สองวันต่อมา…
“พี่มุกคะ ติดต่อยัยฟ้าใสได้บ้างไหม” เสียงหวานของรุ่นน้องทำให้สาวๆ ทั้งสี่คนหันไปมองอย่างให้ความสนใจ
“ไม่นะ” ไข่มุกส่ายหัวปฏิเสธ แน่นอนว่าตั้งแต่เกิดเรื่องที่ผับวันนั้นเธอก็ไม่ได้ติดต่อพูดคุยกับน้องรหัสตัวเองอีกเลย
“ยัยฟ้าใสหายไปไหนก็ไม่รู้ค่ะ ไม่ยอมมาเรียนสองวันแล้ว”
“ลองไปหาที่ห้องดูสิ”
“พลอยไปมาแล้วค่ะ แต่เจ้าของหอพักบอกว่ายัยฟ้าใสย้ายออกไปแล้ว”
“เหรอ งั้นพี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” ท่าทางของไข่มุกดูไม่ค่อยเป็นเดือดเป็นร้อนกับการหายไปของน้องรหัสตัวเองสักเท่าไร เพราะยังมีความโกรธเคืองกับเรื่องที่พูดจาหยาบคายกับทิชาในวันนั้นไม่หาย
“ถ้าพี่มุกติดต่อฟ้าใสได้ รบกวนบอกพลอยทีนะคะ”
“อือ”
“ไม่โทรหาน้องแกเหรอ นั่งนิ่งเชียว” บีน่าเอ่ยแซว ก่อนที่ไข่มุกจะหันหน้ามาตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบราวกับตั้งใจจะไม่สนใจเรื่องราวใดๆ ที่เกี่ยวกับน้องรหัสของตัวเองอีกแล้ว
“ไม่ใช่เรื่องของฉันแล้ว จะเป็นจะตายยังไงก็เรื่องของมัน”
“ยังไงมันก็เป็นน้องรหัสแก”
“แล้วแกจำวันนั้นที่มันพูดกับยัยทิชาไม่ได้เหรอ เป็นน้องรหัสฉันแต่ไม่ยอมเคารพเพื่อนฉันเนี่ยนะ ฉันไม่เอาด้วยหรอก เด็กปีนเกลียวแบบนี้” ไข่มุกยักไหล่เล็กน้อย แล้วหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาไถไอจีเล่นอย่างไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเพื่อนตัวเอง
“เจ๊ทิชา เจ๊~”
“เสียงดังอะไรของแกซอล” ทิชาหันไปถามน้องรหัสตัวเองที่วิ่งหน้าตาตั้งเข้ามมแล้วตะโกนโวกเวกโวยวายเสียงดังจนคนอื่นๆ หันมามองเป็นสายตาเดียวกัน
“หนูรู้แล้วว่าใครเป็นคนปล่อยรูปเจ๊ในไอจี”
“ใคร”
“ก็อีฟ้าใสไงจะใครล่ะเจ๊”
“แกรู้ได้ยังไง”
“ก็หนูได้ยินอาจารย์เขาคุยกันว่าผู้สนับสนุนใหญ่ของมหาลัยเราเดินทางมาที่นี่เองเลย มาคุยเรื่องเอาอีฟ้าออกจากมหาลัยอะดิ”
“แล้วเกี่ยวอะไรกับรูปฉัน”
“ก็ผัวเจ๊เป็นลูกผู้สนับสนุนใหญ่ไม่ใช่เหรอ หนูอยากรู้หนูเลยตามไปดูเลยเห็นว่าพ่อแม่ของผัวเจ๊กับผัวเจ๊เขาเข้าไปในห้องอธิการบดีเลยนะ” ทิชาถอนหายใจออกมาเบาๆ เพราะรู้ว่าครอบครัวของแฟนหนุ่มคงไม่ปล่อยเรื่องง่ายๆ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่การแก้แค้นแบบเดียวกัน แต่มันก็อาจจะรุนแรงไปเสียหน่อย
“แล้วตอนนี้เขายังอยู่ที่ตึกอธิการบดีกันอยู่หรือเปล่า”
“น่าจะยังอยู่นะ พอหนูเห็นหนูเลยรีบวิ่งมาบอกเจ๊เลย”
“พวกแกเดี๋ยวฉันมานะ”
“ถ้าแกจะไปห้ามไม่ต้องไป” บีน่าคว้ามือทิชาแล้วดึงลงมานั่งที่เดิม พร้อมกับสั่งด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อย่ารับบทแม่พระให้มากนัก ใครทำอะไรมันก็สมควรโดนแบบนั้น”
“…”
“ทิชาแกลองคิดดีๆ นะ ถ้าเกิดว่าคนที่โดนไม่ใช่แกจะเป็นยังไง ก็คงจะอับอายแล้วก็ไม่กล้ามาเรียนจนเสียการเรียนไปเลยก็ได้ แล้วถ้าผัวแกไม่เข้าใจป่านนี้คงเลิกกันอีกรอบไปแล้ว เห็นไหมว่าสิ่งที่ฟ้าใสทำมันแย่แค่ไหน”
“แต่ฉันว่าการเอาเด็กออกจากมหาลัยตอนนี้มันเหมือนตัดโอกาสเด็กเลยนะ”
“ทิชาแกมีพ่อมีแม่นะ ถ้าเกิดพ่อแม่แกรู้เรื่องที่เกิดขึ้นขึ้นมาจะเป็นยังไง ฉันว่าพ่อแม่แกก็คงไม่ยอมเหมือนกัน ฉันพูดถูกไหม”
“ปล่อยให้มันรับผลกรรม แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าฉันเป็นลูแปง ฉันจะทำแบบที่มันทำกับแกนั่นแหละจะได้สาสม” เอนจอยพูดเสริมหลังจากนั่งฟังเงียบๆ มานาน เธอคิดว่าลูแปงปรานีฟ้าใสแล้วด้วยซ้ำถึงให้บทลงโทษเพียงเท่านี้
“อือ” ทิชาเองก็คิดว่านี่น่าจะไม่ใช่ความคิดของลูแปง เพราะตอนที่เขารู้ว่าใครเป็นคนทำเขาดูโกรธมาก หากเป็นความคิดของเขาจริงๆ ฟ้าใสน่าจะไม่รอดจากการถูกปล่อยรูปลับๆ แบบที่เธอโดนแน่ๆ
อีกด้าน…
“เรื่องนี้คุณโชแปงตัดสินใจดีแล้วใช่ไหมครับที่จะเอาเด็กคนนั้นออก ผมว่าฑิฆัมพรน่าจะรับรู้ความผิดของตัวเองแล้วก็สำนึกผิดแล้วนะครับ”
“ถ้ารู้ความผิดของตัวเองต้องไม่ทำตั้งแต่แรก มารู้สึกผิดตอนทำไปแล้วมันจะมีประโยชน์อะไร” โชแปงเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มันแฝงไปด้วยความจริงจังจนอธิการบดีวัยกลางคนแทบจะไม่กล้าสบตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: TRICK TO LOVE หลอกให้รัก