ซูจื่ออวี๋ยื่นมือไปตบมือของเขาออก พร้อมเอ่ยอย่างร้อนใจ
“รีบไปช่วยเขาเร็วเข้า!”
ป๋ายหลี่เชียนซางผายมือ แล้วเอ่ยอย่างไม่ร้อนใจ
“กลับไปรอที่ห้องพัก!” เมื่อพูดจบ เขาหายตัวไปทันที
ซูจื่ออวี๋ชะงักอยู่ที่เดิม คิดในใจว่า ป๋ายหลี่เชียนซางไปช่วยคนแล้วหรือ?
……
อีกด้านหนึ่ง ในที่สุดจวินมู่เยว่ก็รั้งพวกของจวินมู่ฉงเอาไว้ไม่อยู่ จวินมู่ฉงดันตัวจวินมู่เยว่ออกพร้อมแค่นหัวเราะ แล้วพาทุกคนออกไปทางด้านหลัง ตรงไปยังคอกม้าที่เกิดเสียงดังขึ้นทันที
หัวใจจวินมู่เยว่ชาวาบ คิดไปคิดมาจึงตามมาด้วย หากคนที่อยู่ในคอกม้าเป็นเทียนชิงจริง ถ้ามีเขาอยู่ด้วยคงพอควบคุมสถานการณ์ได้บ้าง เพื่อไม่ให้จวินมู่ฉงลงโทษเทียนชิงในทีเดียว
จากที่ด้านนอกมีความเคลื่อนไหวมากขนาดนี้ เชื่อว่าจวินมู่เหนียนคงได้ยินเหมือนกัน รอให้จวินมู่เหนียนมาที่นี่ เทียนชิงคงไม่เป็นไรแล้ว
จวินมู่ฉงเดินไปที่คอกม้าอย่างกระหยิ่ม ในหัวของเขาคิดเอาไว้แล้ว ว่าครั้งหน้าจะขอรางวัลจากอานเป่ยเยว่อย่างไร
อานเป่ยเย่วเองก็ดูดีใจไม่น้อย นางใช้สายตาถามจวินมู่ฉง จวินมู่ฉงหันไปกระพริบตาใส่นาง เพื่อเป็นการตอบรับ
เมื่ออานเป่ยเย่วเห็นสีหน้าของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าของนางปิดไม่มิดอีกต่อไป
ยิ่งเข้าใกล้คอกม้า เสียงคร่ำครวญที่คุ้นเคยก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ
เสียงกรีดร้องของหญิงสาวเริ่มอู้อี้ ไม่รู้ว่าเพราะหมดแรงแล้ว หรือว่าถูกอุดปากกันแน่
เสียงคล้ายเสียงปรบมือนี้ ช่างบาดหูอย่างเด่นชัดในยามค่ำคืน
จวินมู่หลานหันมองฉู่อวิ๋นหยางที่ขมวดคิ้ว อดไม่ได้จึงพูดอย่างโมโห
“ข้าจะดูสิ ว่าใครหน้าไหนที่มันช่างบังอาจขนาดนี้ กล้าทำเรื่องบัดสีอย่างโจ่งแจ้ง ทำให้ตงโจวของเราต้องเสียหน้า ลั่วไป๋ คบเพลิง!”
ลั่วไป๋รีบนำคบเพลิงมาส่องสว่างคอกม้าทันที
ทุกคนเห็นว่าม้าสองตัวในคอกม้าถูกผูกไว้ด้านตะวันตก ตรงกองหญ้าที่อยู่ด้านตะวันตก กลับมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว เห็นได้ชัดว่าด้านในมีคนอยู่ เพียงแต่ถูกหญ้าแห้งพวกนั้นบดบัง
เมื่อทุกคนได้ยินจวินมู่ฉงเอ่ยเรียกชื่อของเขา ล้วนอดประหลาดใจไม่ได้
เทียนชิง? ใช่องครักษ์เทียนชิงจวนอ๋องฉินหรือไม่? คงไม่หรอกมั้ง !
ทุกคนรีบหันมองชายหนุ่มที่ตกกระแทกพื้น แต่เขานอนคว่ำอยู่บนพื้น ผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงติดอยู่บนใบหน้าเพราะชื้นเหงื่อ ทำให้ชั่วขณะนั้นไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร
แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็คือ แม้จะถูกโยนออกไปแล้ว เขาก็ยังคงทำท่าทางบัดสีอยู่บนพื้น
สตรีที่อยู่ตรงนั้นรีบเบือนหน้าหนี ไม่ไปมองเขา แต่ทุกคนก็อยากรู้เหลือเกิน เลยไม่มีทีท่าว่าจะจากไป จึงหันไปมองหญิงสาวที่ยังอยู่ในกองหญ้าแห้ง
หญิงสาวคนนั้นนอนหงาย บนตัวเปลือยเปล่า ทำให้มองเห็นชัดเจนว่านางคือใคร
ลั่วไป๋ยื่นคบเพลิงเข้าไปใกล้ จนแสงสว่างส่องไปที่ใบหน้าของหญิงคนนั้น ทำให้ทุกคนเห็นใบหน้าของนางชัดเจน
หนานหยวนหรัวอุทานอย่างตกใจ
“นั่น...นั่นมันอนุหรูอี้ของจวนท่านอ๋องสี่ไม่ใช่หรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
เรื่องนี้ไม่อัพเพิ่มแล้วหรอคะ...
ต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่ๆ...
นางเอกทนงตนเกินไปว่าตัวเองเก่งทำให้ไม่ระแวดระวังและไม่ยอมให้มีคนคุ้มกัน...
สนุกมากๆเลยค่ะ รอ admin นะคะ...
ไม่ลงตอนใหม่แล้วเหรอคะ...
สนุกค่ะ รออัพเดทนะคะ...
ตอนที่241 รอบอัพอยู่ค่ะ 242 มาตอนไหนค่ะ...
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...