แววตาของจวินมู่หลานกลอกไปมา อยู่ๆ ก็นึกถึงสีหน้าของจวินมู่เหนียนและจวินมู่เยว่ และในใจก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง
จวินมู่หลานหัวเราะเบาๆ แล้วกล่าวว่า “เสนาบดีซู ข้าแต่งงานกับเยียนเอ๋อร์แล้วข้าจะให้เกียรตินาง แต่งงานกับอวี๋เอ๋อร์ข้าจะรักและเอ็นดูนาง จะไม่ลำเอียงไปทางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนคุณหนูใหญ่ตระกูลซูนั้น สามารถแต่งงานกับน้องสี่ได้ เรื่องนี้ข้าสามารถเป็นคนตัดสินใจได้”
บุรุษที่ดี ต้องการดูแลลูกสาวทั้งสามคนของเขาในคราวเดียว อยู่ๆ เสนาบดีซูก็เริ่มร้อนรนจนนั่งไม่ติด
เมื่อเห็นว่าเสนาบดีซูไม่ตอบอะไร จวินมู่หลานจึงหยิบน้ำชามาวางไว้ตรงหน้าเสนาบดีซูพลางเอ่ยว่า “เสนาบดีซู คนที่ฝึกวรยุทธ์ สองมือต้องประสานกัน เมื่อคนเดินถนน สองขาก็ต้องมีการเดินหน้าและตามหลัง แคว้นหนึ่งแคว้นต้องการขุนนางทั้งบุ๋นและบู้มาเติมเต็มซึ่งกันและกัน ถึงจะสามารถทำงานสำเร็จได้ หากมีความคิดเห็นต่างกัน ตะเกียบคู่นี้ก็ไม่ใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว”
เมื่อเสียงของจวินมู่หลานจบลง ตะเกียบคู่นั้นในมือของเขาก็ส่งเสียงดังแกร็ก จากนั้นก็หักไปหนึ่งแท่ง
ในใจของเสนาบดีซูสั่นสะท้าน จวินมู่หลานต้องการเตือนเขาว่าการเหยียบเรือสองแคมนั้นไม่มีประโยชน์อันใด ถ้าไม่สามารถพร้อมใจกันทำงานร่วมกันกับจวินมู่หลานได้ ก็จะกลายเป็นเหมือนตะเกียบในมือของเขา
แม้ว่าเสนาบดีซูจะรู้สึกหวาดกลัว แต่ความโกรธกลับมายิ่งกว่า
เมื่อคิดว่าเขาเองก็เป็นเสนาบดีในแคว้นนี้ เป็นผู้นำของขุนนาง จวินมู่หลานคนนี้ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเกินไป
เสนาบดีซูกล้าโกรธแต่ก็ไม่กล้าออกปากออกเสียง ทำได้เพียงถูไถให้ผ่านไปก่อน รอให้เขามั่นใจเจตนาของจวินมู่เหนียนก่อนค่อยว่ากัน
......
จวนเสนาบดี
เสนาบดีซูโกรธจวินมู่หลานมาก เดิมทีคิดว่าจะกลับจวนไปไตร่ตรองให้ดีก่อนว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป แต่ไม่คิดว่าได้ข่าวตระกูลฉินถอนหมั้น
เสนาบดีซูโกรธจนหน้าชราของเขาแดงก่ำ ศักดิ์ศรีของเสนาบดีอย่างเขาถูกรองเจ้ากรมกลาโหมตำแหน่งเล็กๆ ถอนหมั้น นี่มัน... นี่มันจะกลายเป็นเรื่องตลกให้คนอื่นเขาหัวเราะเยาะ
เสนาบดีซูตบโต๊ะด้วยความเดือดดาล “เจ้าหานเกาอี้ตัวดี ดูถูกลูกสาวของซูเหวินเฟิงของข้า ต่อไปลูกชายสองคนของเจ้าก็จงขึ้นคานไปตลอดชีวิตเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...