ฮูหยินหันได้ยินก็ตื่นตระหนก รีบบอกว่า
“ท่านเบาเสียงหน่อย!”
ใต้เท้าหันรู้ว่าเสียงดังเกินไป จึงรีบหันมองรอบด้าน พบว่าผู้คนยังพูดคุยกันอยู่ ไม่มีใครสนใจพวกเขาสองผัวเมียเลย จึงได้โล่งอก แล้วกดเสียงต่ำถามว่า
“ตกลงเกิดเรื่องใดขึ้นกันแน่?”
ฮูหยินหันเอ่ยปากบอก
“สร้อยข้อมือสีแดงที่นังหนูสามตระกูลซูสวมใส่ ไม่ใช่โมราสีแดง ข้าได้ลองดมกลิ่นที่ติดมือเจิ้นเอ๋อร์แล้ว มันคือสร้อยเม็ดชะมดเชียง หากสวมใส่นานวันจะทำให้ร่างกายย่ำแย่ ข้าได้ยินนางพูดว่าเป็นของขวัญในพิธีปักปิ่น นางได้สวมใส่เป็นเวลาหนึ่งปีแล้ว ร่างกายของนางคง...”
เรือนหลังของใต้เท้าหันเงียบสงบ เพราะเขามีฮูหยินหันเพียงคนเดียว ดังนั้นวิธีการของสตรีในเรือนหลังนี้ เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก
ทว่าฮูหยินหันกลับเข้าใจเรื่องพวกนี้ดี หลังจากได้ยินสิ่งที่ฮูหยินตัวเองพูด ใต้เท้าหันโมโหขึ้นทันที เขาพูดเสียงต่ำอย่างโกรธเคือง
“เสนาบดีซูรังแกกันมากเกินไปแล้ว เพราะลูกสาวตัวเองมีลูกไม่ได้ก็เลยจะเอายัดให้พวกเราหรือ?”
ฮูหยินหันถอนหายใจ ในใจนางเองก็คิดเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคุณหนูจวนเสนาบดี จะยอมแต่งกับลูกชายโง่ของนางได้อย่างไร?
ใต้เท้าหันเม้มปาก เขาเก็บกดความโกรธเอาไว้ บอกว่า
“เจ้าไปเรียกตัวเจิ้นเอ๋อร์มาที่นี่”
——
ในเวลางานเลี้ยง ทุกคนต่างนั่งลงตามที่นั่งของตัวเอง
หากเป็นเวลาปกติ ซูจื่ออวี๋คงไม่มีโอกาสได้นั่งอยู่โต๊ะตัวกลาง แต่วันนี้นางคือตัวเอก ดังนั้นฮูหยินซูจึงต้องพาลูกสาวทั้งสามคนนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวกลางพร้อมกัน
คนที่นั่งอยู่ตำแหน่งประธานย่อมเป็นอ๋องรองจวินมู่หลาน จากนั้นด้านซ้ายเป็นอ๋องฉินจวินมู่เหนียน อ๋องแปดจวินมู่เย่ว ใต้เท้าหัน ฮูหยินหันตามลำดับ นอกนั้นยังมีสองพี่น้องหันถิงกับหันเจิ้น
ส่วนขวามือเป็นอ๋องสี่จวินมู่ฉง เสนาบดีซู ฮูหยินซูและคุณหนูทั้งสามของตระกูลซู
เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ซูจื่ออวี๋นั่งอยู่ตรงข้ามจวินมู่หลานพอดี
จวินมู่หลานหรี่ตาแล้วมองซูจื่ออวี๋ ไม่เข้าใจว่าทำไมซูจื่ออวี๋ยิ่งอยู่ยิ่งงดงาม
ไม่แต่งหน้า แต่ผิวกลับขาวอมชมพู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดชายานักปรุงพิษ
รอการอัพเดตอยู่นะคะ...
สนุกมาก รออ่านทุกวัน แต่ลงแค่วันละ 2 ตอน ฮือออออ...
จะเจอไหมนะ...
รอตอนต่อไปค่าาา ลงเยอะๆนะคะ สนุกมากจริงๆ...
หมิงโหลวคือใครกันระ...