ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 570

สรุปบท ตอนที่ 570 เข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง: ยอดชายานักปรุงพิษ

อ่านสรุป ตอนที่ 570 เข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง จาก ยอดชายานักปรุงพิษ โดย Phayut

บทที่ ตอนที่ 570 เข้าไปร่วมงานเลี้ยงในวัง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายนิยาย ประวัติศาสตร์ ยอดชายานักปรุงพิษ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Phayut อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ซูจื่ออวี๋ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง นางอยากจะบอกว่านางกังวลแน่นอน แต่เมื่อเห็นแววตาหรี่ลงของจวินมู่เหนียน ซูจื่ออวี๋ก็เม้มปากยับยั้งความกังวลที่เกือบจะหลุดออกมาจากปากเอาไว้

ซูจื่ออวี๋หันหน้าไปทางอื่น มองออกไปนอกรถม้าแล้วพูดว่า “ท่านอ๋องด้านบุ๋นก็ดีด้านบู๊ก็ดี ไยข้าต้องกังวลเรื่องนี้ด้วย”

จวินมู่เหนียนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ว่า “ปากไม่ตรงกับใจ”

จวินมู่เยว่และฮวาเชียนเจียวก็อดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้ ซูจื่ออวี๋ก็ยิ้มอย่างเขินอายไม่กล้าหันกลับไปมองจวินมู่เหนียน

......

เมื่อทุกคนมาถึงวังหลวง ฝนบนท้องฟ้าก็ยังไม่ตกลงมา แต่ท้องฟ้ามืดครึ้มและฟ้าแลบเป็นบางครั้งทำให้ผู้คนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

จวินมู่เหนียนจับมือของซูจื่ออวี๋แล้วพูดเสียงอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก”

หัวใจของซูจื่ออวี๋เต้นรัว นางไม่ได้กลัว นางแค่รู้สึกไม่สบายใจ และความไม่สบายใจแบบนี้ก็เกิดขึ้นตั้งแต่ออกจากประตูแล้ว

ดูเหมือนว่าอากาศตอนที่ฝนกำลังจะตกมันได้รบกวนความคิดของนาง

เมื่อทุกคนมาที่ตำหนักหลงเถิง คนส่วนใหญ่ก็นั่งประจำที่กันแล้ว

เมื่อเห็นจวินมู่เหนียนและซูจื่ออวี๋เดินเข้ามา เหล่าขุนนางก็พากันทำความเคารพและทักทาย

ซูจื่ออวี๋กวาดตามองไปรอบๆ ก็พบว่าคนที่มางานเลี้ยงในวันนี้ล้วนแต่เป็นขุนนางคนสำคัญของราชสำนัก ครึ่งหนึ่งเป็นขุนนางในราชสำนักและทหาร นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ใหญ่ฉินจากสำนักฝูอี่ รวมไปถึงอ๋องทุกคนด้วย

ซูจื่ออวี๋ประหลาดใจก็คือ ข้างกายของจวินมู่หลานเป็นซูจื่อเยียนไม่ใช่หนานหยวนหรัว

ตามหลักแล้วหนานหยวนเป็นการแต่งงานในฐานะองค์หญิง และยังเป็นพระชายาเอก แม้ว่าจะไม่ได้จัดพิธี แต่สถานะก็ได้ถูกกำหนดแล้ว นางควรได้มาร่วมงานเลี้ยงกับจวินมู่หลาน

แต่ตอนนี้หนานหยวนหรัวกลับไม่มาปรากฏตัว กลับเป็นซูจื่อเยียนแทน ดูเหมือนว่าซูจื่อเยียนจะใช้ประโยชน์จากเรื่องแสร้งว่าตั้งครรภ์ของนางวางเส้นทางให้หนานหยวนหรัว

ซูจื่ออวี๋เลิกคิ้ว และพอใจกับผลลัพธ์นี้มาก อย่างแรกให้พวกนางกัดกันเอง และสองยิ่งซูจื่อเยียนพูดโม้เกินจริงมากแค่ไหน ก็จะยิ่งทิ้งจุดอ่อนของเขามากเท่านั้น ทำไมจะไม่พอใจล่ะ

ซูจื่ออวี๋นั่งลงกับจวินมู่เหนียน จากนั้นทั้งสองก็ได้ยินเสียงประกาศของขันทีน้อย “ฝ่าบาทเสด็จ ฮองเฮาเสด็จ ลั่วกุ้ยเฟย จวงเสียนเฟย...”

การแสดงอำนาจที่ไม่หนักไม่เบานี้ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของฉู่อวิ๋นหยางเกือบจะยืดยิ้มไม่ไหว

แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นรัชทายาทของแคว้น จะไม่ถึงขั้นทำลายคุณงามความดีเด็ดขาด

ฉู่อวิ๋นหยางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาทตรัสมานั้นถูกแล้ว ข้าเข้ามาก็ควรจะส่งจดหมายแคว้นมาก่อนค่อยมาถวายความเคารพ”

หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง การป้องกันของตงโจวพวกเจ้าไม่ได้เรื่อง เขาที่เป็นรัชทายาทเป๋ยฉู่เดินทางมาที่เมืองหลวงแล้ว แต่พวกเจ้าก็ไม่สังเกตเห็นด้วยซ้ำ

ฮ่องเต้จ้าวเหวินยิ้มแต่ไม่ได้ตอบอะไร

แต่จวินมู่เยว่กลับหัวเราะเยาะเอ่ยว่า “ดูสิ่งที่ท่านพูดเข้าสิ มีแต่เป็นโจรพันวัน ไหนเลยจะป้องกันโจรขโมยได้ทั้งพันวัน?”

ฉู่อวิ๋นหยางได้ยินดังนั้นก็อดกัดฟันไม่ได้ ขณะที่เขาอยากจะโต้แย้งจวินมู่เยว่ เขาก็ได้ยินจวินมู่เหนียนพูดว่า “เจียอัน อย่าเสียมารยาท”

จวินมู่เยว่ยักไหล่ ก่อนจะแสดงรอยยิ้มดื้อรั้นและขี้เล่นออกมา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ