ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 44

ซูจื่ออวี๋ใช้ผ้าเช็ดฝ่ามือของตัวเอง ราวกับสัมผัสโดนสิ่งสกปรกอะไรทำนองนั้น พลางกล่าวด้วยเสียงเย็นชา “ตบเจ้าแล้วยังไง? เจ้าเป็นบ่าว พูดจาไม่ดี คุณหนูสามของจวนเสนาบดีอย่างข้า จะตีเจ้ามิได้เชียวรึ? ความผิดนี้ เจ้าเชื่อหรือไม่ว่าพรุ่งนี้ข้าขายเจ้าได้”

ซื่อจี้ยังตกใจ ไม่สนใจความเจ็บปวดบนใบหน้า ถอยกลับไปสองก้าว เอ่ยโต้แย้ง “เจ้า... เจ้า... เจ้าขายข้าไม่ได้ ข้า...ข้าเป็นสาวใช้ที่แต่งงานมาพร้อมกับฮูหยิน”

ซูจื่ออวี๋หัวเราะออกมา “ดูมารยาทเจ้าสิ เอ่ยปาวๆ ว่าเจ้าเจ้าข้าข้า เจ้าคู่ควรเรียกคุณหนูอย่างข้าเช่นนี้ด้วยหรืออย่างไร? ปกติท่านแม่เขาสั่งสอนเจ้าเช่นนี้หรือ? อย่างน้อยข้าก็เป็นคุณหนูสามของจวนเสนาบดี แต่เจ้ากลับกล้าพูดจาหยาบคายกับข้าบนถนนผิงหนานแห่งนี้ กลับจวนคราวนี้ เจ้าอยากจะถูกโบยหรือไม่ คุกเข่าแล้วเรียกข้าว่าคุณหนู”

ซื่อจี้ถูกซูจื่ออวี๋โกรธจนอึ้งไปพักหนึ่ง ผ่านไปครึ่งวันก็ยังคิดคำโต้แย้งไม่ออก

เพราะซูจื่ออวี๋พูดถูก นางมีอายุมากกว่าซูจื่ออวี๋สี่ห้าปี เคยข่มเหงซูจื่ออวี๋ให้เรียก ตัวเองว่าบ่าว

แต่ซูจื่ออวี๋ในตอนนั้นเป็นคนยอมรับความลำบากโดยไม่ขัดขืน ขี้ขลาด ไม่เคยเป็นคนเฉียบขนาดขนาดนั้นมาก่อน

ซื่อจี้มองซูจื่ออวี๋ราวกับเห็นผี ชาวบ้านในเมืองหลวงมองซูจื่ออวี๋ด้วยความอยากรู้อยากเห็น ขณะที่เหล่าอ๋องหลายคนบนร้านปาเจินฝั่งตรงข้ามกำลังมองซูจื่ออวี๋

……

“ไม่คิดเลยว่าสามสาวน้อยตระกูลซูจะหน้าตาดีขนาดนี้ พี่รอง เหตุใดถึงได้ชอบคนที่สองล่ะ ไม่ชอบคนที่สาม? ละครคราวก่อนมันน่าตื่นตาตื่นใจมาก” อ๋องจวินมู่ฉงเลียริมฝีปาก ในแววตาเต็มไปด้วยเจตนาไม่ดี

อ๋องรองจวินมู่หลานมองไปที่ซูจื่ออวี๋ ในใจกลับรู้สึกแปลกๆ อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซูจื่ออวี๋ในอดีตไม่ได้เป็นแบบนี้ นางแต่งตัวสวยหยาดเยิ้มเพื่อพยายามมาล่อลวงเขา แต่เขากลับไม่ชอบผงแป้งหนาเตอะประเภทนั้น

พอวันนี้ได้เจอ แม้ว่านางจะแต่งชุดไว้ทุกข์ แต่เหตุใดถึงทำให้คนรู้สึกว่านางงามล่มเมืองเช่นนี้?

อ๋องรองจวินมู่หลานจิบชาแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ลูกอนุ จะคู่ควรเป็นชายาเอกได้อย่างไร”

อ๋องสี่เลิกคิ้วแล้วพูดว่า “ที่พี่รองพูดมาก็ถูก ในเมื่อพี่รองไม่ชอบ เช่นนั้นน้องชายอย่างข้าก็จะขอนางจากเสนาบดีมาเป็นอนุ หน้าตาและรูปร่างแบบนี้ มองแล้วก็รู้สึกคันยุบยิบที่หัวใจ”

จวินมู่หลานพูดไม่ใส่ใจนัก “แล้วแต่เจ้า”

……

การสนทนาของสองคนนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะลดเสียงลง เพราะห้องส่วนตัวเปิดประตูอยู่ ดังนั้นเสียงพูดจึงลอยไปที่ห้องข้างๆ

อ๋องแปดจวินมู่เยว่ที่อยู่ห้องข้างๆ เบ้ปากพูด “พี่เจ็ด พี่ฟังดูสิ นี่มันภาษาคนหรือไม่ ก็ไม่รู้ว่าพี่รองกับพี่สี่เป็นอะไร ช่วงนี้ว่างก็มักจะมาที่ร้านหอแปดสมบัติของข้า เห็นแล้วขวางลูกตา”

อ๋องเจ็ดจวินมู่เหนียนเอ่ยถามว่า “เขามากี่วัน?”

อ๋องแปดจวินมู่เยว่ยกนิ้วนับ “มาเว้นวัน ตอนนี้ก็ครึ่งเดือนแล้ว มากินข้าวเที่ยงทุกวัน หอแปดสมบัติของข้ามันถูกปากของเขาขนาดนี้เลยหรือ หอลู่หมิงเซียงของเขาก็อยู่ตรงข้าม เหตุใดไม่ไปกินที่ของตัวเอง”

สิ่งที่จวินมู่เยว่พูดทำให้จวินมู่เหนียนรู้สึกรำคาญ

จวินมู่เหนียนเอ่ยปากเตือนว่า “เปิดร้านทำกิจการ คนที่มาล้วนเป็นลูกค้า”

จวินมู่เยว่ถอนหายใจ “ข้ารู้ว่าพี่เจ็ดพูดถูก แต่ข้าแค่ไม่ชอบเขา เจ้าลองฟังที่เขาพูดกับพี่สี่สิ ลูกอนุอะไร? พูดให้ละเอียด นอกจากพี่ใหญ่กับพี่สามที่สิ้นพระชนม์ไปแล้ว พี่ชายของพวกเราไม่ใช่เกิดจากอนุทั้งนั้นหรือ? ข้าว่าคุณหนูสามตระกูลซูก็ดูดีออก”

เมื่อพูดถึงซูจื่ออวี๋ ใบหน้านิ่งเรียบไร้คลื่นความรู้สึกของจุนมู่เหนียนก็เกิดระลอกคลื่น เขามองลงไป ซูจื่ออวี๋ยังยืนอยู่บนถนนและกำลังเผชิญหน้ากับสาวใช้คนนั้น

……

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ