สองวันต่อมา…
ปิ๊งป่อง~
“อื้ออออ~” เสียงกริ่งที่ดังติดต่อกันสองสามครั้ง ทำให้ร่างเล็กที่นอนซมเพราะพิษไข้ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอ ก่อนที่จะลืมตาพร่ามัวมองเพดานสีขาวช้าๆ แล้วหยัดตัวลุกจากเตียงเดินออกมาจากห้องนอนอย่างทุลักทุเล
แอดดดด~ ทันทีที่ทิชาเปิดประตูกว้าง เพื่อนทั้งสามคนก็โพล่งขึ้นมาพร้อมๆ พร้อมกับแสดงสีหน้าตกใจที่เห็นใบหน้าอิดโรยซีดเซียวราวกับคนป่วยใกล้ตายของเธอ
“ทำไมสภาพแกเป็นแบบนี้เนี่ย!”
“ฉันไม่สบายนิดหน่อย”
“นิดหน่อยบ้าอะไรของแกไม่มาเรียนตั้งสองวัน ได้ส่องกระจกบ้างไหมว่าตอนนี้หน้าแกซีดเหมือนผีแล้วเนี่ย” ทิชาส่ายหัวน้อยๆ แล้วก้าวเท้าหลีกทางให้เพื่อนเดินเข้ามาในห้อง ก่อนจะหมุนตัวเดินมาหยิบน้ำที่วางอยู่บนโต๊ะรับประทานอาหารกับยาแก้ไขมากิน
“แล้วพวกแกมากันทำไม”
“พวกฉันเป็นห่วงแกไง ไม่มาเรียนแถมยังไม่รับสายอีก” บีน่าพูดด้วยน้ำเสียงโล่งอกที่รู้ว่าเพื่อนไม่ได้เป็นอะไรมากอย่างที่คิด ในตอนแรกเธอแอบคิดไปแล้วว่าเพื่อนอาจจะเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอะไรแบบนั้นซะอีก
“ฉันเอาแต่นอน”
“เออ ฉันรู้ว่าแกอยากนอนอย่างเดียว แล้วนี่แกแพ้อะไรหรือเปล่าทำไมตาบวมเป่งขนาดนี้” ไข่มุกถามด้วยความสงสัย ก่อนจะก้าวเดินมาจับเปลือกตาบวมแดงของเพื่อนเบาๆ “แล้วผัวแกไปไหน ทำไมไม่มาดูแล”
“…” พอมีใครมาทักท้วงเรื่องที่มันสะกิดบาดแผลในหัวใจ น้ำตาอุ่นชื้อก็พลันจะไหลลงมาตลอดเวลา นี่คงเป็นสาเหตุว่าทำไมดวงตาของทิชาถึงบวมเป่งและแดงก่ำขนาดนี้
“ทำไมแกทำหน้าอย่างนั้น ทะเลาะกับลูแปงเหรอ” บีน่าที่เห็นความผิดปกติหลายๆ อย่างจากเพื่อนก็เอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทิชาแสดงสีหน้าเศร้าหมอง หรือเรื่องที่ลูแปงไม่อยู่ในวันที่เพื่อนของเธอไม่สบายหนัก ซึ่งปกติแล้วทั้งสองมักจะตัวติดกันตลอดเวลา
“ฉะ…ฉันเลิกกับเขาแล้ว” ริมฝีปากบางสั่นระริกเอ่ยบอกเพื่อนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาที่เอ่อคลออยู่รอบดวงตาไหลลงมาบนแก้มนวลอย่างช้าๆ ไม่ขาดสาย
“เฮ้ย! เลิกกันได้ยังไง” เอนจอยรีบเดินเข้ามาหาทิชาพร้อมกับปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มให้ ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนั้นดูช็อกไปกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะไม่คิดว่าความรักที่ดูเหมือนจะไปได้ดีของเพื่อนจะจบลงง่ายๆ แบบนี้ “เขานอกใจแกหรือว่าทะเลาะกันเรื่องเล็กน้อย”
“เขามีคนอื่นอยู่แล้ว”
“ฉันว่าแล้ว ไอ้เลวนี่!” บีน่ากัดฟันเค้นเสียงด่าทออีกฝ่ายออกมาด้วยความโมโห สำหรับเธอยังไงลูแปงก็ยังเป็นเสืออยู่วันยังค่ำ ไม่มีทางจะถอดเขี้ยวเล็บแล้วมีเพื่อนเธอคนเดียวตลอดไปได้หรอก
“เขามีคนอื่นอยู่แล้วนี่หมายความว่ายังไง ผู้หญิงคนนั้นมาก่อนแกงี้เหรอ” ไข่มุกลูบหลังเพื่อนด้วยความปลอบโยน ถึงแม้จะรู้ว่ามันคงเป็นเรื่องที่กระทบจิตใจเพื่อน แต่ก็อยากจะถามเพื่อความแน่ใจ
“อือ เขามีแฟนอยู่แล้ว”
“มีแฟนอยู่แล้ว แล้วมาขอหมั้นกับแกเนี่ยนะ เลวไม่มีที่ติจริงๆ” บีน่ายังคงหัวเสียไม่หาย หากใครเข้าใจความรู้สึกของเธอในตอนนี้ก็คงมีอาการไม่ต่างจากเธอสักเท่าไร เพื่อนรักที่สนิทกันมาตั้งนานหลายปีถูกผู้ชายหลอกเป็นใครก็ต้องโมโหทั้งนั้น
“ฉันว่าเราควรเลิกพูดเรื่องนี้ก่อนนะ ให้ยัยทิชามันไปนอนพักก่อนเถอะ สภาพมันดูไม่ได้เลย” ที่จริงแล้วเอนจอยแค่ต้องการให้ทิชาได้รักษาสภาพร่างกายและจิตใจของตัวเองให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมเสียก่อน การที่ยังพูดเรื่องราวพวกนี้มันก็เหมือนเป็นการย้ำเตือนให้เพื่อนนึกถึงมัน “ทิชาแกเข้าไปนอนพักในห้องเถอะ เดี๋ยวพวกฉันสามคนจะอยู่เฝ้าแกเอง”
“ไม่เป็นไร พวกแกมีธุระอะไรก็ไปทำกันเถอะ ฉันกินยาไปแล้วเดี๋ยวก็ดีขึ้น”
“ไม่ต้องมาพูดมากค่ะ ไปนอนๆ” ไข่มุกดันเพื่อนให้กลับเข้ามาในห้องนอนโดยที่เธอเป็นคนหยิบผ้าห่มคลุมตัวให้ทิชา ในขณะที่บีน่าเดินเลี่ยงมาหยิบผ้าขนหนูชุบน้ำหมาดๆ มาวางบนหน้าผากเพื่อนแทนแผ่นเจลลดไข้
“ขอบคุณพวกแกมากๆ เลยนะ”
“ก็เราเป็นเพื่อนกัน ฉันถึงเป็นห่วงแก เลิกคิดมากแล้วนอนพัก”
“อือ” ทิชาพยักหน้าน้อยๆ แล้วหลับตาลงอย่างช้าๆ ปล่อยให้ตัวเองเข้าสู่ห้วงนิทราไปในที่สุด เมื่อเพื่อนทั้งสามคนได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเธอ ก็เดินออกมานั่งพูดคุยกันที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
“แกสภาพทิชามันดูไม่ได้เลยนะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก