ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 64

ซูจื่อหยวนเห็นเช่นนั้นจึงยิ้มบอกว่า

“น้องข้าเจ้าดีใจจนอึ้งไปเลยหรือ? ท่านแม่กำลังจะหาคู่ที่ดีให้เจ้า คนผู้นี้คือแม่สื่อ ที่มาวันนี้เพราะมาส่งเทียบตกฟาก”

ซูจื่ออวี๋เอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์

“ใครว่าข้าจะออกเรือน?” ฮูหยินซูชักจะจุ้นจ้านมากเกินไปแล้ว

ฮูหยินซูไม่ได้โมโห กลับยิ้มอย่างอ่อนโยน พูดเสียงอ่อนหวาน

“อวี๋เอ๋อร์ ตั้งแต่โบราณกาล การแต่งงานของลูก ล้วนขึ้นอยู่กับบิดามารดาและคำเจรจาของแม่สื่อ เจ้าวางใจเถอะ คู่ที่แม่เลือกให้เจ้า ไม่ทำให้เจ้าต้องลำบากหรอก”

ไม่ทำให้ลำบากหรือ?

ซูจื่ออวี๋ไม่มีทางเชื่อคำพูดของฮูหยินซูเด็ดขาด เกรงว่าคงไม่ใช่ไม่ลำบาก แต่ต้องลำบากจนตายนางถึงจะดีใจ

ซูจื่ออวี๋กำหมัด จากนั้นรวบรวมสมาธิ ตอนนี้หากปะทะกันซึ่งหน้า นางไม่อาจชนะได้ ถ้าอย่างไรรอดูก่อนว่าอีกฝ่ายคือตระกูลใด

ถึงอย่างไรตอนที่อยู่ที่ตระกูลซู นางต้องระวังตัวตลอดเวลา หากได้บ้านสามีที่ดี ก็คงดีกว่าถูกขังอยู่ที่นี่

ซูจื่ออวี๋เอ่ยปากถาม

“ไม่ทราบว่าเป็นคุณชายตระกูลใดหรือ?”

ฮูหยินซูเห็นว่าซูจื่ออวี๋ไม่ได้แข็งข้อ จึงแค่นหัวเราะอยู่ในใจ นางนึกถึงคำพูดของแม่นมหลิว นกกระจอกต่อให้ร้ายกาจเพียงใด จะสามารถเอาชนะนกอินทรีอย่างนางได้หรือ?

ขอเพียงกำเรื่องแต่งงานของซูจื่ออวี๋ให้อยู่หมัด ก็เท่ากับกำชีวิตนางเอาไว้ในมือแล้ว!

ฮูหยินซูหันมองซูจื่อหยวนแวบหนึ่ง ซูจื่อหยวนจึงเอ่ยปาก

“เป็นบุตรชายคนรองของรองเจ้ากรมกลาโหมใต้เท้าหัน หันเจิ้น”

แกร้ง!

เกิดเสียงดังหันเหความสนใจของทุกคน

ซูจื่ออวี๋หันมอง เห็นเพียงน้องสี่ ทำช้อนในมือหล่นลงพื้นอย่างไม่ตั้งใจ

คุณหนูสี่ซูจื่อเยว่รีบยิ้มอย่างสำนึกผิด แล้วเอ่ยปากอย่างละอายใจ

“ท่านแม่ เยว่เอ๋อร์ไม่ได้ตั้งใจ”

ฮูหยินซูมองซูจื่อเยว่อย่างไม่สบอารมณ์แวบหนึ่ง เอ่ยปากสั่งซื่อจี้

“ไปเปลี่ยนถ้วยกับตะเกียบชุดใหม่ให้เยว่เอ๋อร์”

ซื่อจี้รีบทำตามคำสั่ง

เรื่องแทรกนี้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแม่สื่อในการนำเสนอหันเจิ้นแก่ซูจื่ออวี๋ นางคุยโวว่าเขาเป็นคนมีความสามารถ รูปร่างสูงใหญ่ ชาติตระกูลดี พร้อมทั้งบอกว่าหน้าตาหล่อเหลา

อย่างไรก็ตามปากของแม่สื่อ ก็เหมือนผีที่หลอกคน

ซูจื่ออวี๋ไม่ได้ยอมรับแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงแต่เอ่ยปากถามว่า

“ท่านพ่อรู้เรื่องนี้หรือไม่?”

ฮูหยินซูเดาได้แต่แรกว่านางต้องถามเช่นนี้ จึงเอ่ยปากบอกว่า

“หลายวันมานี้นายท่านงานยุ่ง วันนี้เกรงว่าคงไม่กลับมากินข้าวด้วย แต่เจ้าวางใจได้ แม่ได้พูดกับนายท่านแล้ว ท่านบอกว่าให้แม่เป็นคนตัดสินใจได้เลย อีกไม่กี่วันหากพระวรกายของฝ่าบาทดีขึ้น ภายในจวนจะจัดงานชมบุปผา ถึงเวลานั้นค่อยให้เจ้าได้เจอกับตระกูลฝั่งสามี ช่วงนี้เจ้ากลับไปเตรียมตัวให้ดี ถึงเวลานั้นหันเจิ้นจะมอบของขวัญพบหน้าให้เจ้า เจ้าเองก็ต้องมอบของขวัญคืนด้วย”

ซูจื่ออวี๋รู้ว่า จากน้ำเสียงของฮูหยินซู เห็นได้ชัดว่านางตัดสินใจในเรื่องนี้แล้ว

สังคมที่อยู่ในระบอบแบบนี้ นางไม่สามารถเรียกร้องความอิสระในการมีคู่ได้ อย่าว่าแต่เรียกร้อง แม้แต่ขัดขืนยังทำไม่ได้ เพราะนั่นจะถือว่าเป็นโทษอกตัญญูที่ร้ายแรง

ซูจื่ออวี๋ได้แต่อดทนกับความอึดอัดไปก่อน หลังจากกินอาหารพร้อมหน้าครอบครัวเสร็จ นางคงต้องไปสืบประวัติของคุณชายรองรองเจ้ากรมกลาโหมคนนี้สักหน่อย

เพียงแต่ซูจื่ออวี๋คิดไม่ถึงว่า ในคืนนั้น นางจะได้รู้ประวัติของคุณชายรองรองเจ้ากรมกลาโหมหันเจิ้น

……

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น

ชิวขุยเอ่ยปาก

“คุณหนูสาม คุณหนูสี่ขอพบเจ้าค่ะ”

ซูจื่ออวี๋สงสัย น้องสี่ของนางเป็นพวกเห็นแก่ผลประโยชน์กับอำนาจมาตลอด ไม่เคยไปมาหาสู่กับนาง ทำไมวันนี้ถึงมาหานางที่นี่ได้? อีกอย่างนี่ก็ดึกมากแล้ว นางมาทำอะไร?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ