ซูจื่ออวี๋หัวเราะเบาๆ และพูดว่า “ท่านอ๋องคงไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เรื่องมันยุ่งยากหรอกใช่หรือไม่? รู้ทั้งรู้ว่าข้าเก่งเรื่องยาพิษ แต่ท่านก็ยังอยากจะจะทดสอบทักษะทางการแพทย์ของข้า แล้วมันต่างจากซื้อลูกสาลี่ในแผงขายแอปเปิ้ลอย่างไร?”
จวินมู่เหนียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ถ้าทำไม่ได้ ก็เลือกแต่งงานกับเจ้าแปด”
ซูจื่ออวี๋เม้มปาก ยิ่งจวินมู่เหนียนคนนี้ไม่อยากแต่งงาน แต่นางอยากแต่ง!
ซูจื่ออวี๋กล่าวว่า “ตกลง ในเมื่อท่านอ๋องต้องการเห็นทักษะทางการแพทย์ของข้า ข้าก็จะไม่ปิดบัง พาข้าเข้าวัง ข้าซูจื่ออวี๋ต้องการรักษา ข้าจะรักษาโรคทั้งหมดที่หมอหลวงรักษาไม่ได้ ข้าอยากจะตรวจอาการประชวรของฝ่าบาท!”
นิ้วของจวินมู่เหนียนเคาะลงบนโต๊ะ เมื่อได้ยินซูจื่ออวี๋พูดเช่นนั้นเขาก็กำหมัดแน่นทันที
จวินมู่เหนียนมองไปที่ซูจื่ออวี๋อย่างระมัดระวัง ราวกับว่าเขาต้องการมองทะลุสีหน้าที่ดูดีของนาง เพื่อดูว่านางกำลังซ่อนความคิดแบบไหนอยู่
อาการประชวรของฮ่องเต้เป็นเรื่องแปลก ไม่แน่อาจจะถูกอ๋องสักคนวางแผนทำร้าย
ตอนนี้ซูจื่ออวี๋ต้องการช่วยฝ่าบาท นางมีความตั้งใจที่จะช่วยชีวิตผู้คนจริงๆ หรือมีเจตนาอยากทำร้ายผู้อื่น?
จวินมู่เหนียนไม่สบายใจ เขาไม่กล้าพาซูจื่ออวี๋เข้าวังง่ายๆ อย่างแรกคือเขาไม่ไว้ใจซูจื่ออวี๋ อย่างสองเพราะเขารู้ว่าโม่ซุนสามารถรักษาอาการป่วยของฮ่องเต้ได้ ดังนั้นทำไมต้องเอาปัญหาใหม่สอดแทรกเข้ามา?
เมื่อจวินมู่เหนียนลังเล ซูจื่ออวี๋ก็พูดอีกครั้ง “ข้าไม่เพียงแต่รักษาโรคของฝ่าบาทได้เท่านั้น แต่ยังสามารถตรวจโรคของฝ่าบาทได้ด้วย เพื่อที่ฝ่าบาทจะไม่เป็นโรคเดิมอีกในอนาคต”
เฮอะ ช่างเป็นคำพูดที่ใหญ่โตจริงๆ ไม่ต้องพูดถึงการไม่เชื่อของจวินมู่เหนียน แม้แต่โม่ซุนที่ใจดีกับผู้อื่นเสมอก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเพราะรู้สึกว่าซูจื่ออวี๋กำลังใช้ความรู้สึก
จวินมู่เหนียนกล่าวว่า “แม้แต่ดูก็ยังไม่ดู กลับมั่นใจว่าจะสามารถรักษาได้ ซูจื่ออวี๋ เจ้ารู้หรือไม่ว่าการพูดไร้สาระมันหมายความว่าอย่างไร?”
ซูจื่ออวี๋เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “แม้แต่แต่งงานก็ไม่ได้แต่ง ก็ถือว่าเป็นอันตลกอย่างไม่เต็มใจเช่นนี้แหละ ท่านอ๋องฉิน ท่านรู้หรือไม่ว่าอะไรเรียกว่าเสียใจก็สายไปแล้ว?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...