ฮว๋าซื่อตอนยังสาวก็นับว่าสวยอยู่หรอก แต่ตอนนี้นางอายุมากแล้ว ใบหน้าจึงไม่สวยเหมือนเดิมแล้ว
พอนางร้องไห้นานๆ เข้า ดวงตาก็เริ่มจะบวดปูด หลินชูเจิ้งเห็นนางสภาพนั้นก็รู้สึกรังเกียจขึ้นมา
เขาหน้ามืดครึ้มทนฟังนางจนเล่าจบ เอ่ยถามเสียงต่ำว่า “เจ้าหมายความว่าตอนเกิดเรื่องเฟิ่งชูอิ่งไม่ได้อยู่ตรงนั้น?”
ฮว๋าซื่อสะอึกสะอื้น “นางไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่สัญชาตญาณของข้าบอกว่านางเป็นคนทำแน่นอน!
“สารถีแซ่หลิวทำงานในจวนสกุลหลินมานานหลายปี เขาเป็นคนนิสัยอย่างไรข้าย่อมรู้ดี ให้เขากล้าแค่ไหนก็ไม่กล้าทำเรื่องเช่นนั้นกับข้าหรอก!”
หากฮว๋าซื่อไม่ได้เกิดเรื่องแบบนั้นกับสารถีแซ่หลิว หลินชูเจิ้งก็คงจะรู้สึกเห็นด้วยกับคำพูดของนาง
ทว่าพอเกิดเรื่องเช่นนั้นขึ้นเมื่อวาน คำพูดของฮว๋าซื่อก็เลยฟังดูเหมือนกำลังเข้าข้างและแก้ตัวแทนสารถีแซ่หลิวไปเสียอย่างนั้น
หลินชูเจิ้งจึงสะบัดมือฟาดหน้าฮว๋าซื่อไปหนึ่งที “แพศยา พวกเจ้านอนด้วยกันจนเกิดเป็นความรักหรือ? ถึงได้พูดออกตัวแทนมันแบบนี้!”
ฮว๋าซื่อที่ถูกตบก็งุนงง นางร้องไห้ฟูมฟาย “ข้าเป็นคนอย่างไรท่านไม่รู้หรืออย่างไร ทำไมต้องต่อว่าข้าแบบนั้นด้วย!”
หลินชูเจิ้งด่า “เจ้าเป็นคนอย่างไรข้าไม่รู้หรอก แต่เรื่องที่เจ้าทำเมื่อวานคนทั้งเมืองหลวงเขารู้กันหมดแล้ว! ข้าต้องอับอายขายหน้าก็เพราะเจ้า!
“ก่อนหน้านี้ข้าไม่เคยรู้เลยว่าเจ้าจะเป็นพวกมักง่ายหลายใจ หน้าไม่อายถึงเพียงนี้!”
หลังจากเขาด่าจบก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปทันที
หลินหว่านถิงที่รออยู่ด้านนอกได้ยินเสียงพวกเขาทะเลาะกัน ในใจก็พลันขมปร่าขึ้นมา
พอหลินชูเจิ้งจากไป นางก็เดินสวนเข้าไปหาฮว๋าซื่อในห้อง
นางถามฮว๋าซื่อ “ท่านแม่ เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ฮว๋าซื่อกัดฟันเอ่ยว่า “ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่เรื่องนี้จะต้องเป็นฝีมือของเฟิ่งชูอิ่งแน่”
หลินหว่านถิงเอ่ยถาม “นางทำได้อย่างไรกัน?”
หลินหว่านถิงเห็นด้วยกับวิธีการของฮว๋าซื่อ “พวกเราควรจะลงมือกับนางตั้งนานแล้ว!”
นางกล่าวถึงตรงนี้ก็นึกขึ้นมาได้ “ท่านแม่ ช่วงสองสามวันมานี้ ข้ามักจะได้ยินเสียงของผู้ชายจากห้องของนาง
“ข้าคิดว่าพวกเราไม่ต้องหาข้ออ้างอย่างอื่นหรอก บอกว่านางลักลอบคบชู้ไปเลยก็ได้
“ถ้าข้างในห้องมีผู้ชายอยู่ ก็ตีให้ตายไปเลย เรื่องนี้ยังใช้อธิบายกับท่านอ๋องฉู่ได้ด้วย
“แต่ถ้าในห้องไม่มีผู้ชาย ถึงตอนนั้นพวกเราก็ยัดขอทานสกปรกเข้าไปสักคน จากนั้นก็ตีให้ตายทั้งคู่”
ฮว๋าซื่อพยักหน้า “เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องสอดมือเข้ามายุ่ง ข้าจะจัดการคนเดียว เจ้าต้องเป็นพระชายาในภายภาคหน้า อย่าให้มือตัวเองสกปรก”
หลินหว่านถิงพยักหน้า ก่อนจะเรียกตัวผู้ดูแลโจวมาหา สั่งให้เขาไปเตรียมการเรื่องดังกล่าว
เมื่อเข้าสู่ยามวิกาล เฟิ่งชูอิ่งก็กำลังจะอาบน้ำเตรียมตัวเข้านอน ทว่ายามนางเอียงหน้าไปอีกทาง กลับเห็นจิ่งโม่เยี่ยยืนอยู่ริมหน้าต่าง....

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักพยากรณ์ : ท่านอ๋อง ชายาท่านเลี้ยงผี