ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 67

ซูจื่อเยียนเห็นสร้อยข้อมือสีแดงของซูจื่ออวี๋จึงเอ่ยปาก

“น้องสาม เจ้ายังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์ เหตุใดจึงสวมใส่สิ่งที่มีสีสันเช่นนั้น ช่างไร้ระเบียบนัก ยังไม่เอาของพวกนั้นไปทิ้งอีกหรือ?”

ซูจื่อเยียนอยากให้บรรดาฮูหยินและคุณหนูที่มาร่วมงานเลี้ยงได้เห็นว่าซูจื่ออวี๋ไร้ระเบียบขนาดไหน

ขอให้ซูจื่ออวี๋เอ่ยปากโต้เถียงกับนาง ต่อให้นางทำตัวน่าสงสารแค่ไหน ต่อไปชื่อของนางก็ต้องเสื่อมเสีย หากเป็นเช่นนั้นซูจื่อเยียนจะพอใจมาก

แต่คิดไม่ถึงว่า ซูจื่ออวี๋ที่ก่อนหน้านี้สู้ไม่ยอมถอย วันนี้กลับว่านอนสอนง่าย

ทันใดนั้นซูจื่ออวี๋ยิ้มและบอกว่า

“พี่รองสั่งสอนถูกต้องแล้ว ข้าไม่รอบคอบเอง ยังอยู่ในช่วงไว้ทุกข์แท้ๆ เดิมข้าไม่ควรมาร่วมงานเลี้ยงด้วยซ้ำ แต่ท่านแม่ขอร้อง ข้าเองก็ไม่มาไม่ได้ อีกทั้งข้าต้องแต่งกายด้วยชุดสีพื้น เกรงว่าจะเสียมารยาทต่อแขกผู้มีเกียรติ จึงได้สวมใส่เครื่องประดับที่ดีที่สุดที่ท่านแม่เคยให้ จะได้เป็นสิริมงคลด้วย”

เหล่าฮูหยินที่มาร่วมงาน ล้วนมีเป็นผู้มีประสบการณ์ในเรือนตัวเองมาหลายปี ไม่ต้องชี้แนะก็เข้าใจความหมายของซูจื่ออวี๋เป็นอย่างดี

ซูจื่ออวี๋พูดไม่เยอะ ทว่ากลับบอกทุกคนชัดเจน หนึ่งนางอยู่ในช่วงไว้ทุกข์แต่กลับถูกมารดาใหญ่บังคับให้ออกเรือน สองมารดาใหญ่ของนางตระหนี่ ของขวัญที่ดีที่สุดที่เคยมอบให้นางเป็นเพียงสร้อยข้อมือเท่านั้น สามนางเป็นเพียงลูกของอนุ จึงถูกพี่รองว่ากล่าวตักเตือนได้ตลอดเวลา

ฮูหยินหันเม้มปาก นางไม่ได้เอ่ยปากพูดสิ่งใด เพียงแต่อยากจะดูสถานการณ์ต่อ

ส่วนคำพูดเหน็บแนมของซูจื่อเยียน ถูกซูจื่ออวี๋โต้กลับอย่างง่ายดาย ทำให้นางรูสึกเสียหน้าไม่น้อย

ฮูหยินซูปวดหัวกับลูกสาวไม่เอาไหนคนนี้ จึงได้อดกลั้นความโกรธ

“เยียนเอ๋อร์ เจ้าไปช่วยพี่ใหญ่ของเจ้าต้อนรับแขกเหรื่อตรงทางเข้าเถอะ อวี๋เอ๋อร์ตามข้ามา”

ซูจื่อเยียนไม่พอใจนัก นางก็อยากเผยโฉมต่อหน้าเหล่าฮูหยินเหมือนกัน โดยเฉพาะแขกที่มาร่วมงานในวันนี้ มีพระชายาของจวนอ๋องอานมาร่วมงานด้วย

พระชายาอานชินอ๋องได้รับคำสั่งให้ช่วยงานองค์ฮองเฮา ในการดูแลรับผิดชอบการคัดเลือกพระชายาทั้งเจ็ดพร้อมกันในคราวนี้ ครั้งที่แล้วซูจื่ออวี๋ล่วงเกินจวนอ๋องอานทำให้นางไม่มีโอกาสเข้าใกล้ ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี

แม้นางจะเป็นคนของอ๋องรองจวินมู่หลานแล้ว แต่โลกนี้ไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีเรื่องใดไม่เปลี่ยนแปลง หากได้รับความชื่นชอบจากพระชายาอานชินอ๋อง เช่นนั้นเรื่องนี้มั่นใจเกินกว่าครึ่งแล้ว

ทว่าท่านแม่กลับต้องการให้นางออกห่างหรือ?

ซูจื่อเยียนไม่อยากจากไป แต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งฮูหยินซู จึงได้แต่จากไปโดยดี

……

ซูจื่ออวี๋ตามตามพวกของฮูหยินซู มาที่สวนดอกไม้ของจวนเสนาบดี ดอกไม้ในฤดูใบไม้ผลิแข่งกันเบ่งบาน สวยสดงดงามจริงๆ

ฮูหยินหันคุยเรื่องจิปาถะกับซูจื่ออวี๋อย่างอ่อนโยน เช่นว่าในยามปกติชอบกินสิ่งใด ยามว่างชอบทำอะไร ซูจื่ออวี๋ตอบนางอย่างใจเย็น ท่าทางของนางว่านอนสอนง่ายเหลือเกิน ดูก็รู้ว่าเป็นคนนิสัยโอนอ่อนผ่อนตาม

แม้ฮูหยินหันจะรู้สึกว่าซูจื่ออวี๋อ่อนแอไปบ้าง ทว่ารูปโฉมงดงาม อีกอย่างหันเจิ้นมีพี่ชาย ซูจื่ออวี๋แต่งเข้าไปแล้วก็ไม่ต้องทำหน้าที่ฮูหยินใหญ่ นางจะอ่อนแอก็อ่อนแอไปเถอะ

ฮูหยินหันหันมองสาวใช้ของตนแวบหนึ่ง สาวใช้รีบพยักหน้าจากไปทันที ซูจื่ออวี๋เข้าใจทันที นางกำลังจะไปเรียกหันเจิ้นให้มาพบตนที่นี่

เมื่อเห็นซูจื่ออวี๋ให้ความร่วมมือและว่านอนสอนง่ายถึงเพียงนี้ กลับทำให้ฮูหยินซูไม่สบายใจ

ฮูหยินซูออกมาจากกลุ่มคนโดยไม่เป็นที่สังเกต จากนั้นลากตัวแม่นมหลิวคนสนิท บอกว่า

“เจ้าว่านังเด็กนั่นมันเป็นอะไรไป? ยอมรับแล้วหรือ?” สองวันก่อนยังเอาเรื่องขนาดนั้น เหตุใดวันนี้จึงว่านอนสอนง่ายเช่นนี้

แม่นมหลิวเองก็สงสัย จึงเอ่ยปากปลอบโยน

“ฮูหยิน เรื่องแต่งงานของหญิงสาว ล้วนต้องเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่ ฟังคำแนะนำของแม่สื่อ ต่อให้นางปีกล้าขาแข็งเพียงใด มีหรือจะสู้ฮูหยินได้? คำว่ากตัญญูของฮูหยินคำเดียว ก็สามารถกำราบนางได้ตลอดชีวิตแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ