ซื่อจี้ถูกตบและเหม่อลอยไปครึ่งวัน ซูจื่ออวี๋หันหลังแล้วเพื่อจะเดินไปที่หอสมบัติหลิงหลง
ซื่อจี้มีตะโกนออกมาอย่างไม่พอใจ “คุณหนูสาม”
ซูจื่ออวี๋หันกลับไปมองซื่อจี้ เอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เจ้าว่าอย่างไรนะ? เจ้าบอกว่าพี่ใหญ่ใช้ไข่มุกที่แพงมาบดเป็นแป้งเพื่อขัดเท้าหรือ? พระเจ้า แบบนี้มันสิ้นเปลืองเกินไปแล้ว”
ซื่อจี้ตะลึงงัน นางเคยพูดเช่นนั้นตอนไหน? แต่... แต่คำพูดของซูจื่ออวี๋เป็นความจริง เพื่อให้แน่ใจบริเวณใดที่ไม่ใช่เนื้ออ่อน คุณหนูใหญ่จะบดไข่มุกที่ขุนนางชั้นล่างนำมามอบให้เป็นผงไว้แช่เท้า
แต่เรื่องฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลืองเช่นนี้ จะให้เผยแพร่ออกไปข้างนอกได้อย่างไร?
แม้ว่าซื่อจี้จะไม่เข้าใจเรื่องส่วนได้ส่วนเสีย แต่ก็รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรพูดออกไปข้างนอก
ซื่อจี้โต้แย้งว่า “บ่าวไปพูดตั้ง...”
ไม่รอให้ซื่อจี้พูดจบ ซูจื่ออวี๋ก็เอ่ยอย่างแปลกใจว่า “เอ๋? เจ้าว่าอะไรนะ? เจ้าบอกว่าพี่รองไม่ใช้ของจากร้านอื่นเลยนอกจากของในหอสมบัติหลิงหลงงั้นหรือ? ต่างหูคู่หนึ่งก็เพียงพอให้ครอบครัวห้าคนที่ได้กินข้าวไปสามปี?”
พอได้ยินเช่นนั้น ชาวบ้านรอบๆ ก็พากันวิพากษ์วิจารณ์
ชาวบ้านหนึ่งพูดว่า “เสนาบดีซูคนนี้ได้เงินเดือนตกปีละเท่าไหร่กัน ให้ลูกสาวของตัวเองใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้อย่างไร นี่พูดจริงหรือไม่?”
ชาวบ้านสองก็เอ่ยว่า “ส่วนใหญ่เป็นความจริง ของในหอสมบัติหลิงหลงแพงหูฉีก แต่ข้าได้ยินมาว่าทุกเดือนพวกเขาจะนำแบบใหม่ๆ ที่เพิ่งเข้ามาในร้านไปขายที่จวนเสนาบดี”
ชาวบ้านสามก็พูดว่า “ไอ๊โย นี่มันจะไปนับประสาอะไร ต่อคุณหนูรองซูคนนั้นกินลิ้นเป็ด ต้องการเนื้อที่นุ่มที่สุดบนลิ้นเป็ด ลิ้นเป็ดจานหนึ่งก็ต้องฆ่าเป็ดกว่าร้อยตัว มันมากกว่าคำว่าฟุ่มเฟือย ช่างรวยคับฟ้าจริงๆ
“มันไร้เหตุผลเกินไป”
“ถนนเล่ากระดูกขาวหนาวศพถม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...