ซูจื่ออวี๋ยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง คำพูดของนางไม่น่าฟัง และมองปราดเดียวก็รู้ว่าอานชินอ๋องไม่ได้ชอบนางเท่าไรนัก คิดว่านางประจบประแจงไปแล้วอานชินอ๋องคนนี้จะช่วยนางงั้นหรือ? ก็เปล่า
ไม่สู้พูดผลประโยชน์ออกมาให้ชัดเจน เมื่อมีผลประโยชน์แลกเปลี่ยน ถึงจะทำให้เขาลงมือช่วยเหลือได้
อย่างที่คาดไว้ แม้ว่าอานชินอ๋องจะโกรธเพราะสิ่งที่ซูจื่ออวี๋พูดมา แต่เมื่อคิดถึงอาการเจ็บปวดเรื้อรังที่ไหล่ของตนก็อดไม่ได้อยากให้ซูจื่ออวี๋ลองดู ถึงอย่างไรไหล่ของเขาก็เจ็บมากขึ้นทุกปี
แต่สาวน้อยตรงหน้าเขาคนนี้จะแก้พิษได้จริงๆ หรือ?
ขณะที่อานชินอ๋องกำลังลังเลนั้น คาดไม่ถึงว่าซูจื่ออวี๋จะแทงเข็มไปที่ม้าลากรถ
ขาของม้าตัวนั้นก็อ่อนลงทันที ก่อนจะหมอบลงที่พื้น เกือบทำให้รถม้าพลิกคว่ำ
“ท่านอ๋องระวัง” เหล่าองครักษ์ก็รีบเข้าไปพยุงรถม้า
ซูจื่ออวี๋ก็พูดออกมาว่า “ท่านอ๋องเห็นหรือยัง วิชาแก้พิษของข้ายิ่งดีกว่าวิชาวางยาพิษของข้าเสียอีก”
อานชินอ๋องโกรธจนแทบสำลัก กัดฟันพูดว่า “ทหาร ไปดู”
“พ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์หนึ่งในนั้นก็ไปเรียกทหารหลงอู่ที่อยู่หน้าประตูเมืองทันที กลุ่มคนรีบร้อนวิ่งออกไปตามถนนหลวง ซูจื่ออวี๋เองก็ไม่ยอมพักหายใจ รีบวิ่งตามไปในทันที
โชคดีถึงแม้ว่าจะล่าช้าไปหน่อยแต่ก็ยังมาทัน
แม้ว่าหันหรูเฟิงจะถูกโจมตีจนมีสภาพเหมือนหมาจนตรอก แต่ก็ยังไม่ถึงตาย
กลุ่มคนชุดดำที่เห็นทหารหลวงพุ่งเข้ามาก็รีบหนีเข้าไปในป่าลึก เห็นได้ชัดว่าไม่อยากมีเรื่องกับทหารหลวง
ซูจื่ออวี๋รีบวิ่งไปตรงหน้าหันหรูเฟิงแล้วรีบถามว่า “เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...