เฝิงเสียวหว่านมองหยางเฉินด้วยสีหน้าขอโทษ แล้วพูดว่า “ตอนนี้ ผู้อาวุโสเจียง ไม่สามารถทำตามคำขอภายในหนึ่งเดือน ถ้าฉันรักษาเขา แล้วเขาแตะต้องบู๊ เมื่อถึงตอนนั้น จะมีชีวิตอยู่ได้แค่หนึ่งสัปดาห์”
“สำหรับฉัน ถึงฉันทำผู้อาวุโสเจียงตาย ฉันจะช่วยชีวิตคนใกล้ตายและดูแลรักษาคนที่บาดเจ็บเท่านั้น แต่จะไม่ยอมเป็นเพชฌฆาต ดังนั้นถ้าผู้อาวุโสเจียงรับประกันไม่ได้ ฉันจึงไม่สามารถรักษาเขาได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของเฝิงเสียวหว่าน จู่ๆ หยางเฉินไม่รู้จะพูดอะไร
ทุกคนล้วนมีสิ่งที่ตัวเองยืนหยัด สิ่งที่เฝิงเสียวหว่านพูด ฟังดูไร้เหตุผล แต่เป็นหลักการทางการแพทย์ ที่หมอเทวดาเฝิงถ่ายทอดให้เธอตั้งแต่เด็ก
หยางเฉินไม่ได้มีความคิดที่จะให้เฝิงเสียวหว่านเปลี่ยนแปลง
ผู้อาวุโสเจียงถอนหายใจ “ดูเหมือนว่า นี่คือสิ่งที่สวรรค์ตัดสินฉันแล้ว!”
เจียงหลงเฟยกับเจียงลี่ ต่างมีสีหน้าเศร้าใจ เจียงหลงเฟยรีบพูดว่า “คุณเฝิง ไม่มีวิธีที่ปลอดภัยสักหน่อยเหรอ ที่จะรักษาพ่อผม”
เฝิงเสียวหว่านส่ายหน้า “อาการบาดเจ็บของผู้อาวุโสเจียงสาหัสมาก ฉันต้องฝังเข็มให้เขาติดต่อกันหนึ่งเดือน และการใช้เข็มแต่ละครั้ง ล้วนอันตรายมาก ถ้าไม่ระวังเพียงเล็กน้อย อาจจะกระทบกระเทือนทางด้านจิตใจอย่างรุนแรง อาการบาดเจ็บก็จะรุนแรงขึ้นด้วย”
“ฉันต้องฝังเข็มให้เขาทุกวัน ต้องหาวิธีขับพิษเย็นในตัวเขาออกมา ในช่วงนี้ ผู้อาวุโสเจียงยังต้องพยายามสงบจิตสงบใจ ถึงจะรับประกันได้ว่าการรักษาจะราบรื่น”
เจียงหลงเฟยสีหน้าไม่เต็มใจ ไม่ง่ายเลย กว่าจะหาหมอเทวดาที่จะรักษาพ่อเขาได้ แต่เพราะพ่อไม่สามารถรับประกันได้ว่า จะไม่แตะต้องบู๊ จึงทำให้เสียโอกาสนี้ไป
จากสภาพของเจียงสยง ถ้าไม่รับการรักษา กลัวว่าจะอยู่ไม่ถึงสามเดือน
“คุณเฝิง ผมขอร้องล่ะ คุณช่วยรักษาพ่อผมเถอะ ได้ไหม”
จู่ๆ เจียงหลงเฟยคุกเข่าลงที่เท้าของเฝิงเสียวหว่าน พูดด้วยดวงตาแดงก่ำ “คุณเป็นหลานสาวของหมอเทวดาเฝิง ได้รับการถ่ายทอดวิชาแพทย์มาจากหมอเทวดาเฝิง ต้องมีทางรักษาพ่อผมแน่นอน ใช่ไหม”
“แค่คุณรักษาพ่อผมหาย ต่อไปจะให้ผมทำอะไร ผมยอมทุกอย่าง คุณช่วยรักษาพ่อผมเถอะ!”
เจียงหลงเฟยพูดออกมาจากใจ เขาอยากให้อาการป่วยของเจียงสยงหายจริงๆ
คนอื่นไม่รู้ถึงความทรมาน ตอนอาการป่วยของเจียงสยงกำเริบ แต่คนเป็นลูกชายของเจียงสยงอย่างเขา รู้ดีที่สุด
ทุกครั้งที่เห็นเจียงสยงต้องรับความทรมาน เมื่ออาการกำเริบ เขาแทบอยากจะรับแทนพ่อตัวเอง
“คุณเฝิง ขอร้องล่ะ ช่วยปู่ผมด้วย!”
เจียงลี่ก็คุกเข่าตรงหน้าเฝิงเสียวหว่าน สีหน้าเต็มไปด้วยความอ้อนวอน
เห็นได้ชัดว่าเฝิงเสียวหว่านไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ จู่ๆ เธอก็ทำอะไรไม่ถูก รีบลุกขึ้น พยายามประคองเจียงหลงเฟยกับเจียงลี่ให้ลุกขึ้น “พวกคุณรีบลุกขึ้นเถอะ!”
“ไม่ใช่ว่าฉันไม่ยอมช่วย แต่ฉันมีเพียงวิธีนั้น ถ้าผู้อาวุโสเจียงรับประกันไม่ได้ ว่าจะไม่แตะต้องบู๊หนึ่งเดือน ถึงฉันลงมือช่วย ถ้าเขาแตะต้องบู๊ ก็อยู่ได้ไม่เกินหนึ่งสัปดาห์นะ!”
“แต่ดูจากอาการป่วยของผู้อาวุโสเจียงในตอนนี้ ถ้าไม่รับการรักษา เขาอาจอยู่ได้ประมาณครึ่งปี”
เจียงหลงเฟยกับเจียงลี่คุกเข่าอยู่อย่างนั้น ไม่ยอมลุกขึ้นมา
“ลุกขึ้นมา!”
เจียงสยงตวาดขึ้นมา
“พ่อ ผมทนดูพ่อสูญเสียโอกาส เพียงโอกาสเดียวไม่ได้!”
เจียงหลงเฟยพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ ยังคงไม่ยอมลุกขึ้นมา
เจียงลี่ก็คุกเข่าข้างๆ เจียงหลงเฟย มองเจียงสยงด้วยสีหน้าจริงจัง ใบหน้าเต็มไปด้วยความดึงดัน
เดิมทีเจียงสยงจะโมโหใส่ แต่เมื่อเห็นแววตาจริงใจของลูกและหลานชาย จู่ๆ เขาก็ใจอ่อน
พวกเขาทำแบบนี้ ก็เพราะตัวเอง
“ถ้าจัดการความวุ่นวายอย่างหัวหน้ารองกับหัวหน้าสามได้ ผู้อาวุโสเจียงจะไม่ใช้บู๊ในหนึ่งเดือนได้ใช่ไหม”
จู่ๆ หยางเฉินที่เงียบตลอด ถามขึ้นมา
ประโยคนี้ของเขา เรียกสายตาของทุกคนทันที
สองพ่อลูกเจียงหลงเฟยกับเจียงลี่ แววตาเป็นประกาย ความหมายที่หยางเฉินพูด เขาจะช่วยเหรอ
ถ้าได้ความช่วยเหลือจากหยางเฉินจริง หัวหน้ารองกับหัวหน้าสามอะไรนั่น ก็แค่มดไม่ใช่หรือไง
เจียงสยงก็อึ้งไป ไม่นานก็เข้าใจความหมายของหยางเฉิน เขาแอบคาดหวังในใจ แต่เมื่อคิดถึงฐานะของหยางเฉิน ก็ไม่ยอมให้หยางเฉินช่วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...