หยางเฉินยังไม่ทันพูดอะไร เจ้าเปียก็พูดต่อ “มันอย่างน้อยก็ร้อยล้านที่เสียไป ถ้าวันนี้แกไม่จ่ายออกมาหนึ่งร้อยล้าน กูเอามึงตายแน่”
หยางเฉินไม่ไปใส่ใจกับไอ้งั่งนี่เลย กลับหันขวับไปมองเฉินอิงเหาที่ถือกาน้ำชายืนอยู่ที่มุมห้อง สีหน้าแสดงออกถึงความตื่นกลัว
“บริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา เกี่ยวข้องอะไรกับเธอหรือเปล่า?”
หยางเฉินถามไปทันที
เฉินอิงเหาถึงดึงสติกลับมาได้ ตัวสั่นงันงกด้วยความตกใจ เสียงดัง “ผลุบ” เฉินอิงเหาทรุดคุกเข่าลงที่ข้างขาของหยางเฉินต่อหน้าทุกคน พูดอย่างตื่นตระหนกว่า “คุณหยางครับ ใช่บริษัทที่ผมตั้งขึ้นมาเองครับ แต่ผมไม่รู้เรื่องจริง ๆ ครับ ว่าไอ้ตาบอดพวกนี้ กล้าไปล่วงเกินท่านได้”
“ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไรเจ้านะ ตื่นเต้นทำไมกัน? ลุกขึ้น!”
หยางเฉินพูดอย่างไม่ได้แยแส
เขาเพียงแต่ไปได้ยินฝ่ายนั้นพูดถึงชื่อบริษัทเนทไอดอลนั้นมีคำว่าอิงเหา ก็เลยนึกเลยไปว่า บริษัทนี้จะเกี่ยวข้องกับเฉินอิงเหา
เฉินอิงเหาก็ได้รีบลุกขึ้นยืน
เฉินซิงไห่ก็โกรธเอาเป็นอย่างมาก ในพื้นที่ของตัวเอง โดนคนบุกเข้ามาถึงห้องจองส่วนตัว ที่สำคัญคือ พวกนี้ยังเป็นคนของบริษัทเฉินอิงเหาอีก พูดอย่างเดือดดาลไปว่า “เจ้าสารเลว ยังไม่ไปจัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยอีก!”
เฉินเห้าก็พูดเสียงเยือกไปว่า “ข้าบอกตั้งแต่แรกแล้ว อย่าไปทำธุรกิจเน็ตบ้า ๆ บอ ๆ อะไรพวกนี้ แกก็ไม่ยอมฟัง ดูบริษัทแกนี่ซิ มีแต่ของเล่นบ้า ๆ อะไรบ้าง?”
เฉินอิงเหาปาดเหงื่อที่หน้าผากออก เดินตรงรี่เข้าไป ตวาดใส่เจ้าเปียจู๋นั่น “พวกแกเป็นคนของใครกัน?”
“เอ๊าเชอะ แล้วมึงแม่งใคร? ต่อหน้าพี่หวงกล้าเบ่งอย่างนี้เชียวเร๊อะ?”
สวีเหว่ยไฉเดินแทรกขึ้นไป พูดไปอย่างโอหัง
เฉินอิงเหายิ้มเยือกใส่ “ถามข้าว่าเป็นใคร?ข้านี่แหละเฉินอิงเหาประธานผู้จัดการบริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา !”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ......”
เด็กหนุ่มเปียจู๋คนนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมาทันที “มึงแม่งถ้าเป็นเฉินอิงเหา กูก็ต้องเป็นเฉินซิงไห่แล้วสิวะ”
เจ้าเปียจู๋คนนี้ชื่อหวงเหล่ย จริง ๆ แล้วไม่ได้เป็นพนักงานของบริษัทผู้จัดการเน็ตไอดอลอิงเหา เป็นเพียงตัวแทนประสานงานเล็ก ๆ ของบริษัทฯ.เท่านั้น
ในช่วงระยะหลังนี้ ตระกูลเฉินเพิ่งจะกำลังเริ่มดัง เขาย่อมไม่เคยรู้จักถึงตัวเฉินซิงไห่
แต่อย่างว่า คนในระดับเขานี่ จะไปรู้จักอะไรได้มากมายสักเท่าไรกัน?
ก็อย่างเรื่องห้องอาหารแช่เฉินนี่ ถ้าเขารู้ว่าเป็นกิจการในเครือของตระกูลเฉิน กระทืบให้ตายก็ไม่กล้าเอาคนมาลุย
ได้ยินพูดเข้านั่น เฉินซิงไห่ตาลุกจะระเบิดเอา คำรามใส่ไปว่า “ถ้าเอ็งเป็นเฉินซิงไห่ แล้วกูจะเป็นใครได้วะนี่?”
“แล้วมึงแม่งใครวะนี่ จะมาเกี่ยวดองอะไรกับกู?”
หวงเหล่ยหัวเราะก๊ากแล้วพูดต่อ “ถ้ายังไม่อยากตาย พวกแกสงบปากไว้ซะ ไม่งั้นอย่าหาว่ากูไม่มีสัมมาคารวะผู้ใหญ่และไม่เอ็นดูเด็กนะ”
“เฉินอิงเหา เจ้าจัดการเรื่องนี้ทันทีเดี๋ยวนี้เลยนะ ไม่งั้นข้าจะใช้กฏประจำตระกูลกับแก!”เฉินซิงไห่โกรธจนเนื้อเต้น
เฉินอิงเหาก็ร้อนรุ่มเอามากแล้ว จ้องไปที่หวงเหล่ย ตะคอกไปอย่างเกรี้ยวกราด “แกมันชื่ออะไรแน่?”
“กูนี่นะก้าวห่างไม่เคยเปลี่ยนแซ่ นั่งที่ไหนไม่เคยเปลี่ยนชื่อข้า หวงเหล่ยนี่แหละ!”หวงเหล่ยวางท่าอย่างท้าทาย
เฉินอิงเหาแค่นหัวเราะเสียงเยือก ในดวงตาส่อเห็นแววฆ่า ยกโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายออกไป “ในบริษัทมีคนที่ชื่อหวงเหล่ยมั้ย?”
อีกฟากโทรศัพท์เห็นเป็นเฉินอิงเหา อีกทั้งฟังน้ำเสียงไม่ดีเอาเลย พอได้ยินชื่อหวงเหล่ยสีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบถามกลับในโทรศัพท์ว่า “ท่านประธานเฉิน ใช่ไอ้คนที่บนหัวข้างหลังมีเปียกระจุกเล็ก ๆ มั้ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...