ซูจื่ออวี๋เอ่ยปาก
“ก็คือคนที่มาเป็นพยานเหล่านั้น ท่านอ๋องแปดยังจำสิ่งที่ข้าเคยบอกท่านได้หรือไม่ พู่กันของคนเรียนหนังสือก็เหมือนอาวุธของนักรบ เคอจิงหัวเป็นรองอาจารย์ใหญ่ของสำนักฝูอี่ ลู่หมิงเองก็เป็นอาจารย์ที่มีชื่อเสียง ต่อให้ทั้งสองไม่ได้มีชื่อเสียงไปทั่วแผ่นดิน แต่ก็เกือบจะเป็นเช่นนั้น เส้นสายของพวกเขา บางทีอาจเกี่ยวโยงไปถึงขุนนางในราชสำนัก หากเรื่องนี้จัดการได้ไม่ดี เกรงว่าคงจะล่วงเกินคนไปไม่น้อย”
ยังไม่ทันที่จวินมู่เยว่จะได้ตอบรับ พลันได้ยินเทียนชิงที่อยู่ด้านหลังเอ่ยขึ้น
“พระชายาระวังด้วย ท่านพูดถูกแล้ว พวกท่านดูสิ...”
เมื่อผู้คนมองไปที่ทางเดินสุดถนน เห็นนักเรียนสวมชุดสีขาวฟ้ากลุ่มใหญ่พากันเดินมาทางนี้
จวินมู่เยว่สีหน้าตระหนก พูดอย่างโมโห
“เจ้าเด็กพวกนี้คิดจะก่อกบฏหรือ? พากันมามากมายขนาดนี้ทำไม?”
ซูจื่ออวี๋เห็นจวินมู่เยว่ร้อนใจ จึงรีบดึงแขนเขาเอาไว้ พร้อมบอกว่า
“ท่านอ๋องแปด อย่าวู่วาม พวกเราขึ้นไปบนรถม้าก่อน”
จวินมู่เยว่ที่เดิมทีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พอก้มหน้าเห็นมือน้อยของซูจื่ออวี๋ดึงเขาเอาไว้ ไฟโกรธในใจหายไปโดยไม่มีสาเหตุ
หญิงสาวที่งดงามขนาดนี้ อย่าว่าแต่ขึ้นรถม้าเลย ต่อให้บุกน้ำลุยไฟ เขาก็คงจะไม่อาจปฏิเสธ
แต่ว่านางเป็นอาซ้อน้อยของเขา จะคิดเกินเลยไม่ได้เด็ดขาด
จวินมู่เยว่จึงถอยหลังไปอย่างกระอักกระอ่วน เพื่อเว้นระยะห่างกับซูจื่ออวี๋
“อาซ้อน้อย ขึ้นรถม้าเถอะ ข้าจะท่านกลับไปก่อน”
ซูจื่ออวี๋พยักหน้า เตรียมจะขึ้นไปบนรถม้า แต่กลับได้ยินฮวาเชียนเจียวตะโกนขึ้น
“ท่านอ๋องมาแล้ว”
ทุกคนหันไปมองตามเสียง เป็นไปตามคาดเห็นรถม้าของจวนอ๋องกำลังมุ่งหน้าไปที่นักเรียนกลุ่มใหญ่นั่น
ซูจื่ออวี๋กลัวว่าจวินมู่เหนียนจะมีเหตุให้ปะทะกับนักเรียนกลุ่มนั้น จึงรีบบอกว่า
“พวกเราไปดูกันดีกว่า”
ทุกคนรีบพากันไปที่นั่น ไปถึงก็เห็นรถเข็นของจวินมู่เหนียนออกมาจากรถม้า ด้านหลังคืออาจารย์ใหญ่ฉินอวี้ที่มีผมสีขาว
ฉินอวี้ถอนหายใจ
“พวกเจ้าวางใจเถอะ ในเมื่อข้าอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ต้องสืบสวนจนความจริงเปิดเผย จะไม่ให้เคอจิงหัวกับลู่หมิงตายตาไม่หลับ แต่ว่าพวกเจ้าต้องรีบกลับไปเดี๋ยวนี้ อย่ามารวมตัวกันที่เมืองหลวงอีก ก่อนที่เรื่องนี้จะกระจ่าง ห้ามเผยแพร่ข่าวนี้ออกไป”
หลิวไต้ชะงักไปเล็กน้อย แล้วถามอย่างประหลาดใจ
“อาจารย์ใหญ่ เรื่องราวยังไม่กระจ่างหรือ? พยานหลักฐานพร้อมขนาดนั้น!”
ฉินอวี้ย้อนถาม
“เจ้าเห็นเขาฆ่าคนด้วยตาตัวเองหรือ? เช่นนั้นข้าขอถามเจ้า เขาถือมีดไว้ในมือซ้ายหรือว่ามือขวา? แล้วเขาใช้มีดปาดคอหรือว่าแทงหน้าอก?”
หลิวไต้ถูกถามจนพูดไม่ออก แต่ดูจากท่าทางของเขา เห็นได้ชัดว่าไม่ยอมรามือง่ายๆแน่
หลิวไต้เงยหน้าขึ้น หันมองจวินมู่เหนียนที่นั่งอยู่ด้านหลังฉินอวี้แวบหนึ่ง จากนั้นรีบละสายตา แล้วก้มหน้าพูดอย่างไม่พอใจ
“อาจารย์ใหญ่เคยบอกว่า อย่ายอมแพ้ต่ออำนาจ ตอนนี้รองอาจารย์ใหญ่เคอกับอาจารย์ลู่ถูกฆ่าตาย พวกข้า...พวกข้าจำต้องทวงความยุติธรรมให้พวกเขา!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...