ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 683

จวินมู่เยว่ถอนหายใจ คิดว่าซูจื่ออวี๋คงลืมเรื่องนี้ไปแล้ว ช่างเถอะๆ ค่อยคุยกันในวันนี้เถอะ

ตอนที่จวินมู่เยว่กำลังจะถอดชุดเข้านอน อยู่ๆ เสียงของเซวียนซางก็ดังมาจากประตู

เซวียนซางถามว่า “เฟยเย่ เจ้านายของเจ้าหลับแล้วหรือยัง

เฟยเย่ยังไม่ทันตอบ จวินมู่เยว่ก็โดดออกมาและพูดอย่างตื่นเต้น “ยังๆ เซวียนซาง อาซ้อน้อยของข้าขอให้เจ้ามาหาข้าใช่หรือไม่?”

เซวียนซางตะลึงงัน และพยักหน้าอย่างไม่รู้จัว “เอ่อ...เอ่อ ใช่ๆๆ ขอรับ พระชายาสั่งให้ข้าน้อยเอาของสิ่งนี้มาให้ท่านอ๋องแปดในยามสาม โดยบอกว่าท่านอ๋องแปดสามารถนำมันไปโรยตามประตูกระโจมต่างๆ ได้ หลังจากที่หลังจากท่านอ๋องแปดโรยแล้ว เรื่องในใจที่ท่านสงสัยก็จะได้คำตอบ”

จวินมู่เยว่หยิบถุงผ้าใบเล็กออกมาจากมือของเซวียนซาง ขมวดคิ้วและพูดด้วยความสับสน “เป็นผงแป้งอีกแล้วหรือ?”

เซวียนซางส่ายหัวแล้วพูดว่า “ข้าน้อยเองก็ไม่ทราบ แต่พระชายาบอกข้าว่าหลังจากท่านอ๋องพบคำตอบแล้ว อย่าลืมพรมน้ำลงบนผงแป้งที่พื้น แล้วร่องรอยจะหายไป อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น”

แหวกหญ้าให้งูตื่นหรือ?

จวินมู่เยว่เลิกคิ้ว รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเรื่อยๆ แทบจะรอออกไป “จับงู” ไม่ไหวแล้ว

อย่างไรเสีย ที่ด้านนอกกระโจมทุกแห่ง ต่างก็มีองครักษ์เฝ้าอยู่ อยากจะตรวจสอบทีละกระโจมคงจะลำบากไม่น้อย ถ้าเกิดว่าทำให้คนอื่นตื่นตัวก็ไม่ดีแล้ว

จวินมู่เยว่คิดอยู่พักหนึ่ง จึงตัดสินใจไปที่กระโจมของอันเป่ยเยว่ลองดูว่ามีร่องรอยอะไรหรือไม่?

......

จวินมู่เยว่มาที่ประตูกระโจมของอันเป่ยเยว่ ใช้ฐานะอ๋องแปดของเขาไล่องครักษ์ทั้งสองออกไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็รีบหยิบถุงแป้งออกมาโรย

จากนั้นจวินมู่เยว่ก็เห็นภาพมหัศจรรย์ รอยเท้าเรืองแสงปรากฏขึ้นบนพื้นหญ้า

จู่ๆ จวินมู่เยว่ก็รู้ว่า ผงแป้งนี้เหมือนผงแป้งที่โรยตอนเย็น เมื่อผงแป้งในมือของเขาผสมกัน มันก็เรืองแสงในตอนกลางคืน

ดังนั้นตราบใดที่โรยผงแป้งนี้แล้ว และดูว่าที่หน้าประตูกระโจมของใครเรืองแสง คนนั้นก็คือคนที่แอบนัดพบกับอันเป่ยเยว่

จวินมู่เยว่ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการกำจัดองครักษ์ที่หน้าประตูกระโจม จากนั้นก็ทดลองไปทีละที่ แต่น่าแปลกที่ผลลัพธ์สุดท้ายกลับไม่ใช่ที่เดียว

นอกจากกระโจมของอันเป่ยเยว่ อันเป่ยซาน และกระโจมของจวินมู่หลานแล้ว ยังมีกระโจมของจวินมู่ฉยงและที่มีรอยเท้าเรืองแสงอยู่

ทั้งที่พวกเขายังทะเลาะกันอยู่ แต่ทำไมจู่ๆ นางถึงได้เอาตัวเองเข้าไปในอ้อมกอดของเขาเล่า?

ซูจื่ออวี๋รู้สึกเขินอาย และประหลาดใจขณะพยายามดึงมือและเท้ากลับอย่างระมัดระวัง

แต่นางยังไม่ทันได้ดึงมือเล็กๆ ออกจากอ้อมกอดของจวินมู่เหนียน ข้อมือของนางก็ตึงขึ้น เพราะจวินมู่เหนียนจับนางเอาไว้

หัวใจของซูจื่ออวี๋เต้นรัว หลับตาแล้วขมวดคิ้วพร้อมกับกัดริมฝีปาก แต่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองคนตรงหน้า

จวินมู่เหนียนหรี่ตาลงแล้วมองไปที่ซูจื่ออวี๋ที่กำลังกระอักกระอ่วน ความรู้สึกที่ซ่อนไว้เต็มอกเมื่อคืนนี้ ได้หายไปทันที

เขาหัวเราะเบาๆ แล้วจับมือเล็กๆ ของซูจื่ออวี๋ กดมันไว้บนหน้าอกของเขาเอาไว้แน่นแล้วพูดว่า “มันน่าสัมผัสใช่หรือไม่?”

นี่...พูดอะไร?

ซูจื่ออวี๋ก็พูดด้วยความกระอักกระอ่วน “เจ้า...เจ้าปล่อยข้านะ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ