ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 162

เมื่อได้ยินเสียงของลั่วกุ้ยเฟย พวกนางกำนัลกับขันทีเหมือนเพิ่งได้สติ พวกเขากำลังจะเดินไปหาซูจื่ออวี๋ แต่กลับได้ยินเสียงเยือกเย็นน่าเกรงขามของจวินมู่เหนียนดังขึ้น

“ทำลายการถอนพิษของพี่รอง พวกเจ้ารับผิดชอบไหวหรือ?”

คนพวกนั้นชะงักฝีเท้า ไม่กล้าเดินเข้าไปอีก ต่างพากันหันไปมองฮ่องเต้และฮองเฮา

ทั้งสองพระองค์กำลังขมวดคิ้ว แม้สีหน้าจะไม่สบอารมณ์ แต่ก็ไม่คิดจะขัดขวาง ดูจากสีหน้าของทั้งสองพรองค์แล้ว เห็นได้ชัดว่าประหลาดใจมากกว่าโมโห!

จวินมู่หลานที่ถูกถีบจนหงายหลังหายใจติดขัด เพราะถูกสกัดจุดเลยทำให้เขาพูดไม่ออก ขยับไม่ได้ มีเลือดจุกอยู่ในลำคอ เขาจ้องมองซูจื่ออวี๋ด้วยดวงตาแดงก่ำ

เขาโตมาขนาดนี้ ยังไม่เคยถูกเหยียดหยามมากเพียงนี้

ทว่าในขณะที่เขาคิดว่าหลังจากซูจื่ออวี๋ทำร้ายเขาไปหนึ่งยกเรื่องคงจบลง แต่ซูจื่ออวี๋กลับเดินเข้ามา แล้วดึงผมของจวินมู่หลาน เพื่อให้เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จากนั้นโน้มเข้าไปข้างหูเขาบอกว่า

“ครั้งนี้ข้าจะปล่อยเจ้าไป แต่หากกล้าคิดร้ายกับข้าอีก ข้าจะถลกหนังนของเจ้า!”

จวินมู่หลานอ้าปากตาค้าง แววตาที่เขามองซูจื่ออวี๋เหมือนกับเห็นผี นางกล้าได้อย่างไร? นางกล้าได้อย่างไร? !

หนึ่งสาดเหล้า สองตบหน้า จากนั้นถีบแล้วพูดจาข่มขู่ ทุกการกระทำล้วนแต่ทำลายศักดิ์ศรีและล้ำเส้นเขา

จวินมู่เหนียนโมโหทันที รู้สึกถึงกลิ่นคาวและรสหวานในลำคอ

ซูจื่ออวี๋เห็นเขาดวงตาแดงก่ำ คิดว่าน่าจะพอสมควรแล้ว จึงได้ลุกขึ้นแล้วเดินถอยหลังไปสองก้าว ทันทีที่ซูจื่ออวี๋เดินออกไป จวินมู่หลานกลับพุ่งพรวด

มีเลือดกระอักออกมาจากปากของเขา นี่น่าจะเรียกว่าโกรธจนกระอักเลือดจริงๆ!

ให้ตายสิ!

“ฮวายหยวน! ฮวายหยวน! ฮวายหยวน!” ลั่วกุ้ยเฟยรีบร้อนลงมาจากที่นั่ง ขันทีกับนางกำนัลก็กรูกันเข้าไป หมอหลวงเว่ยก็รีบเข้าไปดูอาการเช่นกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ