้อนใจแล้ว รีบเข้ามาขวางทางของฉินซีเอาไว้แล้ว
ฉินซีขมวดคิ้ว บนหน้าปรากฏความไม่พอใจระดับหนึ่งอย่างเห็นได้ชัด “ฉันไม่สนใจเจ้านายของพวกคุณ!”
ภายนอกเธอดูโกรธเคืองมาก แต่ภายในใจกลับสับสนวุ่นวายเอามากๆ
วันนี้เพิ่งมาถึงเมืองเยี่ยนตู เธอไปเยี่ยมเยือนหลายกิจการมากแล้ว และโทรศัพท์มากเหลือเกินด้วย ปัจจุบันนี้แบตมือถือก็ใช้หมด ปิดเครื่องไปโดยอัตโนมัติแล้ว
ใครจะรู้ว่าเจ้านายในรถหรูคันนั้น เป็นใครกัน
ตอนนี้ต่อให้อยากโทรศัพท์หาหยางเฉิน ล้วนไม่มีทาง
“คุณฉิน!”
ตอนที่ผู้ชายวัยกลางคนอธิบาย ภาพชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งเดินออกมาจากในรถแล้ว เรียกไปทางฉินซีทีหนึ่ง
ตอนที่ฉินซีมองเห็นใบหน้าของชายวัยกลางคน สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
เพราะเธอรู้ว่า อีกฝ่ายเป็นผู้นำของตระกูลอวี๋เหวิน อวี๋เหวินเกาหยาง และก็เป็นบิดาของหยางเฉิน
ตอนที่ฉินซีรู้สึกตกใจ อวี๋เหวินเกาหยางก็มองทางฉินซีด้วยท่าทางอ่อนโยน
“ฉันอยากคุยกับเธอหน่อย เธอว่าจะได้หรือเปล่า?”
อวี๋เหวินเกาหยางเอ่ยปากกะทันหัน ในน้ำเสียงเต็มไปได้ความรักและเมตตา
ทันใดนั้นฉินซีประหม่าขึ้นมาอยู่บ้าง โดยเฉพาะนี้เป็นครั้งแรกที่เธอเจอพ่อสามี
เพียงแค่ เธอรู้ดีว่าหยางเฉินมีความเกลียดต่อตระกูลอวี๋เหวิน และไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ กับตระกูลอวี๋เหวิน
ขณะที่ฉินซีลังเลไม่แน่ใจ อวี๋เหวินเกาหยางหัวเราะพลางพูดว่า “เธอไม่ต้องประหม่า ฉันแค่อยากคุยทั่วไปกับเธอน่ะ”
“งั้นก็ได้ค่ะ!”
ฉินซีไม่ลังเลอีกต่อไป เธอสัมผัสได้ว่า สายตาที่ตื่นตกใจของผู้คนมากมายมองเข้ามาแล้ว รีบตามอวี๋เหวินเกาหยางขึ้นรถไป
“คุณฉินจะไปที่ไหนกัน? ฉันจะได้ถือโอกาสเข้าไปส่งเธอด้วย”
อวี๋เหวินเกาหยางยิ้มถามขึ้น
“ชุมชนหลงจิ่งค่ะ!”
ฉินซีบอกบ้านของเธอและหยางเฉินซึ่งอยู่ที่เมืองเยี่ยนตูออกไป
รถค่อยๆ แล่นออกไป จากโรงแรมเยี่ยนตูไปยังเขตคฤหาสน์ชุมชนหลงจิ่ง ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง
อวี๋เหวินเกาหยางไม่ได้รีบร้อนพูดถึงเรื่องของหยางเฉิน แต่ว่าสอบถามฉินซีไปแบบเรื่อยเปื่อย
“เรียกคุณฉินดูห่างเหินกันเกินไป ฉันเรียกเธอว่าเสี่ยวซีได้มั้ย?”
อวี๋เหวินเกาหยางถามขึ้นกะทันหัน
ฉินซีมองการอคอยในสายตาของอวี๋เหวินเกาหยาง อดปฏิเสธไม่ได้อยู่บ้าง จึงพยักหน้า “ได้ค่ะ!”
ได้รับความเห็นชอบของฉินซี บนหน้าอวี๋เหวินเกาหยางเห็นได้ชัดว่าตื่นเต้นพอสมควร เพียงแต่ถูกเขาปิดซ่อนเอาไว้อย่างดีแล้ว
“ฉันได้ยินว่า ที่เธอมาเมืองเยี่ยนตูครั้งนี้ อยากจะเปิดตลาดของซานเหอกรุ๊ปที่เมืองเยี่ยนตู?” อวี๋เหวินเกาหยางถามอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...