ตอน บทที่ 756 คฤหาสน์ถูกยึด จาก The king of War – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 756 คฤหาสน์ถูกยึด คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต The king of War ที่เขียนโดย เสี้ยวอ้าวอวี๋เซิง เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ครั้งนี้ ซุนซวี่กับหลินเทียนเจ๋อ และซ่งชิงซานต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดทันที
ถ้าหากคฤหาสน์เดียวที่ถูกยึดกลับไป มันก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะหลายๆ ตระกูลของศัตรูอาจจะร่วมมือกันเพื่อมาแย่งชิงกลับไปก็ได้
แต่ในตอนนี้ คฤหาสน์หลักทั้งสามกลับถูกแย่งชิงกลับไปพร้อมกัน
เหล่าผู้นำคนอื่นๆ ต่างก็แสดงสีหน้าบูดบึ้งขึ้น
ซึ่งผู้คนในนี้ ไม่ใช่ทุกคนที่มีส่วนร่วมในการกวาดล้างศัตรูในวันนี้ แต่การที่พวกเขามาเข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยก็เพื่อจะเลียแข้งเลียขาเท่านั้น
เมื่อสามตระกูลอย่าง ตระกูลซุน ตระกูลหลิน และตระกูลซ่งพ่ายแพ้ พวกเขาก็ต้องซวยไปด้วยอย่างแน่นอน
“ไม่ได้ ตอนนี้ตระกูลเย่กับตระกูลหวงและตระกูลอวี๋เหวินกำลังอ่อนแออยู่ เราจะให้พวกมันยึดคฤหาสน์กลับไปง่ายๆ ไม่ได้ ถ้าพวกเขาร่วมมือกันสำเร็จ เราจะกวาดล้างพวกเขาอีกทีคงยากแน่!”
ซุนซวี่รีบลุกขึ้นพูด
“ไม่ได้ครับ เจ้าชายตระกูลเซวเชิญพวกเรามาที่นี่เพื่อเฉลิมฉลอง แต่ตอนนี้เจ้าชายตระกูลเซวยังไม่ถึง ถ้าพวกเราออกไปจากที่นี่ เจ้าชายตระกูลเซวจะต้องโกรธแน่!”
หลินเทียนเจ๋อก็ขมวดคิ้วพูดขึ้น
ซ่งชิงซานก็พูดขึ้นเช่นกัน “ใช่ ตอนนี้เรามือเจ้าชายตระกูลเซวคอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ต่อให้ตระกูลของเราพินาศ พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องกลัว!”
“ใช่ครับ ขอแค่เราได้รับการสนับสนุนจากเจ้าชายตระกูลเซว เราไม่จำเป็นต้องกลัวใครเลยนะครับ!”
ผู้คนก็เริ่มแสดงความคิดเห็นอีกครั้ง และมันก็ทำให้พวกเขาสบายใจขึ้นไม่น้อย
แต่ซุนซวี่ยังคงรู้สึกไม่ดี เขามีลางสังหรณ์ว่าหยางเฉินใกล้จะมาถึงที่นี่แล้ว
“เอาล่ะ ๆ เจ้าบ้านซุน ไม่ต้องกังวลแล้วครับ เรามีเจ้าชายตระกูลเซวทั้งคน คุณจะกังวลอะไรอีก?”
หลินเทียนเจ๋อก็ยิ้มพูดขึ้น “ในเมื่อพวกมันอยากทวงคฤหาสน์ของตัวเองคืน งั้นเราก็ปล่อยให้พวกมันทวงคืนไปก่อน ส่วนเราก็รอให้เจ้าชายตระกูลเซวมาถึงที่นี่ก่อน แล้วหลังจากที่เราฉลองกันเสร็จ เราค่อยไปยึดกลับมาอีกครั้ง ตกลงไหมครับ?”
“เจ้าบ้านหลินพูดถูกครับ มา เรามาหมดแก้วกันเถอะ!”
ซุนซวี่ชูแก้วขึ้น แต่รอยยิ้มของเขาก็ยังไม่เต็มใจอยู่ดี
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และอีกครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป แต่เซวหยวนป้าก็ยังไม่มาสักที
“เจ้าชายตระกูลเซวทำไมยังไม่มา?”
ซุนซวี่พูดอย่างไม่สบายใจ
หลินเทียนเจ๋อกับซ่งชิงซานก็เริ่มกังวลขึ้น ซึ่งนี่มันเลยเวลานัดไปกว่าชั่วโมงครึ่งแล้ว แต่เซวหยวนป้าก็ยังไม่มาสักที
ซึ่งมันก็ทำให้ทุกคนเป็นกังวลมาก
“เจ้าบ้านซ่งครับ ท่านเป็นผู้อาวุโสที่สุดในนี้ ท่านลองติดต่อเจ้าชายตระกูลเซว ดูว่าเขาถึงไหนแล้วดีไหมครับ?”
หลินเทียนเจ๋อมองไปที่ซ่งชิงซานและถามเขา
ซ่งชิงซานเลิกคิ้วขึ้น แม้ว่าเขาก็กังวลเหมือนกัน แต่ถ้าให้โทรหาเซวหยวนป้า เขาคงไม่กล้าทำ
“พวกคุณจะใจร้อนทำไม? คนระดับอย่างเจ้าชายตระกูลเซว เราจะโทรไปรบกวนท่านตามใจชอบได้หรือ?”
ซ่งชิงซานพูดต่อ “ไม่ต้องห่วงหรอก ในเมื่อเจ้าชายตระกูลเซวให้พวกเรามารอในงานเลี้ยงฉลองนี้ มันต้องไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน!”
“แต่ว่า......”
ซุนซวี่คิดจะพูดอะไร แต่ซ่งชิงซานก็ขมวดคิ้วและพูดต่อ “ทำไมครับ? เจ้าบ้านซุนสงสัยในเจ้าชายตระกูลเซวงั้นหรือ?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของซุนซวี่เปลี่ยนไปอย่างมาก เขาได้แต่ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ไม่กล้าครับ ผมจะกล้าสงสัยในเจ้าชายตระกูลเซวได้ไง?”
“ในเมื่อท่านยังไม่มา แสดงว่าท่านต้องมีธุระด่วนจึงทำให้ล่าช้า งั้นเราก็รอกันต่อไปเถอะ”
ซุนซวี่แสยะยิ้มแล้วยกแก้วไวน์ขึ้นมาดื่มเพื่อปกปิดสีหน้าอารมณ์ของเขา
ในใจของเขาแอบนินทาจิ้งจอกเฒ่าอย่างซ่งชิงซาน ถ้าเซวหยวนป้ารู้ว่าเขาสงสัยในตัวเขา เกรงว่าตระกูลซุนคงอยู่ไม่ไกลจากความพินาศแล้ว
สีหน้าของหลินเทียนเจ๋อกับซ่งชิงซานก็บูดบึ้งอย่างดูไม่ได้
“จะบ่นอะไรนักหนา?”
หลินเทียนเจ๋อพูดด้วยความโกรธ “เจ้าชายตระกูลเซวเรียกเรามาฉลองงานเลี้ยง มันต้องไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เจ้าชายตระกูลเซวยังไม่มา คุณบอกผมหน่อยสิ ถ้าเราออกไปตอนนี้ แล้วถ้าเจ้าชายตระกูลเซวไม่เจอพวกเราหลังจากที่ท่านมาถึง ท่านจะรู้สึกยังไง?”
ซ่งชิงซานก็พูดขึ้น “ถ้าเจ้าชายตระกูลเซวมาแล้วไม่เจอพวกเรา เกรงว่าทุกตระกูลในนี้ต้องพินาศแน่!”
“หือ!”
หลายๆ คนสูดหายใจเข้าลึกๆ แต่พวกเขารู้ดีว่าซ่งชิงซานไม่ได้พูดเกินเหตุ ทุกอย่างที่เขาพูดนั้นล้วนเป็นความจริง
ด้วยสถานะของเซวหยวนป้า เขาจะไม่ต้องการการให้เกียรติอย่างไร?
เขายอมลดตัวมาเชิญตระกูลเศรษฐีเหล่านี้มาร่วมงานเลี้ยง แต่สุดท้ายกลับไม่มีใครอยู่รอเขาในงานเลี้ยง นั่นไม่ได้หมายถึงการไม่ให้เกียรติเขาเลยหรือ?
ดังนั้น ตอนนี้พวกเขาจะไปไหนไม่ได้
ซุนซวี่ยิ่งคิดก็ยิ่งกังวล แต่คำพูดของหลินเทียนเจ๋อกับซ่งชิงซานนั้นทำให้เขาเกรงกลัวเซวหยวนป้ามากขึ้น
ตอนนี้พวกเขาเข้าใจถึงคำว่าขี่หลังเสือแล้วลงจากหลังเสือยากแล้ว
“อีกครึ่งชั่วโมง ถ้าเจ้าชายตระกูลเซวยังไม่มา ผมจำเป็นต้องออกไปแล้ว!”
ซุนซวี่กัดฟันพูด
“ได้ งั้นรออีกครึ่งชั่วโมง!” หลินเทียนเจ๋อกับซ่งชิงซานก็พูดเช่นกัน
พวกเขารู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาใส่อารมณ์กัน และถ้ารออีกครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็จะรอจนครบสองชั่วโมงแล้ว
ถ้าเซวหยวนป้ายังไม่มา ต่อให้พวกเขาออกไปในขณะที่เซวหยวนป้ามาถึง พวกเขาก็คงไม่ผิดขนาดนั้นใช่ไหม?
และในชั่วพริบตา เวลาอีกครึ่งชั่วโมงก็ผ่านไป เซวหยวนป้าก็ยังไม่ได้ปรากฏตัว แต่พวกเขากลับได้ข่าวร้ายไปแทน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
เขียนยืดเยื้อฉิบหาย.. อ่านแล้วหงุดหงิด...
ยืดเยื้อมากอ่นแล้วโครตเสียอารมณ์แค่บอกว่าเป็นใครแค่เนี้ย แม่งยืดซะจนไร้รสชาติเลย เสียเวลา ่านฉิบหาย...
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...