“เป็นนายจริงๆด้วย!”
ใบหน้าของซูวานดูประหลาดใจพร้อมกับรีบมานั่งที่ด้านหน้าของหยางเฉินและพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันก็เพิ่งจะคิดว่าหลังนี้ดูคุ้นๆ ไม่คิดเลยว่าจะเป็นนายจริงๆ!”
“ทำไมมีนายคนเดียว?ฉินซีล่ะ?”
ซูซานถามด้วยรอยยิ้ม
หยางเฉินดูไม่กระตือรือร้นเท่าไรนัก ตอนที่เห็นซูซานในตอนแรกก็แปลกใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้เขาพูดอย่างแผ่วเบาออกไปว่า “เธอพักผ่อนอยู่ที่บ้านน่ะ”
ซูซานนั้นไม่รู้ว่าบ้านที่หยางเฉินหมายถึงนั้นคือที่เมืองเยี่ยนตู ในใจของหล่อนมีความสุขอย่างลับๆ
หลังจากที่หยางเฉินได้ช่วยเหลือหล่อน หล่อนก็รู้สึกชอบหยางเฉินจนห้ามใจไม่อยู่แต่ด้วยความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับฉินซีนั้นจึงทำได้แค่เพียงระงับความรักที่มีต่อหยางเฉินไว้
จู่ๆก็ได้มีโอกาสมาพบปะกับหยางเฉินเพียงลำพัง
ตอนนี้หล่อนดีใจเป็นอย่างมากที่ได้พบหยางเฉินที่เมืองเยี่ยนตูอีกครั้ง
สิ่งที่สำคัญเลยก็คือหยางเฉินอยู่คนเดียว
“หยางเฉิน นายคงไม่ได้ทะเลาะกับฉินซีหรอกใช่ไหม?ทำไมท่าทางดูหดหู่นักล่ะ?”
ซูซานรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของหยางเฉินจึงถามไปด้วยความสงสัย
“เปล่า!”
คำตอบของหยางเฉินนั้นเรียบง่าย
อย่างไรก็ตามภายในใจของซูซานกลับรู้สึกมีความสุข ยิ่งท่าทางของหยางเฉินแปลกไปเท่าไหร่ นั่นก็หมายความได้ชัดเลยว่าเขามีปัญหากับฉินซี
“มา ฉันดื่มเป็นเพื่อน!”
ซูซานพูดด้วยรอยยิ้มพร้อมกับรินใส่แก้วของตนเองและดื่มหมดลงไปในคราวเดียวเหมือนกับหยางเฉิน
“พร๊วด!”
เพียงแต่เมื่อหล่อนดื่มไปเพียงหน่งคำก็ต้องบ้วนออกมาจนหมด หล่อนแลบลิ้นสีแดงฉานออกมาพร้อมกับใช้มือข้างพัดไปและบ่นไป “นี่มันเหล้าอะไรกัน?ทำไมมันเผ็ดขนาดนี้?นี่มันเหมือนกับแอลกอฮอล์เลยนะ”
เมื่อเห็นท่าทางที่ดูลำบากของซูซาน หยางเฉินก็รู้สึกเหมือนอยากจะหัวเราะออกมา
“นี่เป็นวอดก้าที่แรงที่สุดของที่นี่ นอกจากกลิ่นของเหล้าแล้วก็ไม่มีกลิ่นอะไรอื่นอีกเลย รสชาติจะแรง ฉุนจมูกให้ความรู้สึกกระตุ้นเหมือนไฟ” หยางเฉินกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นายยังจะมายิ้มอีก!” ซูซานจ้องหยางเฉินอย่างดุเดือด
หยางเฉินไม่ได้สนใจนัก เดิมทีที่จิตใจหดหู่แต่กลับมีซูซานมาทำให้ขบขันได้ชั่วครู่
“เอาไวน์ผลไม้มาให้ฉันที” ซูซานเรียกพนักงานเสิร์ฟ
“หล่อนมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?” หยางเฉินถามขึ้นทันที
ซูซานถอนหายใจพร้อมกับอธิบาย “พ่อฉันต้องการให้ตระกูลซูมาตั้งรกรากที่เมืองเยี่ยนตูมาโดยตลอดก็เลยให้ฉันมาดูที่ทางทำงานก่อน”
“ตระกูลซูจะมาเมืองเยี่ยนตูงั้นเหรอ?” หยางเฉินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ตระกูลซูเป็นตระกูลที่ร่ำรวยที่สุดในเจียงโจว ทุกอย่างๆนั้นอยู่ที่เจียงโจวหมด หากทำการย้ายมาที่เมืองเยี่ยนตู ไม่ต้องพูดถึงร่ำรวยที่สุดเลย ด้วยอำนาจทางการเงินของตระกูลซูนั้นไม่นับว่าเป็นคนร่ำรวยระดับล่างสุดด้วยซ้ำ
ในบรรดาเหล่าเศรษฐีในเมืองเยี่ยนตู มีใครบ้างล่ะที่ไม่ร่ำรวยกัน?มีกี่ตระกูลที่เป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่?
“ทำไม?นายดูถูกตระกูลซูงั้นเหรอ?” ซูซานจ้องไปที่หยางเฉินพร้อมกับถาม
หยางเฉินส่ายหัว “ยังไม่ถึงขั้นนั้น…ก็แค่แปลกใจที่ตระกูลซูร่ำรวยอยู่ที่เจียงโจวดีๆไม่ชอบแต่กลับเลือกที่จะมาโดนทารุณที่เมืองเยี่ยนตูได้ซะนี่”
ซูซานกลอกตามองบน “ไหนบอกว่าไม่ได้ดูถูกตระกูลซูกันไงล่ะ!”
หยางเฉินไม่พูดมาก เขาหยิบวอดก้าดื่มไปอีกแก้วในรวดเดียว
เมื่อเห็นท่าทางของหยางเฉินที่ดื่มหนัก ใบหน้าของซูซานก็ดูคลั่งไคล้
“หยางเฉิน แน่ใจใช่ไหมว่าไม่เป็นอะไร?”
ซูซานดูกังวล ดวงตากลอกไปหนึ่งรอบพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ออกมาเตรียมโทรออก “ฉันจะโทรหาฉินซี”
“เดี๋ยวก่อน!”
หยางเฉินหยุดอย่างรวดเร็ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...
รอข้ามปี...