ในตอนนี้เทียนชิงได้กลับมาอยู่เคียงข้างจวินมู่เหนียนโดยที่ถือดาบเอาไว้ราวกับเป็นเทพสังหาร
จวินมู่ฉงเห็นว่าในพวกเขาทั้งสามสิบคนไม่มีใครมีโอกาสลงมือได้แม้แต่น้อย เขาโกรธจนเลือดคั่งในสมองขึ้นมาในทันใดและได้กัดฟันพูดอย่างขุ่นเคืองใจ “เจ้าเจ็ด เจ้าบุกเข้ามาชิงตัวคนที่จวนพี่รอง เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
จวินมู่เหนียนพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “คน? คนอยู่ที่ไหน?”
ซูจื่ออวี๋ “...” ทำไมนางรู้สึกราวกับตัวเองกำลังโดนด่า?
จวินมู่ฉง “...” จวินมู่เหนียนกำลังจะพูดโกหกออกมาหน้าด้านๆหรือ?
จวินมู่ฉงถูกพูดจาไร้สาระใส่ด้วยท่าทางไร้ยางอายแบบนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา เขายกดาบชี้ไปยังซูจื่ออวี๋ที่อยู่ในอ้อมแขนของจวินมู่เหนียนและพูดด้วยความเกรี้ยวกราด “คนก็อยู่ในแขนของเจ้านั่นไง เจ้าเจ็ด เจ้าเห็นว่าพวกข้าตาบอดหรือ?”
จวินมู่เหนียนยกมือขึ้นมาเพื่อสางผมของซูจื่ออวี๋ ท่าทางอ่อนโยนและเชื่องช้าของเขา ทำให้ซูจื่ออวี๋รู้สึกว่าเขา...กำลังลูบแมว?
จวินมู่เหนียนยังคงตอบอย่างใจเย็น “พี่สี่ ท่านว่าระหว่างทำเป็นตาบอดหรือตาบอดจริงๆอันไหนดีกว่ากัน?”
อึก...
ทุกคนก็อ้าปากค้างเมื่อคำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา แม้ว่าน้ำเสียงของจวินมู่เหนียนจะเรียบเฉย แต่คำขู่ในคำพูดของเขานั้นน่ากลัวมาก
ความหมายของเขานั้นมันง่ายดายมาก ก็คือพวกเจ้าไม่เห็นอะไรเลยหรือหลังจากนี้ไม่อยากจะเห็นอะไรอีกเลย
ซูจื่ออวี๋ที่อิงแอบอยู่กับหน้าอกของจวินมู่เหนียนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ชายที่นางเลือกนั้นหล่อจริงๆ
จวินมู่ฉงตัวสั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาอยากจะโต้กลับจริงๆว่า “ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะกล้าลงมือ” แต่เขาพูดไม่ออกจริงๆเพราะเขารู้แก่ใจว่าจวินมู่เหนียนกล้าทำจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...