The king of War นิยาย บท 698

สรุปบท บทที่ 698 ทำลายวรยุทธผม: The king of War

อ่านสรุป บทที่ 698 ทำลายวรยุทธผม จาก The king of War โดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง

บทที่ บทที่ 698 ทำลายวรยุทธผม คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เซวหยวนป้าที่ยังชื่นชมหยางเฉินอยู่เมื่อครู่เปลี่ยนสีหน้าทันที ต้องการจะทำลายวรยุทธหยางเฉินแทน

สำหรับผู้มีวรยุทธนั้น การถูกทำลายวรยุทธนั้นอยู่ก็เหมือนตาย

เป็นเพียงเพราะเซวหยวนป้าถูกใจความสามารถของหยางเฉิน แต่หยางเฉินไม่ยินดีติดตามเขา จึงต้องการทำลายวรยุทธเขา จะเห็นได้ว่าเซวหยวนป้าเป็นคนเผด็จการแค่ไหน

หานเซี่ยวเทียนรู้จักตัวตนของหยางเฉิน จึงไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่นิด เขายิ้มเยาะ “ไม่เจียมกะลาหัว!”

กวนเจิ้งซานและซูเฉิงอู่ที่ยืนอยู่ถัดจากหานเซี่ยวเทียน ทั้งสองตกใจเมื่อได้ยินประโยคที่หานเซี่ยวเทียนพูดออกมาเบาๆ

เซวหยวนป้าคือคนที่มีโอกาสจะขึ้นเป็นเจ้าตระกูลเซวในอนาคต เหตุใดหานเซี่ยวเทียนจึงคิดเช่นนี้ เซวหยวนป้าไม่เจียมกะลาหัวเมื่ออยู่ต่อหน้าหยางเฉินงั้นเหรอ?

“เตรียมรับให้ดี!”

เหมิงตันคำราม กระทืบเท้าอย่างแรง อาศัยแรงดีดตัวพุ่งเข้าหาหยางเฉินอย่างฉับพลัน

แต่หยางเฉินยังคงยืนอยู่กับที่ ไม่มีแม้แต่ทีท่าว่าจะหลบหลีก

เมื่อเซวข่ายเห็นภาพนี้แววตาก็เต็มไปด้วยการเย้ยหยัน “ที่แท้ก็คนโง่ แม้ในตระกูลเซว ความสามารถของเหมิงตันก็สามารถติดห้าอันดับแรก คุณยังไม่รู้จักหลบหลีก ถ้าไม่ใช่รนหาที่ตายแล้วเรียกว่าอะไร?”

แต่ทว่าทันทีที่เขาพูดจบ เหมิงตันก็พุ่งเข้าไปถึงตรงหน้าหยางเฉินแล้ว เขาปล่อยหมัดเข้าชกหน้าอกของหยางเฉิน

“พรึ่บ!”

เมื่อเห็นว่ากำปั้นของเหมิงตันกำลังจะกระแทกหน้าอกของหยางเฉิน ในช่วงเวลาที่สำคัญหยางเฉินก็เหยียดแขนออกมาและคว้าข้อมือของเหมิงตันที่ชกเข้ามาเอาไว้

“อะไรนะ?”

“เป็นแบบนี้ได้ยังไง?”

เมื่อเซวหยวนป้าและเซวข่ายเห็นภาพนี้ ใบหน้าก็ถอดสีทันที พลันอุทานด้วยความตกใจ

ส่วนเหมิงตันที่ถูกหยางเฉินคว้าข้อมือไว้ ยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก

หมัดเมื่อครู่นั้น เขารู้ดีที่สุดว่าใช้กำลังไปเท่าไหร่ แม้แต่สิงโตก็อาจตายได้ด้วยหมัดนี้

แต่ทว่าในเวลานี้ หยางเฉินกลับคว้าข้อมือของเขาไว้ได้อย่างคาดไม่ถึง

ประเด็นคือหมัดของเขาได้สัมผัสเสื้อผ้าของหยางเฉินแล้ว

ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องบังเอิญ เหมิงตันไม่มีทางเชื่ออย่างเด็ดขาด

หรือพูดได้อีกอย่างว่า หยางเฉินจงใจลงมือในขณะที่หมัดของเขาสัมผัสถูกเสื้อผ้าของตัวเอง

พลังควบคุมที่แข็งแกร่งเช่นนี้ แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ก็อาจจะไม่มีก็ได้?

เหมิงตันพยายามสะบัดให้หลุดจากมือของหยางเฉิน แต่กลับต้องตกใจเมื่อพบว่า มือของหยางเฉินจับข้อมือของเขาไว้แน่นเหมือนคีม เขาสะบัดอย่างไรก็ไม่หลุด

ไม่เพียงแต่สายตาเท่านั้น แต่ยังมีความรวดเร็วในการตอบสนอง รวมถึงพละกำลังอย่างสมบูรณ์ ล้วนทำให้เหมิงตันรู้สึกไร้เรี่ยวแรง

“นี่น่ะหรือความสามารถของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว?”

หยางเฉินหัวเราะเยาะ มองไปที่เซวหยวนป้าอย่างยั่วเย้า

เซวหยวนป้าตกใจอึ้งไปแล้ว ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง จนกระทั่งในตอนนี้เขาถึงตระหนักได้ว่า ตัวเองนั้นดูผิดไป

หยางเฉินมีอายุเพียง 27 ปี ก็มีความแข็งแกร่งที่น่ากลัวเช่นนี้แล้ว ในอีกสิบปีข้างหน้าเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหน?

แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ถึงตอนนั้นก็อาจจะยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาก็ได้?

แม้จะผ่านไปอีกสิบปี หยางเฉินก็มีอายุไม่เกิน 38 ปี ส่วนยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซว ก็จะเป็นยอดฝีมือขั้นสุดยอดที่ดื่มด่ำอยู่ในเส้นทางวรยุทธมาเป็นเวลา 40-50 ปี

ในแง่ของพรสวรรค์ในทางวรยุทธ หยางเฉินนั้นทิ้งห่างยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวหลายขุม

“ปล่อยผม!”

เหมิงตันกัดฟันพูด

ในใจซูเฉิงอู่รู้สึกยินดีปรีดา หยางเฉินไม่ทำให้เขาผิดหวังอย่างที่คาดไว้ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่งเพียงใด ก็เหมือนว่าเขาจะไม่เคยพ่ายแพ้เลย

จนกระทั่งในเวลานี้ เขาถึงตระหนักได้ว่า เหตุใดตระกูลอวี๋เหวินถึงกำชับให้เขาเลือกยืนอยู่ข้างหยางเฉินไม่ว่าจะในยามใด

ที่แท้ ไม่ใช่เพราะหยางเฉินพึ่งพาตระกูลอวี๋เหวิน แต่เป็นเพราะตระกูลอวี๋เหวินรู้ความสามารถของหยางเฉินดี

“คุณหยาง คุณอย่าเพิ่งวู่วาม!”

เมื่อเห็นว่าหยางเฉินเข้ามาอยู่ตรงหน้าเซวหยวนป้าแล้ว เซวข่ายก็รีบบอกว่า “พ่อผมไม่ได้มีเจตนาร้ายกับคุณ เขาแค่ชื่นชมคนที่มีพรสวรรค์ด้วยใจจริง ต้องการให้คุณเข้าร่วมตระกูลเซว”

เมื่อได้ยินคำพูดของลูกชายตัวเอง เซวหยวนป้าถึงได้สติ รีบบอกว่า “ใช่ๆๆ ผมแค่เห็นว่าคุณหยางเป็นคนมีความสามารถ ดังนั้นจึงอยากดึงให้มาเป็นพวก ไม่ได้มีเจตนาร้ายใดๆ เลย”

“แต่ตอนนี้ผมรู้แล้ว ลำพังตัวผมยังไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเชื้อเชิญคุณหยางด้วยตัวเอง มีเพียงพ่อของผมเท่านั้นที่มีคุณสมบัตินี้”

“ถ้าคุณหยางไม่รังเกียจ ผมจะเรียนเชิญคุณมาเป็นขุนนางของตระกูลเซวในนามของคุณพ่อ ขอเพียงยามใดที่ตระกูลเซวเกิดเรื่องใหญ่ ต้องการให้คุณหยางออกหน้า แค่คุณหยางออกหน้าก็พอ ค่าจ้างรายปีคือสองพันล้าน!”

เมื่อได้ยินเซวหยวนป้าบอกว่าค่าจ้างรายปีคือสองพันล้าน ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง

เช่นนั้นค่าจ้างเป็นเวลาสิบปีก็คือสองหมื่นล้าน!

ประเด็นสำคัญคือ แค่หยางเฉินออกหน้าให้เมื่อตระกูลเซวเกิดเรื่องใหญ่ แล้วตระกูลมหาเศรษฐีอย่างตระกูลเซว จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นได้สักกี่ครั้ง?

แม้ว่าจะคำนวณเป็นรายปี แต่นั่นก็หมายความว่า หยางเฉินออกหน้าครั้งเดียว ค่าจ้างคือสองพันล้าน

หยางเฉินไม่พูดอะไร เพียงมองเซวหยวนป้าด้วยสีหน้าเย้ยหยัน

เซวหยวนป้าถูกจ้องมองจนรู้สึกอึดอัด เขากลัวว่าหากหยางเฉินไม่พอใจ ยกมือสั่งให้ทำลายวรยุทธเขา เช่นนั้นชีวิตของเขาต้องจบลง

“สามพันล้าน!”

ทันใดนั้นเซวหยวนป้าก็กัดฟันพูดออกมา “ค่าจ้างรายปีสามพันล้าน ค่าจ้างนี้ได้แซงหน้ายอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวไปแล้ว ขอเพียงคุณหยางยินดี ผมสามารถจ่ายค่าจ้างล่วงหน้าให้คุณได้เลย”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War