“เอาล่ะ ในเมื่อคุณต้องการหนึ่งพันล้าน ถ้าอย่างนั้นผมก็จะให้คุณ”
พูดจบหยางเฉินก็โทรศัพท์ออกไป “โอนเงินหนึ่งพันล้านไปให้ตระกูลหลี จัดการให้เดี๋ยวนี้เลยนะ!”
หลังจากวางสาย หยางเฉินก็กล่าวว่า “ไม่ต้องถึงหนึ่งชั่วโมง คาดว่าอีกห้านาที เงินหนึ่งพันล้านจะเข้าบัญชีของตระกูลหลีแล้ว”
“ไอ้หนุ่ม นี่แกกำลังล้อฉันเล่นเหรอ?”
หลีจื้อขุยสีหน้าเศร้าหมองน่าสะพรึงกลัว กัดฟันพูดขึ้น
“ล้อคุณเล่นเหรอ? ทำไมต้องล้อคุณเล่นด้วยล่ะ?” หยางเฉินถามขึ้น
“แกคิดว่าสามารถโอนเงินหนึ่งพันล้านเข้าบัญชีตระกูลหลีได้จริงอย่างที่ปากพูดเหรอ?”
หลีจื้อขุยถามด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมก็จนปัญญาแล้ว”
หยางเฉินยิ้มเยาะพลางกล่าวว่า “อ้อ คุณจะโทรหาหลีเจ๋อดูก็ได้นะ บอกไปว่า ผมชื่อหยางเฉิน!”
ในเวลาเดียวกัน บ้านตระกูลหลี
ในห้องของเจ้าบ้าน มีเสียงขว้างของแตกดังเป็นระยะ ทายาทสายตรงของตระกูลหลีอยู่ด้านนอก ไม่กล้าเข้าไป
“ไอ้เวร! ทรัพย์สินเจ็ดหมื่นล้านของตระกูลหลี ถูกโอนออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว!”
“ถ้าฉันตายไปจะเอาหน้าที่ไหนไปพบบรรพบุรุษ?”
“บรรพบุรุษตระกูลหลีทุกท่าน ผมทำผิดต่อพวกท่าน! ผมทำผิดต่อตระกูลหลี!
หลีเจ๋อ เจ้าบ้านตระกูลหลี ขว้างของระบายอารมณ์ พลางตะโกนโทษตัวเอง
เวลานี้ในใจเขามีแต่ความรู้สึกเสียใจอย่างรุนแรง ถ้ารู้ว่าผู้หนุนหลังของตระกูลเฉินแข็งแกร่งมากขนาดนี้ ให้ตายเขาก็ไม่กล้าไปยั่วยุตระกูลเฉิน
แต่ตอนนี้ก็ดี ไม่เพียงโค่นล้มตระกูลเฉินไม่ได้ ตรงกันข้ามทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหลีกลับถูกบังคับเอาไปอีก
“หยางเฉิน ฉันจะไม่ปล่อยแกไป ฉันสาบานว่าจะไม่ยอมปล่อยแกไปแน่!”
หลีเจ๋อพูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
หลังจากได้ระบายความโกรธ หลีเจ๋อก็เดินออกจากห้อง และเห็นว่าคนข้างนอกล้วนเป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลี
“ท่านเจ้าบ้าน ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”
เดิมทีทายาทสายตรงเหล่านี้ตั้งใจมาถามหลีเจ๋อถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหลีถึงถูกโอนออกไป
ตอนนี้หลีเจ๋อกำลังโกรธ จึงไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้
หลีเจ๋อกัดฟันพูดว่า “พวกแกเข้ามาสิ เราจะเปิดประชุมภายในตระกูลเดี๋ยวนี้!”
สมาชิกของตระกูลหลีทั้งหมดนั่งอยู่พร้อมหน้ากันอย่างรวดเร็ว หลีเจ๋อนั่งอยู่ตำแหน่งประธาน กวาดสายตามองทุกคนแล้วถามขึ้นทันที “หลีจื้อขุยล่ะ?”
“ท่านเจ้าบ้าน ทางเสี่ยวจวินมีปัญหาเล็กน้อย หลีจื้อขุยเลยไปดูหน่อย” ผู้เฒ่าท่านหนึ่งซึ่งสนิทสนมกับหลีจื้อขุยกล่าวขึ้น
“เสี่ยวจวินไม่เป็นไรใช่ไหม?” หลีเจ๋อถาม
ไม่ว่าอย่างไร เสี่ยวจวินก็เป็นหลานชายของเขา
ผู้เฒ่าที่เพิ่งตอบไปเมื่อครู่กล่าวว่า “ท่านเจ้าบ้านไม่ต้องเป็นห่วง ตราบใดที่จื้อขุยออกหน้า จะไม่มีปัญหาใดๆ”
“เสี่ยวจวินไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!”
พูดจบหลีเจ๋อก็กวาดสายตามองทุกคน แล้วขบฟันกล่าวว่า “ฉันรู้ว่าพวกแกมาทำอะไรกันที่นี่ มาถามฉันว่าทำไมต้องมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลให้แก่เซิ่งเทียนกรุ๊ป”
“ตอนนี้ฉันจะบอกพวกแกว่า มันเกิดอะไรขึ้น!”
หลีเจ๋อเล่าเรื่องที่วางแผนที่จะโค่นล้มตระกูลเฉินด้วยพันธมิตรห้าตระกูล เพื่อยกระดับฐานะตระกูลหลีในเมืองเยี่ยนตู แต่ได้พบกับหยางเฉิน
“ครั้งนี้ฉันคาดการณ์ผิดพลาด ประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ผิดไป นำความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาสู่ตระกูลหลี ฉันจะรับผิดชอบผลที่ตามมาทั้งหมดเอง!”
หลีเจ๋อกัดฟันกล่าวว่า “แต่พวกแกไม่ต้องห่วง ฉันจะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แบบนี้แน่ ไม่ว่าตระกูลเฉินจะแข็งแกร่งแค่ไหน ฉันก็ไม่ยอมให้พวกเขาแย่งทรัพย์สินของพวกเราไปครึ่งหนึ่ง!”
“ฉันจะหาวิธีติดต่อกับตระกูลที่แข็งแกร่งกว่านี้ วันหนึ่งฉันจะต้องทวงคืนทุกสิ่งทุกอย่างที่สูญเสียไปในวันนี้ให้ได้!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...