“หลินเฮ่า นายไม่เตรียมงานศพของพ่ออย่างสงบใจ มาเพิ่มความยุ่งยากอะไรที่นี่”
หลินหลางแสยะยิ้มเย็นชา แล้วเอ่ยขึ้น “ฉันขอสั่งนาย ออกไปจากที่นี่ซะ วันนี้ต้องเตรียมเรื่องงานศพพ่อให้เรียบร้อย”
“สั่งงั้นเหรอ”
หลินเฮ่ามองหลินหลางด้วยสีหน้าสิ้นหวัง พูดเย้ยหยันว่า “นายเป็นลูกชายคนโตของตระกูลหลิน เรื่องเตรียมงานศพพ่อ ต้องเป็นหน้าที่ของนายไม่ใช่เหรอ ให้คนเป็นน้องชายอย่างฉันไปเตรียม ไม่เหมาะสมเท่าไรมั้ง”
“ฉันให้นายทำอะไร นายก็ทำอย่างนั้น พูดไร้สาระทำไมเยอะแยะ ไสหัวไปเดี๋ยวนี้!”
หลินหลางสีหน้าโมโห และตำหนิใส่หลินเฮ่าเสียงดัง
“หลินเฮ่า นายไปเตรียมงานศพผู้นำเถอะ การประชุมนี้ นายไม่มีสิทธิ์เข้าร่วม!”
“ใช่ เราทั้งห้าฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน นายไม่มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมนี้!”
หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ต่างพากันพูดขึ้น
ในสายตาของพวกเขา คนที่อันตรายที่สุดคือหลินเฮ่า เพราะหลินเฮ่า เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ หลินเทียนเสียงด่วนจากไป มีเพียงหลินเฮ่า ที่เหมาะสมกับตำแหน่งผู้สืบทอดตระกูลหลิน
ตอนนี้หลินหลางคิดจะเล่นงานหลินเฮ่า อยากเห็นเขาถูกกำจัดออกไป แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องเห็นด้วย
“พวกนายแน่ใจใช่ไหม ว่าจะไม่ให้ฉันเข้าร่วมการประชุมนี้”
จู่ๆ หลินเฮ่าเอาม้วนผ้าไหมออกมา จากนั้นก็กวาดตามองหัวหน้าฝ่ายต่างๆ เขายิ้มแล้วถามขึ้น
เมื่อเห็นม้วนเอกสารในมือหลินเฮ่า หัวหน้าแต่ละฝ่าย พากันหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาพอคาดเดาได้แล้ว
“หลินเฮ่า นายเอาอะไรมา”
หลินหลางตวาดอย่างโมโห “รีบเอามาให้ฉัน!”
“นี่เป็นพินัยกรรมของผู้นำ คนอย่างหลินหลาง มีสิทธิ์ดูเหรอ”
พลานุภาพของหลินเฮ่าพลุ่งพล่านออกมา เขาถามอย่างโมโห
เป็นไปตามคาด เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเฮ่า หัวหน้าแต่ละฝ่าย พากันหน้าเปลี่ยนสี
หลินเฮ่าเอาพินัยกรรมของผู้นำ มาในเวลาแบบนี้ แสดงได้เพียงว่า หลินเทียนเสียงน่าจะคาดเดาเรื่องหลังจากตายได้ ดังนั้นจึงทำพินัยกรรมเอาไว้ล่วงหน้า
แต่ไหนแต่ไร หลินเทียนเสียงให้ความสำคัญกับหลินเฮ่ามาก ในพินัยกรรม ต้องให้หลินเฮ่าเป็นผู้นำตระกูลหลินแน่นอน
“พินัยกรรมของผู้นำ ให้ฉันเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งผู้นำ ฉันว่าหัวหน้าแต่ละฝ่าย คงไม่คัดค้านคำสั่งของผู้นำใช่ไหม”
หลินเฮ่ายิ้ม แล้วพูดออกมา จากนั้นจึงเปิดม้วนเอกสาร แสดงเนื้อหาในเอกสาร ให้ทุกคนเห็น
เมื่อหลินหลางเห็นเนื้อหาในพินัยกรรม สีหน้าชะงักไปทันที “หลินเฮ่า นายกล้าใช้ชื่อของพ่อ มาทำพินัยกรรมปลอม ต้องได้รับโทษอย่างไรดี”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหลาง หัวหน้ารองกับหัวหน้าสาม ก็ตั้งสติได้ แล้วพูดว่า “ใช่ ผู้นำไม่เคยมีพินัยกรรม นี่ต้องเป็นพินัยกรรมที่นายทำขึ้นเองแน่”
“หลินเฮ่า คิดไม่ถึงจริงๆ ปกตินายแสร้งทำเป็นกตัญญูขนาดนั้น ที่แท้รอคอยวันนี้มาตลอดสินะ”
“นายอยากตบตาทุกคน ว่านายกตัญญูต่อผู้นำมาก ดังนั้นผู้นำจึงทำพินัยกรรม ให้นายสืบทอดตำแหน่งผู้นำ ใช่หรือเปล่า”
ก่อนหลินเฮ่าจะเหยียบเข้ามาในห้องประชุมนี้ เขาก็เดาว่าจะมีโอกาสเป็นเช่นนี้
ดังนั้นเมื่อเผชิญกับความไม่ละอายใจของคนพวกนี้ เขาจึงไม่แปลกใจสักนิด แต่รู้สึกเศร้าใจกับตระกูลหลิน
“พินัยกรรมจะจริงหรือปลอม พวกนายรู้ดีแก่ใจ พวกนายจะไม่ทำตามพินัยกรรมของผู้นำเหรอ”
แววตาของหลินเฮ่าเย็นชาลงเรื่อยๆ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความอาฆาต
ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น ลูกชายที่หลินเทียนเสียงให้ความสำคัญมาก จะเป็นลูกแกะที่ให้คนอื่นฆ่าแกงได้อย่างไรล่ะ
ปกติความกตัญญูที่เขามีต่อหลินเทียนเสียง แค่เมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อ เขาทิ้งความเย่อหยิ่งไปก็เท่านั้น
แต่ไม่ได้หมายความว่า เขาเป็นผู้สืบทอดที่อ่อนแอไร้กำลัง
“ก็แค่พินัยกรรมปลอม ทำไมพวกเราต้องทำตามล่ะ”
ดวงตาทั้งสองข้างของหลินหลาง เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม พูดอย่างโมโหว่า “ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!”
เมื่อเขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งของฝ่ายหลักสองคน เดินเข้ามา จ้องหลินเฮ่าด้วยแววตาดุร้าย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: The king of War
ถ้าเขียนต่อไม่ได้ก็ตัดจบเหอะ...
ไม่มีบทต่อไปหรือครับ...
ผู้เขียนเค้าเอาไปลงใน Hinovel ตอนนี้เขียนถึงบท 2541 ครับ...
กลับมาเขียนใหม่คงลืมไปหมดและ ต้องอ่านใหม่มั้ง นานเกิน แจ้งชี้แจงก็ไม่มี...
กำ...
คนเขียนตายแล้วเหรอครับ เสียใจด้วยครับ ขอให้ไปสู่สุขติครับ...
ยังอัพเดทอยู่ไหมครับ...
อัพตอนใหม่วันไหนครับ...
ขออนุญาตถามค่ะ คนเขียนเปลี่ยนคนหรือไม่มีใครเขียนต่อแล้วคะ...
คืออ่านตอนที่ 1 เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ จนถึงตอนนี้อ่านถึงตอนที่ 2278 เเต่คนเขียนก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวอันใดเลยย อยากจะขออนุญาติถามว่าคนเขียนยังอยู่ดีหรือไม่...