หันถิงจับเชือกแน่น จากนั้นเอ่ยขึ้นอย่างโอนอ่อน
“เป็นคุณหนูสามตระกูลเสนาบดีซู น้องชายข้าใฝ่สูงเอง”
ยังไม่ทันที่ท่านอ๋องสี่จะมีปฏิกริยาตอบโต้ใด ท่านอ๋องรองจวินมู่หลานก็ดึงบังเหียนให้ม้าหยุด เอ่ยปากว่า
“ที่เจ้าว่า...คือซูจื่ออวี๋หรือ?”
หันถิงสังเกตเห็นความไม่สบอารมณ์ของจวินมู่หลาน เมื่อคิดได้ว่าก่อนหน้านี้ซูจื่ออวี๋มีข่าวลือกับจวินมู่หลาน จึงเข้าใจทันที
ท่านอ๋องรองไม่ชอบซูจื่ออวี๋ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่หญิงสาวที่ตามตัวเองอยู่ตลอด จะแต่งงานไปหาชายอื่นก็อีกเรื่องหนึ่ง
แต่การแต่งงานในครั้งนี้ ไม่ใช่ตระกูลหันที่ดึงดันไม่ยอมปล่อย แต่ฮูหยินซูต่างหากที่เป็นคนเริ่ม ดังนั้นต่อให้ท่านอ๋องรองจะโกรธเคือง ก็ไม่ควรโกรธเคืองตระกูลหัน
หันถิงเรียบเรียงคำพูด ก่อนจะบอกว่า
“เรียนท่านอ๋องรอง เป็นคุณหนูสามตระกูลซูจริง ฮูหยินซูกับท่านแม่เป็นสหายกัน เห็นว่าท่านแม่เป็นแม่สามีที่มีเมตตา จึงได้ยกคุณหนูสามให้กับน้องรอง”
จวินมู่หลานสีหน้าสลดเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้พูดสิ่งใด
แต่จวินมู่ฉงกลับหัวเราะพรืด บอกว่า
“แม่เจ้าเมตตาหรือไม่ ข้าไม่รู้ แต่ฮูหยินเสนาบดี ใจร้ายเหลือเกิน ต่อให้อยากผูกสัมพันธ์กับตระกูลหัน ทว่ากลับไม่ยกให้เจ้าที่เป็นรองผู้บัญชาการทหารหลงอู่ซึ่งยังโสดอยู่ แต่กลับไปยกให้เจ้าโง่รองน้องเจ้า จิ๊จิ๊จิ๊ ช่างอำมหิตเสียจริง! เสียดายรูปโฉมของซูจื่ออวี๋ ไหนจะรูปร่างนั่นอีก”
จวินมู่ฉงยกมือขึ้นข้างหนึ่ง หรี่ตาลงแล้วกะขนาดกลางอากาศ บอกว่า
“พี่รอง เอวของซูจื่ออวี๋ เกรงว่าคงไม่กว้างกว่าฝ่ามือของข้าหรอกมั้ง”
จวินมู่ฉงคำพูดต่ำทราม แต่ใครใช้ให้เขาเป็นลูกชายของฮ่องเต้ หันถิงได้แต่โกรธอยู่ในใจ เขาเม้มปากไม่พูดไม่จา
แต่กลับเป็นจวินมู่หลานที่ได้ยินจวินมู่ฉงเอ่ยขึ้น ทำให้เขาอดนึกถึงหนึ่งเดือนก่อนไม่ได้ ที่ครั้งนั้นเขาได้กอดนางเอาไว้
เอวของนาง เล็กมากจริงๆ ทั้งเล็กทั้งนุ่ม เมื่ออยู่ในอ้อมอกเหมือนกับไร้กระดุก คิดว่าหากใช้แรงเพียงนิดเดียง คงทำให้นางหักหรือบุบสลายได้
ไม่รู้ว่าจวินมู่หลานเป็นอะไร เขายิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ทันใดนั้นจึงหันหัวม้าย้อนกลับ บอกว่า
“จวนเสนาบดีจัดงานเลี้ยง ข้าจะพลาดเรื่องสนุกได้อย่างไร! กลับไป! ย๊าห์!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...