ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 200

ฮ่องเต้เจาเหวินตรัสถามด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรไปหรือ?”

จวินมู่เหนียนกล่าวว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่มากพ่ะย่ะค่ะ แค่เหนื่อยเล็กน้อยเท่านั้น”

ฮองเฮาจึงรีบตรัสถามทันทีว่า “ฝ่าบาทก็พอเพียงเท่านี้เถอะเพคะ ท่านเองก็ต้องพักผ่อนด้วย”

ฮ่องเต้เจาเหวินยังไม่ทันจะตอบรับ อานเป่ยเยว่ก็เริ่มไม่มีความสุข พูดด้วยน้ำเสียงกังวลเล็กน้อย “ฮองเฮาเพคะ ท่านลืมเยว่เอ๋อร์ไปแล้วหรือเพคะ?”

ฮองเฮาตรัสด้วยรอยยิ้ม “อีกเดี๋ยวเจ้ากับพระชายาอานชินอ๋องไปที่ตำหนักของข้า เรื่องของเจ้า ข้าจะคุยกับเจ้าเป็นการส่วนตัว”

อานเป่ยเยว่มองไปที่พระชายาอานชินอ๋อง และพระชายาอานชินอ๋องก็มองไปที่อานชินอ๋อง

สุดท้าย อานชินอ๋องจึงพยักหน้าราวกับกำลังครุ่นคิด ในที่สุดอานเป่ยเยว่ก็เลิกวุ่นวายกับฮองเฮา

เมื่อได้รับอนุญาตจากฮ่องเต้และฮองเฮา จวินมู่เหนียนจึงเข็นรถเข็นออกไป ขณะที่ไปถึงกลางห้องโถงใหญ่ จวินมู่เหนียนก็มองไปที่ซูจื่ออวี๋ก่อนจะพูดว่า “ยังไม่ไปอีกรึ?”

ซูจื่ออวี๋ตะลึงงันอยู่กับที่ด้วยสีหน้างุนงง

ซูจื่ออวี๋ชี้จมูกของตัวเองแล้วถามอย่างสงสัย “เรียก...เรียกข้าอยู่หรือ?”

จวินมู่เหนียนเหมือนหมดความอดทน สะบัดแส้อ่อนออกไปหนึ่งครั้งม้วนตัวของซูจื่ออวี๋ขึ้นมาบนตักของเขา

ภายใต้สายตาที่จับตามองของทุกคน เขากอดนางไว้อย่างเปิดเผย

ซูจื่ออวี๋ตัวแข็งทื่อไปหมด

จวินมู่เหนียนหยิบเสื้อคลุมที่เทียนชิงมอบให้ แล้วมาห่อตัวให้ซูจื่ออวี๋เพื่อปกปิดความจนตรอกที่ไม่มีแขนเสื้อของนาง

พลางพูดด้วยน้ำเสียงหมดความอดทน “นอกจากเจ้าแล้ว ยังมีใครเป็นคนของข้าอีกหรืออย่างไร?”

จนคนในที่แห่งนั้นลืมไปแล้วว่าจะตอบสนองอย่างไร

นางแค่อดคิดไม่ได้ แบบนี้จวินมู่เหนียนกำลังออกหน้าเพื่อนางอยู่หรือไม่? หรือกำลังอธิบายให้นางฟังว่าถึงนางจะเป็นพระชายารองแต่เขาก็ยังได้รับความโปรดปรานเหมือนชายาเอก?

จิตใจของซูจื่ออวี๋สับสนเล็กน้อย

...

วังหลัง ตำหนักหลายอี้

ฮองเฮานั่งอยู่เบื้องหน้ากระจกทองสัมฤทธิ์ จิ่นซิ่วกำลังช่วยฮองเฮาถอดเครื่องประดับ และในเวลาเดียวกันก็มีพระชายาอานชินอ๋องและอานเป่ยเยว่นั่งอยู่ข้างๆ การสนทนาของทั้งสามคนดูเหมือนจะไม่มีความสุขเท่าไร บรรยากาศภายในห้องกระอักกระอ่วนอย่างเห็นได้ชัด

พระชายาอานชินอ๋องก็พูดอย่างเป็นกังวล “ฮองเฮาเพคะ ท่านหมายความว่าเจตนาของฝ่าบาทคือต้องการให้เยว่เอ๋อร์แต่งงานกับอ๋องสิบหรือเพคะ? แต่อ๋องสิบอายุเพียงสิบห้าปี เขาอายุน้อยกว่าเยว่เอ๋อร์หนึ่งปี แบบนี้...ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสมเลยนะเพคะ”