เมื่อซูจื่ออวี๋ถูกฮองเฮาเรียกชื่อ ย่อมไม่สามารถแกล้งโง่ได้อีก ขึงได้แต่ยืนขึ้นแล้วตอบกลับ “ทูลฮองเฮา คราวก่อนหม่อมฉันไม่ดีเองเพคะ ทำให้ต้องแปดเปื้อนพระเนตรของฮองเฮา”
ฮองเฮากลับดูใจกว้างมากแล้วกล่าวว่า “เฮ้อ เรื่องในอดีต ไม่จำเป็นต้องพูดถึงแล้ว ในเมื่อเจ้ามาที่นี่แล้ว ลองแสดงความสามารถของตัวเองดูหน่อยไหม? เจ้าหน้าตาดีมากจริงๆ มองแล้วก็เพลินตาเหมือนดอกไม้ มา ข้าอยากจะให้โอกาสเจ้า”
ซูจื่ออวี๋อยากจะร้องไห้ นางไม่อยากได้โอกาสนี้
แต่ทางตรงกันข้าม เสนาบดีซูกลับมีแววตาเป็นประกาย รีบดึงซูจื่ออวี๋ไปกลางห้องโถงแล้วคุกเข่าขอบพระทัย “กระหม่อมขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ขอบพระทัยฮองเฮาที่เมตตา อวี๋เอ๋อร์ ยังไม่รีบขอบพระทัยอีก”
ซูจื่ออวี๋มุมปากกระตุก บางครั้งนางก็นึกไม่ออก ด้วยความสามารถและความฉลาดของซูเหวินเฟิงเป็นเสนาบดีและผู้นำขุนนางได้อย่างไร
เขารู้แค่ขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณฮ่องเต้และฮองเฮาสองคน แต่เขาไม่คิดเลยว่าลูกสาวคนที่สามซึ่งเป็นลูกอนุของเขาจะสามารถแสดงความสามารถอะไรได้หรือไม่?
ในความประทับใจของซูจื่อหวี๋ เพื่อจะข่มเหงเจ้าของร่างเดิม นางซูไม่ได้สอนอะไรเลยนอกจากเรียนเขียนหนังสือพื้นฐานที่สุด หรือพูดอีกอย่างก็คือ แม้ว่าจะไม่มีการทะลุมิติมาของซูจื่ออวี๋ เจ้าของร่างเดิมก็คงไม่มีความสำคัญอะไรเลย
แม้ว่าตอนนี้จะมีการทะลุมิติของนางมา แต่นางก็ไม่สามารถทำเรื่องในยุคโบราณเหล่านี้ได้
การแสดงความสามารถ...มันก็เท่ากับการเปิดเผยจุดอ่อนตัวเองในเวลาสั้นๆ
ขณะที่ซูจื่ออวี๋กำลังจะปฏิเสธ ก็ได้ยินเสียงที่ดังชัดเจนขอจวินมู่เหนียนดังขึ้นมา
จวินมู่เหนียนพูดขึ้นมาว่า “เทศกาลส้างซื่อวันนั้น คุณหนูสามก็แสดงทักษะช่วยชีวิตคนได้อย่างยอดเยี่ยม ไม่รู้ว่าวันนี้จะพิสูจน์ตัวเองให้พวกเราดูได้หรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋เงยหน้าขึ้มองจวินมู่เหนียน ก็เข้าใจว่าที่จวินมู่เหนียนบอกว่า “พิสูจน์ตัวเอง” นั้นเท่ากับว่าให้นางทดสอบ
ที่แท้เขาก็จะให้นางเข้าแข่งขันเลือกพระชายาจริงๆ ดังนั้นนั่นคือสาเหตุที่เขามอบชุดสวยๆ ให้นาง
ซูจื่ออวี๋จะได้กลายเป็นตัวเด่นของลูกสาวชนชั้นสูงทั้งหมดในตงโจวแห่งนี้ ถึงจะคู่ควรกับท่านอ๋องฉินอย่างนั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...