ยอดชายานักปรุงพิษ นิยาย บท 75

ฮูหยินหันได้ยินก็ตื่นตระหนก รีบบอกว่า

“ท่านเบาเสียงหน่อย!”

ใต้เท้าหันรู้ว่าเสียงดังเกินไป จึงรีบหันมองรอบด้าน พบว่าผู้คนยังพูดคุยกันอยู่ ไม่มีใครสนใจพวกเขาสองผัวเมียเลย จึงได้โล่งอก แล้วกดเสียงต่ำถามว่า

“ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?”

ฮูหยินหันเอ่ยปากบอก

“สร้อยข้อมือสีแดงที่นังหนูสามตระกูลซูสวมใส่ ไม่ใช่โมราสีแดง ข้าได้ลองดมกลิ่นที่ติดมือเจิ้นเอ๋อร์แล้ว มันคือสร้อยเม็ดชะมดเชียง หากสวมใส่นานวันจะทำให้ร่างกายย่ำแย่ ข้าได้ยินนางพูดว่าเป็นของขวัญในพิธีปักปิ่น นางได้สวมใส่เป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ร่างกายของนางคง...”

เรือนหลังของใต้เท้าหันเงียบสงบ เพราะเขามีฮูหยินหันเพียงคนเดียว ดังนั้นวิธีการของสตรีในเรือนหลังนี้ เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก

ทว่าฮูหยินหันกลับเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี หลังจากได้ยินสิ่งที่ฮูหยินตัวเองพูด ใต้เท้าหันโมโหขึ้นทันที เขาพูดเสียงต่ำอย่างโกรธเคือง

“เสนาบดีซูรังแกกันมากเกินไปแล้ว เพราะลูกสาวตัวเองมีลูกไม่ได้ก็เลยจะเอายัดให้พวกเราหรือ?”

ฮูหยินหันถอนหายใจ ในใจนางเองก็คิดเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคุณหนูจวนเสนาบดี จะยอมแต่งกับลูกชายโง่ของนางได้อย่างไร?

ใต้เท้าหันเม้มปาก เขาเก็บกดความโกรธเอาไว้ บอกว่า

“เจ้าไปเรียกตัวเจิ้นเอ๋อร์มาที่นี่”

——

ในเวลางานเลี้ยง ทุกคนต่างนั่งลงตามที่นั่งของตัวเอง

หากเป็นเวลาปกติ ซูจื่ออวี๋คงไม่มีโอกาสได้นั่งอยู่โต๊ะตัวกลาง แต่วันนี้นางคือตัวเอก ดังนั้นฮูหยินซูจึงต้องพาลูกสาวทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวกลางพร้อมกัน

คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานย่อมเป็นอ๋องรองจวินมู่หลาน จากนั้นด้านซ้ายเป็นอ๋องฉินจวินมู่เหนียน อ๋องแปดจวินมู่เย่ว ใต้เท้าหัน ฮูหยินหันตามลำดับ นอกนั้นยังมีสองพี่น้องหันถิงกับหันเจิ้น

ส่วนขวามือเป็นอ๋องสี่จวินมู่ฉง เสนาบดีซู ฮูหยินซูและคุณหนูทั้งสามของตระกูลซู

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ซูจื่ออวี๋นั่งอยู่ตรงข้ามจวินมู่หลานพอดี

จวินมู่หลานหรี่ตาแล้วมองซูจื่ออวี๋ ไม่เข้าใจว่าทำไมซูจื่ออวี๋ยิ่งอยู่ยิ่งงดงาม

ไม่แต่งหน้า แต่ผิวกลับขาวอมชมพู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ