อานเป่ยซานพยักหน้ากล่าวว่า “ขอรับ เช่นนั้นลูกขอตัวก่อนนะขอรับ ท่านพ่อก็อย่าได้บังคับน้องเกินไป น้องยังเด็ก จะเว้นไปอีกสองปีก็ไม่เสียหาย”
อานชินอ๋องพยักหน้า ส่งสัญญาณให้อานเป่ยซานออกไป
อานเป่ยซานหมุนตัวแล้วจากไปทันที ขณะที่เดินออกมาจากประตู ใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวและน่าเกลียด
ซูจื่ออวี๋คนนั้นอย่างไรก็เป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ ท่านพ่อท่านแม่ของเขาไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณก็ช่างเถอะ แต่เหตุใดถึงยังคิดร้ายต่อนางได้?
ไม่ได้การ แม้ว่าซูจื่ออวี๋จะไม่แต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่สามารถแต่งงานกับจวินมู่เหนียนได้
ไม่อย่างนั้นไม่เท่ากับรนหาที่ตายหรือ?
อานเป่ยซานมองไปที่ประตูใหญ่ด้วยความกังวล ในใจก็คิดว่าพรุ่งนี้ต้องหาทางออกจากจวน
......
ขณะอานเป่ยซานกำลังกังวลเรื่องของซูจื่ออวี๋อยู่นั้น ซูจื่ออวี๋ก็หลับอยู่ในอ้อมแขนของจวินมู่เหนียนไปแล้ว
หลับไปแล้วหรือ?
จวินมู่เหนียนเห็นสาวน้อยหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของเขา ก็รู้สึกจนปัญญาขึ้นมาอย่างอดไม่ได้
รถม้าวิ่งมาถึงที่หน้าประตูจวนอ๋องฉินนานกว่าครึ่งชั่วยามแล้ว เพราะว่านางหลับตลอด ดังนั้นจึงทำใจปล่อยนางไม่ลง สตรีคนนี้ระมัดระวังตัวที่สุดไม่ใช่หรือ?
แต่นางกลับหลับอยู่ในอ้อมแขนของเขาเช่นนี้ หรือว่านางไม่รู้ว่าเขาก็เป็นบุรุษคนหนึ่ง ไม่กลัวว่าเขาจะทำอะไรไร้มารยาทกับนางหรือ?
จวินมู่เหนียนเม้มปาก กระชับแขนโอบกอดนางโดยไม่รู้ตัว แต่ยังไม่ได้กระทำการใดๆ ต่อ เสียงรายงานก็ดังมาจากนอกรถม้า ทำให้เขาต้องทำลายความสงบสุขที่อยู่ตรงหน้า
“ทูลท่านอ๋อง จวงเสียนเฟยส่งคนมาแจ้ง ให้ท่านอ๋องเข้าวังพ่ะย่ะค่ะ” ผู้พูดก็คือองครักษ์เทียนชิง
จวินมู่เหนียนขมวดคิ้วถามว่า “นี่มันก็เที่ยงคืนแล้ว” เขาไม่อยากไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...