นางอยากสืบเรื่องของตระกูลหรวนแทนจู้หลิง จึงออกจากเมืองหลวงไม่ได้ชั่วคราว
อีกอย่างมารดาของนางหยวนหลียังไม่ได้เคลื่อนศพ นางจะทิ้งศพของมารดาแล้วจากไปได้อย่างไร?
เมื่อหลบหนีไม่ได้ เช่นนั้นต้องเอ่ยปากขอร้องคนของจวนเสนาบดีมาช่วยหรือ? ซูจื่ออวี๋เบะปาก เสนาบดีซูอาจจะอยากให้นางตายมากกว่าพระชายาอานชินอ๋องด้วยซ้ำ
ในขณะที่ซูจื่ออวี๋กำลังครุ่นคิด ผู้คุมที่เพิ่งจากไปไม่นานกลับมาอีกครั้ง
ครั้งนี้ในมือของเขามีกล่องอาหารมาด้วย เขาเดินตรงไปหาซูจื่ออวี๋ที่ห้องขัง
“กินข้าวได้แล้ว!”
กินข้าวหรือ? มุมปากซูจื่ออวี๋กระตุก คิดในใจอาหารที่มาส่งถึงห้องขังเช่นนี้โดยมากคงเป็นอาหารมื้อสุดท้าย
ผู้คุมเปิดประตูห้องขัง แล้วเปิดกล่องอาหารออก อาหารที่บรรจงทำอย่างประณีตวางไว้ตรงหน้า มีทั้งผักและเนื้อสัตว์ อีกทั้งยังมีน้ำแกง ดูแล้วอลังการเหลือเกิน
อาหารในเรือนจำของสำนักจิงจ้าวละลานตาเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด?
ผู้คุมเห็นซูจื่ออวี๋ยืนนิ่งไม่ขยับ จึงรีบเอ่ยขึ้น
“คุณหนูสามตระกูลซู นี่เป็นอาหารที่ใต้เท้าสำนักจิงจ้าวสั่งการลงมาเอง ท่านยังไม่ถือว่ามีความผิด ดังนั้นจึงต้องดูแลท่านบ้าง ท่านรีบกินตอนร้อนเถอะ ข้าน้อยจะได้กลับไปรายงานเบื้องบน”
แค่กินข้าวยังต้องรายงานหรือ?
ซูจื่ออวี๋เดินไปหาอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย ดื่มน้ำแกงไปหนึ่งคำ หอมหวานอร่อย ชิมอาหารไปอีกหนึ่งคำ กลิ่นหอมติดปาก ยกข้าวสวยขึ้นมา กลิ่นหอมเตะจมูก
น้ำแกงไร้พิษ อาหารไร้พิษ ข้าวก็ไร้พิษ แต่หากนางกินอาหารพวกนี้เข้าไป ต้องตายอย่างแน่นอน
ซูจื่ออวี๋ยกมุมปากขึ้นจนกลายเป็นรอยยิ้ม นางคิดในใจ จวนเสนาบดีช่างไม่ธรรมดา มียอดฝีมือในการใช้พิษซ่อนตัวอยู่เสียด้วย ดูท่า...ชีวิตจะยิ่งน่าสนุกแล้วสิ
เมื่อเห็นซูจื่ออวี๋กินอาหารทั้งหมดจนพร่องไปกว่าครึ่ง ผู้คุมที่มาส่งอาหารถึงได้โล่งใจ
ซูจื่ออวี๋เห็นท่าทางตื่นเต้นของเขาถึงกับหัวเราะพรวด
แค่นี้หรือ?
พิษแค่นี้ยังไม่พอยาไส้นางด้วยซ้ำไป
ซูจื่ออวี๋กินอิ่มแล้วจึงเริ่มเก็บพวกถ้วยชามกลับไปในกล่องอาหาร ผู้คุมเห็นดังนั้นจึงรีบนั่งลงบอกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...