ซูเฉิงอู่และคนอื่นๆ ต่างงุนงงด้วยความตกใจ
รายได้สามพันล้านต่อปี ทั่วทั้งจิ่วโจวดูท่าจะมีอยู่ไม่กี่คนล่ะมั้ง?
“พี่หยาง สิ่งที่พ่อผมพูดเป็นความจริง สามพันล้านนั้นมากกว่ายอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวแล้ว แถมยังต้องการให้คุณออกหน้าเฉพาะเวลาที่ตระกูลเซวมีปัญหาเท่านั้น ตระกูลเซวมีความจริงใจมากจริงๆ”
เซวข่ายรีบพูดโน้มน้าว
เขาย่อมรู้ดีกว่าพ่อของตัวเองคิดจะทำอะไร ค่าจ้างของยอดฝีมืออันดับหนึ่งของตระกูลเซวแค่สองพันล้านต่อปี แถมยังต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าตระกูลเซวอีกด้วย
ส่วนเซวหยวนป้าจะมีสิทธิ์อะไรมาจ้างยอดวรยุทธด้วยค่าจ้างสามพันล้านต่อปี?
เซวหยวนป้าเหมือนเสแสร้งมากกว่า ส่งเทพพิฆาตองค์นี้กลับไปก่อน ส่วนหลังจากนี้จะให้ทางตระกูลส่งยอดฝีมือที่แข็งแกร่งกว่านี้มารับมือหยางเฉินหรือไม่ ก็ต้องคอยดูให้ดี
“เรียกผมสนิทชิดเชื้อดั่งพี่น้อง คุณมีสิทธิ์เหรอ?”
ทันใดนั้นหยางเฉินก็มองไปที่เซวข่ายและถามอย่างเย็นชา
เซวข่ายอ้าปากแต่กลับไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ไฟโทสะภายในใจกำลังลุกโชติช่วง
ถ้าไม่ใช่เพราะหยางเฉินแข็งแกร่งเกินไป มีหรือเขาจะต้องอดทนต่อท่าทีแข็งกร้าวของหยางเฉิน?
“เป็นความเลินเล่อของผมเอง คุณหยางพูดถูก ผมไม่คู่ควรจะเรียกคุณดั่งพี่น้อง!”
เซวข่ายข่มความโกรธภายในใจแล้วกล่าวขึ้น
หยางเฉินหัวเราะเยาะ แล้วมองไปที่เซวหยวนป้าพร้อมกับกล่าวว่า “เท่าที่ผมรู้ ไม่ว่าจะเป็นตระกูลเดอะคิงหรือราชวงศ์ หากต้องการใช้เงินมากกว่าร้อยล้านว่าจ้างยอดฝีมือ จำเป็นต้องมีการประชุมหารือและผ่านการอนุมัติก่อน”
“คุณเป็นแค่เจ้าชายสามแห่งตระกูลเซว ไม่ใช่กระทั่งทายาท แล้วคุณมีสิทธิ์อะไรกล้าพูดว่า จะใช้เงินสามพันล้านมาจ้างผมเป็นขุนนางของตระกูลเซว?”
เซวหยวนป้าตกตะลึงทันที เขาไม่เคยคิดเลยว่าหยางเฉินจะรู้เรื่องราชวงศ์และตระกูลเดอะคิงมากขนาดนี้
คำพูดตอกกลับอย่างฉับพลันทำให้ใบหน้าเขาแดงก่ำ ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย เขาไม่รู้ว่า เมื่อถูกหยางเฉินจับได้แล้ว หยางเฉินจะฆ่าเขาในที่นี้หรือไม่
“ถ้าผมเดาไม่ผิด เหตุผลที่คุณต้องการเชิญผมไปเป็นขุนนางของตระกูลเซวในราคาที่สูง ก็เพื่อให้ผมตายใจ ถ้าผมยินยอม คุณก็จะมีเหตุผลในการพาผมไปที่ตระกูลเซว และในเวลานี้ตระกูลเซวได้เตรียมการซุ่มโจมตีเอาไว้อย่างพร้อมเพรียง ถ้าผมกล้าไป ก็มีแต่ตายกับตายเท่านั้น”
“แต่ถ้าผมไม่ตกลง ก็จะลดทอนเจตนาฆ่าที่ผมมีต่อพวกคุณให้อ่อนลง เปิดหนทางรอดให้พวกคุณ จากนั้นคุณก็เอาเรื่องของผมไปบอกกับตระกูลเซว ให้ตระกูลเซวเปิดประชุมหารือ ว่าจำเป็นต้องส่งคนมาฆ่าผมหรือไม่”
หยางเฉินพูดต่อไป
หลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ เซวหยวนป้าและเซวข่ายก็ถึงกับตกตะลึง เพราะหยางเฉินคาดเดาความคิดของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“พวกคุณไม่ต้องคิดหาเหตุผลมาอธิบาย ในเมื่อผมสามารถพูดสิ่งเหล่านี้กับพวกคุณได้ ก็หมายความว่าผมรู้เรื่องราชวงศ์และตระกูลเดอะคิงอย่างทะลุปรุโปร่ง”
หยางเฉินกล่าวอย่างเย็นชา “ผมจะไม่ฆ่าพวกคุณ แต่ก็ไม่กลัวว่าตระกูลเซวจะส่งคนมาจัดการกับผม เพราะด้วยความสามารถที่เด็ดขาด ไม่มีอะไรที่แก้ไขไม่ได้ด้วยหมัดเดียว”
อวดดี!
เผด็จการ!
นี่คือการประเมินในใจของเซวหยวนป้าที่มีต่อหยางเฉิน
“คุณหยางวางใจได้เลย จากนี้ไปตระกูลเซวจะไม่ก้าวเข้ามาเหยียบเมืองเจียงผิงอีก ผมจะไปจากที่นี่คืนนี้”
เซวหยวนป้าประกาศออกมาทันที “และผมยังสามารถรับประกันกับคุณหยางได้ว่า ตระกูลเซวจะไม่มีทางส่งคนมาจัดการกับคุณ”
หยางเฉินชำเลืองมองเซวหยวนป้าอย่างเย็นชา จากนั้นกล่าวว่า “ไสหัวออกไปซะ!”
ได้ยินดังนั้น เซวหยวนป้าและเซวข่ายสองพ่อลูกก็รีบเผ่นออกไปราวกับได้รับอภัยโทษ
ขณะนี้ในห้องส่วนตัวก็เหลือเพียงหยางเฉินและผู้นำตระกูลเศรษฐีห้าอันดับแรกของเมืองเจียงผิง
“พรึ่บ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...