ซูจื่ออวี๋หัวเราะเสียงเบาบอกว่า
“เหอะ หมอหลวงเว่ย ยังอยากจะเดิมพันอีกหรือ? !”
ใบหน้าเว่ยคงชิงกระตุก เขาไม่กล้าพูดต่อ
คำพูดของซูจื่ออวี๋ ทำให้ทุกคนนึกย้อนกลับไปถึงเทศกาลส้างซื่อภายในเสี้ยววินาที วันนั้นเว่ยคงชิงเดิมพันกับซูจื่ออวี๋ แต่สุดท้ายกลับต้องถูกบังคับให้โค้งคำนับ
องค์ฮองเฮาป้องปากหัวเราะ ไม่รู้ทำไม แม้พระองค์จะไม่ชอบหญิงที่ไร้มารยาท แต่กับซูจื่ออวี๋พระองค์กลับรู้สึกว่านางเถรตรงได้อย่างน่ารัก
ฮองเฮากระซิบบางอย่างข้างหูฮ่องเต้เจาเหวิน ทรงเล่าเรื่องเดิมพันของซูจื่ออวี๋ให้องค์ฮ่องเต้ฟังอย่างละเอียด
ฮ่องเต้เจาเหวินรู้สึกตกใจและประหลาดใจมาก
ฮ่องเต้เจาเหวินเอ่ยปาก
“ซูจื่ออวี๋ วิชาแพทย์ของเจ้า ได้รับการถ่ายทอดจากอาจารย์ท่านใดหรือ? ร่างกายของฮวายหยวน ใช่ว่าจะให้ใครก็ได้รักษาส่งเดช เจ้ามั่นใจหรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋ตอบอย่างนอบน้อม
“เรียนฝ่าบาท วิชาแพทย์ของข้าเรียนมาจากท่านแม่ ก่อนท่านแม่จะแต่งเข้าจวนเสนาบดี เคยเป็นหมอแสวงบุญมาก่อน ตอนยังเด็กจวนเสนาบดียังอัตคัดอยู่ การเรียนพวกศิลปะแขนงต่างๆ หรือพวกโคลงกลอนสุนทรียภาพเหล่านั้น จึงเพียงพอสำหรับพี่สาวทั้งสองเท่านั้น ท่านแม่ขอหม่อมฉันเคยบอกว่าหญิงสาวไม่มีความรู้ได้แต่ไม่มีคุณธรรมไม่ได้ ไม่มีรูปโฉมได้แต่ไม่มีทักษะไม่ได้ ดังนั้นท่านแม่จึงสอนให้ข้าแยกแยะสมุนไพรและสอนวิชาทางการแพทย์ ต่อให้เติบใหญ่ในภายหน้าอาจไม่มีชื่อเสียง แต่ก็สามารช่วยเหลือผู้อื่นได้”
คำพูดเรียบง่ายของซูจื่ออวี๋ กลับเป็นการเปิดโปงความผิดของฮูหยินซู
เมื่อเป็นฮูหยินใหญ่ ไม่อาจปฏิบัติต่อลูกตนและลูกอนุอย่างเท่าเทียมก็ช่างเถอะ แต่เหตุใดจึงต้องใจร้ายกับลูกอนุ? แม้แต่ศิลปะขั้นพื้นฐานสำหรับหญิงสาวก็ไม่ยอมให้เรียน หนำซ้ำยังหาข้ออ้างที่น่าขันโดยการบอกว่าจวนเสนาบดีอัตคัด
จวนเสนาบดีถึงกับบอกว่าตัวเองอัตคัด เช่นนั้นชาวบ้านไม่ต้องอดตายกันหมดหรือ?
ทันใดนั้น สายตาของคนทั่วทั้งตำหนักที่หันมองฮูหยินซู เต็มไปด้วยความดูแคลน
ดีก็ดีด้วยกัน ตายก็ตายด้วยกัน แม้เสนาบดีซูจะไม่พอใจฮูหยินซูเหมือนกัน แต่ตอนนี้เขาจำเป็นต้องช่วยออกหน้าแทนฮูหยินซู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...