ครั้งนี้ซู่จื่ออวี๋หาได้ตอบกลับอย่างนิ่มนวลแต่นางกลับหันไปเผชิญหน้าตรงๆ “อานซื่อจื่อยังไม่สิ้นพระทัย เจ้าเอ่ยแช่งออกมาเช่นนี้ นี่เจ้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่?!”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา พระเนตรทั้งสองของพระชายาอ๋องอานเลือนรางไปด้วยหยาดน้ำตาแห่งความหวังขึ้นมาทันใด พระนางคว้ามือของซูจื่ออวี๋และกล่าวอย่างร้อนใจ “เจ้าช่วยเขาได้ใช่หรือไม่ เจ้าจะช่วยลูกซานของข้าได้ใช่หรือไม่?”
ซูจื่ออวี๋ดันมือของพระชายาอานชินอ๋องออกไป ก่อนจะเปิดปากพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้าจะทำให้ดีที่สุดที่เหลือสุดแล้วแต่ฟ้าจะลิขิต”
ในตอนที่ทำการช่วยคน ซูจื่อวี๋ในตอนนี้ได้เข้าสู่สภาวะการทำงานของนางในชาติที่แล้วอย่างชัดเจน ถึงแม้จะเป็นหมอด้านพิษวิทยาแต่หัวใจในการรักษาและช่วยเหลือผู้ป่วยนั้นไม่ได้แตกต่างจากหมอทั่วไป
ด้วยจิตใจอันมีเมตตาของความเป็นแพทย์ แน่นอนว่านางต้องพยายามช่วยอย่างสุดกำลัง แต่ชีวิตคนถูกฟ้ากำหนดไว้แล้ว นางจึงไม่สามารถพูดโอ้อวดได้ว่าสามารถช่วยได้อย่างแน่นอน
ซูจื่อวี๋ตรวจดูอาการของซื่อจื่ออานชินอ๋องด้วยความคล่องแคล่วและชำนาญ หลังจากนั้นเพียงครู่เดียวก่อนจะเอ่ยออกมา “ซื่อจื่อถูกสิ่งของบางอย่างติดอยู่ที่พระศอ ในเวลานี้มันได้ปิดกั้นทางเข้าของอากาศหายใจทำให้แน่นิ่งไป ต้องมีคนดูดมันออกมาจึงจะรอดพ้นจากวิกฤติ”
“ดูดออกมา? ดูดเยี่ยงไร?” พระชายาอานชินอ๋องถามออกมาด้วยความร้อนพระทัย
ซูจื่ออวี๋ตอบกลับ “ดูดออกมาโดยใช้ปากต่อปาก”
พระชายาอานชินอ๋องพูดออกมาทันทีด้วยความกังวลพระทัย “ถ้าเช่นนั้นแม่นางช่วยดูดมันออกมาเร็วๆเถิด”
ซูจื่ออวี๋ตกตะลึงและชี้เข้าหาตัวเองก่อนจะถามออกไป “หม่อมฉัน?”
พระชายาอ๋องอานพยักหน้าซ้ำไปซ้ำมา ในเวลาเดียวกันนั้นคนอื่นต่างพากันมองราวกับเป็นการแสดงที่ดีงาม
มุมปากของซูจื่ออวี๋กระตุก “มันก็สมควรถ้าหากท่านลุงช่วยสะใภ้ที่จมน้ำ แต่ว่านั่นเป็นมันเพราะรอบกายไม่มีผู้ใด แต่ที่นี่มีคนตั้งมากมาย ทำไมต้องเป็นหม่อมฉัน?” ซูจื่ออวี๋มองไปยังชิงโจวเพื่อเรียก “เจ้ามานี่!”
ชิงโจวผงะไปครู่หนึ่งแล้วจึงพูดออกมาด้วยสีหน้าอันขมขื่น “ข้าน้อยมิกล้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...